ยึดที่ดินพันไร่ผุดนิคมแปดริ้ว “บาวแดง” บุกธุรกิจรอบทิศ/โค่นM-150

แม่ทัพบาวแดง ยึด 1 พันไร่ลุยตั้งนิคมแปดริ้ว สยายปีกอาณาจักรเครื่องดื่ม-ค้าปลีก ก่อนกางแผน 5 ปี ขึ้นแท่น “เวิลด์คลาสแบรนด์” ปักธงยุโรปกว่า 20 ประเทศ ยึดมาร์เก็ตแชร์ในจีน 20% พร้อมปรับยุทธศาสตร์ชูกำลังรอบใหม่ เจาะลึกรายอำเภอ หวังโค่นเอ็ม-150 ขึ้นเบอร์ 1 ในปี 2563

“เสถียร เศรษฐสิทธิ์” หัวเรือใหญ่ค่ายคาราบาว และอีกบทบาทหนึ่งคือ นักการตลาดมือฉมัง มองขาดเรื่องการลงทุน ทำให้อาณาจักรของเขาวันนี้มีธุรกิจที่คลุมตั้งแต่ต้นน้ำ ไปจนถึงปลายน้ำ ทั้งเครื่องดื่มชูกำลัง โรงงานผลิตขวดแก้ว คลังสินค้า และแคชแวนเพื่อสร้างเน็ตเวิร์กร้านค้าของตัวเอง ให้เป็นช่องทางการจำหน่าย เพื่อเป็นใบเบิกทางให้กับสินค้าใหม่ ๆ ที่จะออกสู่ตลาด ซึ่งวันนี้ครอบคลุมไปแล้วกว่า 2 แสนร้านค้าทั่วประเทศรวมถึงธุรกิจค้าปลีกภายใต้แบรนด์ซีเจ ซูเปอร์มาร์เก็ต, โรงเหล้า ภายใต้แบรนด์ตะวันแดง และล่าสุดการทำนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งไม่เพียงแต่จะรองรับการเติบโตของธุรกิจในเครือ แต่ยังจะช่วยเพิ่มรายได้จากธุรกิจข้างนอกที่ต้องการเข้ามาตั้งโรงงานในนิคมด้วย

ยึด 1 พันไร่ ตั้งนิคม

แหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรมเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า มีผู้ประกอบการอุตสาหกรรมรายใหญ่หลายรายเข้ามากว้านซื้อที่ดินในฉะเชิงเทรา ทั้งกลุ่มพลังงาน อสังหาฯ นิคมอุตสาหกรรม ฯลฯ เป็นผลมาจากนโยบายพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) และการที่นิคมอุตสาหกรรมเดิมทั้ง 4 แห่งในจังหวัดมีที่ไม่เพียงพอ

โดยหนึ่งในบริษัทที่เข้ามาลงทุนนิคมอุตสาหกรรมนั้นคือ กลุ่มของนายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่ให้บริษัท เดอะซิตี้ จำกัด ยื่นขอจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในชื่อ “Smart Green City Park” โดยเตรียมที่ดินกว่า 1,000 ไร่ ในตำบลบางวัวคณารักษ์ บางปะกง ฉะเชิงเทรา เพื่อทำอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร เครื่องดื่ม รวมถึงอาหารสุขภาพ แต่ปัจจุบันยังติดเรื่องผังมือง

นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เบื้องต้นของนิคมดังกล่าวจะทำไว้รองรับการขยายตัวของกลุ่ม “ซีเจ ซูเปอร์มาร์เก็ต” ซึ่งเป็นธุรกิจส่วนตัว ขณะนี้มีสาขาอยู่ประมาณ 300 สาขา ตั้งอยู่ในภาคกลางเป็นหลัก และมีเป้าหมายที่จะขยายสาขามากขึ้นเป็น 600 สาขาภายในปี 2563 และจะนำบริษัท ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป จำกัด ที่บริหารร้านซีเจฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯด้วยเช่นกัน โดยประเมินว่าจะมีรายได้ ณ ตอนที่เข้าตลาด ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ขณะที่ปัจจุบันบริษัทดังกล่าวมีรายได้ 1.2 หมื่นล้านบาท

คาราบาวแดงเวิลด์คลาส

ส่วนด้านของธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลังภายใต้แบรนด์ “คาราบาวแดง” มีทิศทางขยายตัวไปยังตลาดต่างประเทศมากขึ้น รองรับการเติบโตใหม่ ๆ เนื่องจากตลาดในประเทศค่อนข้างทรงตัว จากกำลังซื้อรากหญ้าที่ได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจ และราคาพืชผลการเกษตรที่ตกต่ำลงในช่วงระยะเวลา 1-2 ปีที่ผ่านมา ตลอดจนตอบรับกับวิสัยทัศน์ของบริษัทที่ต้องการเป็นเวิลด์คลาสโปรดักต์ เวิลด์คลาสแบรนด์ มีเป้าหมายให้เครื่องดื่มของคาราบาวเป็นตราสินค้าระดับโลก

