แอลจีโดดลุยร้านสะดวกซัก ผนึกแฟรนไชส์ปั้นยอด B2B แย่งหมื่นล้าน

แอลจี ลุยปั้นยอดขายเครื่องซักผ้าอุตสาหกรรม ดึงแฟรนไชส์สะดวกซักเป็นดีลเลอร์ช่วยเจาะตลาด-สร้างดีมานด์ เดินหน้าหนุนทั้งกิจกรรมการตลาด-บริการหลังการขาย จับมือ ดร.ไทเกอร์ ลอนดรี้ จัดโปรฯแรงทั้งส่วนลด-ซื้อ 1 แถม 1 หลังผนึกแบร์วอชผุดคอนเซ็ปต์สโตร์ LG Smart Laundry Lounge โชว์ศักยภาพ วางเป้าเติบโตสูงกว่าปี 2564

การเติบโตต่อเนื่องของธุรกิจร้านสะดวกซักหรือร้านซักผ้าที่ใช้เครื่องระดับอุตสาหกรรม ซึ่ง Alliance Laundry Systems ผู้ผลิตเครื่องซักผ้าอุตสาหกรรมรายใหญ่คาดว่าปี 2565 นี้จะมีมูลค่าแตะ 1 หมื่นล้านบาท ทำให้แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เดิมเน้นจำหน่ายสินค้าให้ภาคครัวเรือนหันมาสนใจ พร้อมส่งเครื่องระดับอุตสาหกรรมของตนเองลงสู่ตลาดเช่นเดียวกัน โดย “แอลจี” เป็นยักษ์เครื่องใช้ไฟฟ้ารายล่าสุดที่กระโดดเข้าสู่วงการนี้ ด้วยการเดินสายเฟ้นหาแฟรนไชส์ร้านสะดวกซักมาเป็นซับดีลเลอร์ เพื่อขยายฐานลูกค้า พร้อมลงทุนเปิด LG Smart Laundry Lounge คอนเซ็ปต์สโตร์แห่งแรกในประเทศไทย เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา

“แอลจี” เปิดเกมบุกตลาด B2B

นางสาววรรณนิภา ขำแผลง ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงศักยภาพของวงการธุรกิจร้านสะดวกซัก รวมถึงทิศทางในอนาคตและเป้าหมายที่วางไว้ในอีก 3-5 ปีว่า ร้านสะดวกซักเป็นธุรกิจที่เติบโตรวดเร็วและต่อเนื่องตลอดช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคปัจจุบันหันมาอาศัยอยู่ในคอนโดฯ หรือหอพักที่มีพื้นที่จำกัด รวมถึงมีครอบครัวขนาดเล็กกันมากขึ้น

ผู้บริโภคจึงนิยมมาใช้บริการร้านสะดวกซักแทน หนุนให้ร้านสะดวกซักเติบโตจนสามารถพบเห็นได้ทุกพื้นที่ทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด

แนวโน้มการขยายตัวของร้านสะดวกซักที่เกิดขึ้น ทำให้ความต้องการเครื่องซักผ้าระดับอุตสาหกรรมมีมากขึ้นตามไปด้วย เพราะแฟรนไชส์ร้านสะดวกซักนิยมใช้งานเนื่องจากรองรับการใช้งานหนักได้ดีกว่าเครื่องสำหรับครัวเรือนสูงขึ้นตามไปด้วย จึงเป็นโอกาสที่บริษัทจะส่งสินค้าเข้าเจาะกลุ่มลูกค้าองค์กร หรือ B2B สอดคล้องกับแนวทางของปีนี้ที่จะโฟกัสการสร้างรายได้จากธุรกิจ B2B ให้มากยิ่งขึ้น จากเดิมที่รายได้ส่วนใหญ่มาจากลูกค้าครัวเรือน

