ข้อมูลจากนีลเส็น ระบุว่า ธุรกิจความงามและเครื่องสำอางในประเทศไทย มีมูลค่าราวปีละ 7.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.12 แสนล้านบาท) แต่เนื่องจากปีนี้เจอโควิดเข้าให้ สาว ๆ จึงพากันลดการซื้อเครื่องสำอางลง ตลาดนี้เลยหดตัวลงถึง 20%
ที่ผ่านมา เราจึงได้เห็นแบรนด์เครื่องสำอางทั้งแมส, พรีเมียมแมส ไปจนถึงลักเซอรี่ หันมาลุยแพลตฟอร์มออนไลน์มากยิ่งขึ้น บางแบรนด์อย่าง “อีฟโรเช” ถึงกับรอดจากความตาย มียอดขายในช่องออนไลน์เติบโตถึง 357%
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- ออมสิน ฉลองครบวาระ 111 ปี จัดเต็ม สลากออมสินลุ้นรางวัลใหญ่ 111 ล้านบาท
แต่จะให้มุ่งขายอย่างเดียวก็ดูจะดาษดื่นไป หลายแบรนด์จึงจับมือกับแพลตฟอร์ม “อี-คอมเมิร์ซ” สร้างความตื่นเต้นให้กับสาว ๆ
เมื่อช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา “ช้อปปี้” ผุด ฟีเจอร์ “Shopee BeautyCam” ลองเครื่องสำอางได้ก่อนซื้อ นำเทคโนโลยี AR เข้ามาช่วยให้เหล่าขาช้อปได้ทดลองเครื่องสำอางได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องไปที่ร้าน ประเดิมลองกับแบรนด์ยักษ์อย่าง “ลอรีอัล”
โดยนำเทคโนโลยี AR ช่วยรจำลองภาพใบหน้าของผู้ใช้งาน ผู้ซื้อสามารถทดลองเครื่องสำอางในเฉดสีที่ต้องการได้ โดยจะปรากฎภาพเสมือนจริงในรูปแบบของวีดีโอ หรือ ภาพเซลฟี่ ซึ่งเกิดจากเทคโนโลยี ModiFace ของลอรีอัล ที่ผสมผสาน AI ในการเปรียบเทียบสีผิว พร้อมกับการวิเคราะห์ข้อมูลโดยอ้างอิงจากแบรนด์ รูปภาพ และคำอธิบายที่สามารถพบได้ในสื่อโซเชียลมีเดีย
ความจริงแล้ว ฟีเจอร์ “Shopee BeautyCam” เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อเทศกาลเฉลิมฉลองวันลิปสติกโลก (International Lipstick Day) เมื่อเดือนกรกฎาคมปีก่อน ซึ่งขณะนั้นได้ทดลองใช้ฟีเจอร์ดังกล่าวกับผลิตภัณฑ์ลิปสติกของลอรีอัลก่อนเป็นอันดับแรก และมีแผนพัฒนาฟีเจอร์ให้ครอบคลุมกับทุกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางอื่น ๆ ที่มีวางจำหน่ายทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น
ล่าสุด เป็นคิวของ “พอนด์ส” จากค่ายยูนิลิเวอร์ จับมือกับ “ช้อปปี้” เจ้าเดิม เปิดตัวแคมเปญระดับภูมิภาค ‘Smarter Skincare Just For You’ ซึ่งเป็นการผนวกเทคโนโลยี Skin Advisor Live (SAL) แชตบอทปัญญาประดิษฐ์สุดล้ำของพอนด์ส ตอบสนองความต้องการ และสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับกลุ่มผู้บริโภคยุคดิจิทัลทั่วทั้งภูมิภาค
โดยเจ้า SAL จะช่วยวิเคราะห์สภาพผิวของผู้ใช้งานแต่ละคน เพื่อให้ผู้ใช้งานเข้าใจอย่างลึกซึ้งและเลือกผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่ช่วยตอบโจทย์ความต้องการของผิวได้อย่างตรงจุด ทำได้ง่าย ๆ จากที่บ้าน หมดปัญหาในการเลือกสกินแคร์ให้เหมาะสมกับตัวเอง จากตัวเลือกที่มีอยู่มากมายบนช่องทางออนไลน์
แคมเปญนี้จัดขึ้นใน 4 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม เริ่มต้นในเดือนธันวาคมนี้
อย่างไรก็ตาม SAL ไม่ใช่เครื่องมือใหม่ของ “พอนด์ส” เพราะเมื่อปีที่แล้ว “พอนด์ส” ได้เปิดตัว SAL ผ่านทางช่องทาง Facebook Messenger ใน 9 ประเทศ ก่อนพบว่าผู้บริโภคมากถึง 98% รู้สึกดีกับการพูดคุยกับ SAL
ที่สำคัญฟีเจอร์นี้ช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อให้เพิ่มขึ้นถึง 15 เท่าเมื่อเทียบกับการขายบนหน้าเว็บไซต์ปกติ และผู้บริโภคใช้เวลากับ SAL เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า เหตุผลหลักคือ ความสะดวกสบายในการวิเคราะห์สภาพผิว และสามารถแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที เพียงแค่อัพโหลดภาพเซลฟี่ลงบน SAL
เมื่อแพลตฟอร์มออนไลน์มีผลต่อการตัดสินใจซื้อได้ขนาดนี้ เชื่อว่าอีกหลายแบรนด์คงซุ่มเตรียมปล่อยลูกเล่นออกมาสู้แน่นอน
สาว ๆ เตรียมกระเป๋าฉีก ทั้งที่ยังไม่ทันก้าวเท้าออกจากบ้านได้เลย