โดยเร็ว ๆ นี้จะนำคาราบาวแดงเข้าไปขายในฝรั่งเศส เม็กซิโก แถบคาบสมุทรแคริบเบียน และทางยุโรปตอนเหนือ เพื่อต่อยอดจากการเข้าไปสร้างแบรนด์ในอังกฤษผ่านแพลตฟอร์มฟุตบอล ทั้งการเข้าไปสปอนเซอร์ลีกคัพ ที่ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อมาเป็นคาราบาว คัพ และสโมสรฟุตบอลเชลซี ซึ่งมีแฟนคลับอยู่ทั่วโลก

“เป้าหมายของการเป็นเวิลด์คลาส คิดว่าไม่เกิน 3-5 ปี จะทำให้คาราบาวแดงขยายเข้าไปทั่วยุโรป อย่างน้อยก็ 20 ประเทศ และมีมาร์เก็ตแชร์ประมาณ 20% ในประเทศจีน ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่าตลาดนี้จะมีขนาดถึง 50% ของตลาดชูกำลังทั่วโลก และต่อไปที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุด ในอนาคต”

รีวิวแผนชูกำลัง โค่น M-150

นายเสถียรระบุว่า ส่วนทิศทางของเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศนั้น ล่าสุดได้ปรับแผนการทำตลาดใหม่ เพื่อรับมือกับกำลังซื้อ และการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น โดยได้ทำการปรับแผนครั้งใหญ่ เพื่อเจาะในแต่ละพื้นที่อย่างละเอียดมากขึ้น โดยโฟกัสรายอำเภอ จากเดิมที่จะโฟกัสเป็นภาพใหญ่ทั้งจังหวัด จากนั้นจะนำทีมสาวบาวแดงเข้าไปรุกทำกิจกรรมร่วมกับร้านค้าและผู้บริโภค เพื่อสร้างการทดลองสินค้า เปลี่ยนพฤติกรรม สร้างแบรนด์อะแวร์เนส และยอดขาย โดยเพิ่มงบฯการตลาดมากขึ้นเป็น 600 ล้านบาท จากปกติที่จะใช้ปีละ 500 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นให้ยอดขายในประเทศทั้งปีเติบโต 10% หลังจากครึ่งปีแรกยอดขายในประเทศไม่เติบโตมากนัก

โดยเป้าหมายของคาราบาวแดง คือ การขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในตลาดภายในปี 2563 มีมาร์เก็ตแชร์มากกว่า 35% จากปัจจุบันที่มีอยู่ประมาณ 25-26% เป็นเบอร์ 2 ของตลาด ส่วนเบอร์ 1 หรือเอ็ม-150 มีมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 40%

หนุนบอลโลก ปลุกสินค้าใหม่

ตลอดจนได้นำเอสเคยูใหม่ “คาราบาวแคน” เครื่องดื่มชูกำลังอัดแก๊สในบรรจุภัณฑ์กระป๋อง กลิ่นกรีน แอปเปิ้ล เข้ามาวางขายในไทยเพิ่มเติม ในราคา 25 บาท 330 มล. หลังจากประสบความสำเร็จในตลาดอังกฤษมาแล้ว พร้อมกับเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ ทูพี เซาท์ไซด์ แรปเปอร์ชื่อดังในขณะนี้ และการโฆษณาผ่านสื่อต่าง ๆ อย่างครบวงจร เพื่อรีเฟรชแบรนด์ และสร้างภาพลักษณ์ที่ทันสมัย ขยายฐานกลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่น หรือคนรุ่นใหม่มากขึ้น เนื่องจากภาพลักษณ์ของชูกำลังแบบเดิมค่อนข้างผูกติดอยู่กับคนใช้แรงงาน รากหญ้าเป็นหลัก โดยตลาดชูกำลังอัดแก๊สประเมินว่ามีมูลค่าประมาณ 3 ล้านกระป๋องต่อปี เนื่องจากมีผู้เล่นน้อยมากเมื่อเทียบกับตลาดชูกำลังทั่วไป ที่มีมูลค่าประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท

โดยสินค้าใหม่จะเร่งสร้างการรับรู้ในช่วงบอลโลก ร่วมกับแคมเปญ “สวัสดีบอลโลก ลุ้นโชคกับคาราบาว” ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 มิ.ย.-15 ก.ค.นี้ ซึ่งคาราบาวกรุ๊ปเป็น 1 ในเอกชนที่ลงขันสนับสนุนการถ่ายทอดสด จึงได้แอร์ไทม์ในการโฆษณาระหว่างแมตช์การแข่งขัน เป็นเครื่องดื่มชูกำลังแบรนด์เดียวที่ได้เวลาในช่วงดังกล่าว

เพิ่มพอร์ตเหล้าขาว-บรั่นดี

นอกจากนี้ ธุรกิจโรงเหล้าภายใต้บริษัท ตะวันแดง 1999 จำกัด ที่ลงทุนส่วนตัว ร่วมกับผู้ถือหุ้นใหญ่ของคาราบาว ล่าสุดได้เปิดตัวสินค้าใหม่ “สุราข้าวหอม” อยู่ในกลุ่มเหล้าขาวที่ทำมาจากข้าว ซึ่งจะต่างจากเหล้าขาวทั่วไปในตลาดที่ใช้โมลาส หรือกากน้ำตาลในการผลิต