แอลจีจึงมีแผนจะส่งเครื่องซักผ้าอุตสาหกรรมเข้าทำตลาดในกลุ่มผู้ประกอบการแฟรนไชส์ร้านสะดวกซักมากขึ้น ผ่านการตั้งผู้ประกอบการที่มีโซลูชั่นแบบครบวงจรทั้งการชำระเงิน บริการหลังการขายเบื้องต้น ฯลฯ เป็นดีลเลอร์หรือซับดีลเลอร์ โดยจะเป็นความร่วมมือแบบวิน-วิน ที่ช่วยให้ทั้ง 2 ฝ่ายเติบโตไปพร้อม ๆ กัน

“ดีลเลอร์แต่ละรายจะมีทั้งดีมานด์เครื่องจากทั้งร้านที่บริหารเอง และการขายเครื่องให้กับร้านของแฟรนไชซี รวมถึงมีการทำตลาดเพื่อขยายแฟรนไชส์ของตนเอง ซึ่งจะช่วยสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์ของร้านและสินค้าของแอลจีไปพร้อม ๆ กัน”

งัดกลยุทธ์ “วิน-วิน” มัดใจ

นางสาววรรณนิภากล่าวต่อไปว่า บริษัทจะให้การสนับสนุนทั้งด้านบริการหลังการขายอย่างการเข้าซ่อมบำรุงเครื่องตามวงรอบ และสนับสนุนการตลาดทำตลาด รวมถึงช่วยออกงบฯการจัดกิจกรรม โฟกัสที่การหนุนให้ดีลเลอร์จัดสัมมนาให้ข้อมูลกับนักลงทุนที่สนใจเข้ามาเป็นแฟรนไชซี และการออกบูทในงานแฟร์เกี่ยวกับธุรกิจแฟรนไชส์

พร้อมส่งตัวอย่างสินค้าและทีมงานร่วมให้ข้อมูล นำเสนอไฮไลต์เรื่องคุณภาพความทนทานของสินค้า และนวัตกรรมอย่างระบบฆ่าเชื้อ, แอป LG Laundry Lounge สำหรับติดตามการทำงานของเครื่อง เช็กเครื่องว่าง และอื่น ๆ ซึ่งพัฒนาต่อยอดมาจากแอป LG ThinQ สำหรับภาคครัวเรือน โดยดีลเลอร์สามารถนำไปใช้ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย รวมไปถึงความพร้อมของทีมช่างสำหรับให้บริการหลังการขาย

ขณะที่ดีลเลอร์จะเป็นผู้รับผิดชอบการบริการหลังการขายเบื้องต้น และบริหารโซลูชั่นด้านชำระค่าบริการ ซึ่งบริษัทจะช่วยผสานโซลูชั่นของดีลเลอร์เข้ากับแอป LG Smart Laundry ส่วนการทำตลาดสามารถต่อยอดการรับรู้และความเชื่อมั่นของแบรนด์และสินค้ารวมถึงบริการหลังการขายของแอลจี เพื่อเป็นเครื่องมือสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนตัดสินใจเข้ามาเป็นแฟรนไชซีได้ โดยมีเงื่อนไขที่ทั้งกรณีร้านที่บริหารเองและแฟรนไชส์ของดีลเลอร์จะต้องใช้เครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าแอลจีเท่านั้น

เดินหน้าแต่งตั้งซับดีลเลอร์

ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า บริษัท แอลจี กล่าวต่อไปว่า ล่าสุดช่วงไตรมาส 2 นี้ บริษัทแต่งตั้งดีลเลอร์รายที่ 2 คือ แฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก “ดร.ไทเกอร์ ลอนดรี้” (Dr.Tiger Laundry) พร้อมจัดกิจกรรม “ล่องเรือยอชต์ ทัวร์ภูเก็ตกับ LG By Dr.Tiger Laundry” ซึ่งภายในงานมีการนำเสนอเครื่องซักผ้าอุตสาหกรรมของบริษัท เมื่อวันที่ 17-19 มิ.ย.ที่ผ่านมา รวมถึงจัดโปรโมชั่น อาทิ ให้สิทธิ์จองเครื่องซักผ้าแอลจีในราคาลด 50% และส่วนลดเพิ่มอีก 100,000 บาท, ซื้อเครื่องซักล่าง อบบน 1 คู่ รับฟรีอีก 1 คู่ เป็นต้น

