เซเว่นอีเลฟเว่น เส้นทางสานฝันสินค้าหลายแบรนด์สู่ตลาดผู้บริโภค ผ่าน 5 ขั้นตอน ก่อนจะนำไปวางบนเชลฟ์
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “เซเว่นอีเลฟเว่น” เป็นเสมือนประตูสำคัญในการทำให้สินค้าจากผู้ประกอบการรายย่อยเป็นที่รู้จักได้ง่าย และสินค้าที่วางจำหน่วยอยู่บนชั้นวางของเซเว่นฯ ก็มีจำนวนมากเสมือนมีขายทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นของกินของใช้ และสินค้าแต่ละประเภทก็มีหลากหลายแบรนด์ให้เลือกสรร แต่กว่าสินค้าแต่ละอย่างจะผ่านด่านเพื่อนำไปวางจำหน่ายได้ หลายคนคงสงสัยว่ามีขั้นตอนยากง่ายหรือไม่ อย่างไร
- แคดเมียมมีดีอะไร ทำไมแค่กากยังมีคนอยากได้?
- เช็กเงินอุดหนุนบุตร 600 บาท เดือนเมษายน 2567 เงินเข้าวันไหน
- ปรับเงินเพิ่มค่าครองชีพ ข้าราชการ 4 กลุ่ม เริ่ม 1 พ.ค.นี้
“ประชาชาติธุรกิจ” สรุปขั้นตอนการนำสินค้าไปวางขายในเซเว่นฯ มาให้ผู้ประกอบการรายย่อย ได้ศึกษาไว้เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเพิ่มยอดขาย
สินค้าต้องมีความพร้อม
สินค้าที่จะนำไปเสนอกับเซเว่นฯ ต้องดูว่า มีคุณภาพและมาตรฐานตามที่กำหนดหรือไม่ เป็นสินค้าที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค และสอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในขณะนั้นหรือไม่ อย่างไร ยิ่งเป็นสินค้าที่อยู่ในความนิยม จะมีโอกาสที่จะขายได้ดีมากกว่าสินค้าประเภทอื่น
ที่สำคัญในด้านคุณภาพ สินค้าจะต้องได้รับเครื่องหมายรับรองจากทางราชการ เช่น เลขสารบบอาหาร หรือ อย. เครื่องหมายรับรองมาตรฐานของกระทรวงอุตสาหกรรม หรือ มอก. เป็นต้น
ลงทะเบียน กรอกข้อมูลสินค้า
หากคิดว่าสินค้ามีความพร้อมแล้ว ให้ไปลงทะเบียนเพื่อนำข้อมูลต่าง ๆ ไปกรอกให้ครบถ้วนผ่านเว็บไซต์ www.cpall.co.th โดยขั้นตอนนี้ถือเป็นประตูสำคัญด่านแรกที่บริษัทจะรับพิจารณาสินค้าเรา ว่ามีความน่าสนใจหรือไม่ เหมาะที่จะนำมาวางขายหรือเปล่า
บริษัทนัดหมายนำเสนอสินค้า
ต่อไป หากสินค้าที่ลงทะเบียนไว้ผ่านการพิจารณา จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อให้เราเข้าไปนำเสนอสินค้าอีกครั้ง รวมถึงแผนการตลาดของสินค้า จากนั้นเจ้าหน้าที่จะทำข้อมูล เพื่อนำเสนอให้กับคณะกรรมการคัดเลือกสินค้าของบริษัทเพื่อร่วมพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่สำคัญ
ตรวจสอบมาตรฐานสินค้าและโรงงานการผลิต
สินค้าที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการแล้ว ขั้นต่อไปคือ การตรวจสอบมาตรฐานสินค้าและโรงงานการผลิตรวมถึงกระบวนการผลิต ที่เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับของกฎหมายที่ระบุไว้มีความปลอดภัยและถูกหลักอาชีวอนามัย ตลอดจนคำนึงถึงสภาพแวดล้อมรวมถึงการ พิจารณาศักยภาพในการผลิตและส่งมอบสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
กำหนดวันจำหน่ายสินค้า
สุดท้ายเมื่อผ่านมาตรฐานการผลิตสินค้าและโรงงานแล้ว ต่อไปก็มาถึงวันที่รอคอย การวันกำหนดสินค้าและกำหนดยอดสั่งผลิตในลอตแรก