จากก่อนหน้านี้แต่งตั้งบริษัท แบร์มิกซ์ จำกัด ผู้บริหารแฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก “แบร์วอช” (BearWash) เป็นดีลเลอร์ร่วมผนึกกำลังเปิดตัวคอนเซ็ปต์สโตร์ LG Smart Laundry Lounge แห่งแรกในประเทศไทย ที่คอนโดฯลุมพินี พาร์ควิภาวดี-จตุจักร เมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมนำตู้ถนอมผ้า LG Styler ที่มีเทคโนโลยีดูแลผ้า อาทิ ขจัดสารก่อภูมิแพ้ขจัดกลิ่นอาหาร รักษารอยจีบของกางเกง ฯลฯ มาติดตั้งให้ใช้งาน เพื่อนำเสนอศักยภาพและความสามารถของสินค้าและเทคโนโลยีต่าง ๆ ให้กับทั้งพนักงานออฟฟิศ นักเรียนและนักศึกษา และผู้ที่พักอาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง รวมทั้งนักลงทุนที่สนใจแฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก

“เราตั้งเป้าสร้างคอนเซ็ปต์สโตร์ร่วมกัน 5 สาขาต่อปี ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และเมืองใหญ่ทั่วประเทศ พร้อมกับทยอยติดตั้งเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าของแอลจีในร้านแบร์วอชอีก 20 สาขา รวมกว่า 300 เครื่อง”

นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งปีหลังมีแผนเดินหน้าสนับสนุนดีลเลอร์ทั้งแบร์วอช และ ดร.ไทเกอร์ ให้จัดกิจกรรมสัมมนาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงผนึกกำลังออกบูทในงานแฟร์เกี่ยวกับธุรกิจแฟรนไชส์ ร่วมกับการทำการตลาดตรงจากบริษัทไปยังผู้ประกอบการด้านต่าง ๆ ที่มีศักยภาพ

โดยยุทธศาสตร์การสร้างดีลเลอร์ของแอลจี หลัก ๆ จะเน้นสร้างความแข็งแกร่งให้ดีลเลอร์แต่ละรายเพื่อต่อยอดธุรกิจในระยะยาว แล้วจึงเพิ่มรายใหม่ เพื่อรับมือการแข่งขันที่เริ่มดุเดือดเนื่องจากมีผู้เล่นที่มากขึ้น ดังนั้นจากนี้จำนวนดีลเลอร์อาจไม่เพิ่มแบบก้าวกระโดดมากนัก

“ด้านเป้าหมายเนื่องจากเป็นช่วงเริ่มต้นจึงวางเป้าไว้เป็นการสร้างการเติบโตให้มากกว่า 2564 ที่ผ่านมา และใน 3-5 ปี จะผลักดันให้ธุรกิจเครื่องซักผ้าอุตสาหกรรมนี้ขยายเติบโตให้ได้มากที่สุด” นางสาววรรณนิภากล่าวในตอนท้าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากความเคลื่อนไหวของแอลจีดังกล่าวที่รุกคืบเข้าในธุรกิจร้านสะดวกซักแล้ว ก่อนหน้านี้มีเครื่องใช้ไฟฟ้ารายอื่น ๆ ที่กระโดดเข้ามาในตลาดนี้เช่นกัน อาทิ ไฮเออร์ได้จับมือบริษัท ดีที นิวเอ็นเนอร์จี้ จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายเปิดตัวแฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก “Mr.Hi Smart+ by Haier” เมื่อปี 2563 ปักธงสาขาแรกที่ซอยวิภาวดี 16 ปัจจุบันมี 15 สาขา ขณะที่อีเลคโทรลักซ์ โปรเฟสชั่นนอล บริษัทในเครืออีเลคโทรลักซ์ ได้เป็นซัพพลายเออร์ส่งเครื่องซักผ้าอุตสาหกรรมให้กับแฟรนไชส์ร้านสะดวกซักหลายราย อาทิ WASHENJOY และ DIY LAUNDRY เป็นต้น

• OR ทุ่ม 1,105 ล้านบาท ถือหุ้น 40% ธุรกิจร้านซักผ้า Otteri