คอลัมน์ : สัมภาษณ์
ถือเป็นความสำเร็จอีกก้าวที่ต่อเนื่องตลอดในช่วงระยะเวลา 3 ปี สำหรับค่ายบีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งทำผลงานยอดเยี่ยมและทั้งทีมงาน ตัวแทนจำหน่าย พนักงานที่เกี่ยวข้องทุกคน ต่างพร้อมใจเดินหน้าสร้างความความต่อเนื่องของไดนามิกในการขับเคลื่อนองค์กร
ให้แบรนด์รถยนต์ทั้งบีเอ็มดับเบิลยู มินิ และมอเตอร์ราด ให้เข้าไปอยู่ในใจของลูกค้าชาวไทยได้มากที่สุด ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดบีเอ็มดับเบิลยูและมินิในตลาดรถยนต์พรีเมี่ยมที่เติบโตขึ้น 36.1% ครองส่วนแบ่งตลาด 46.6% รั้งผู้นำอันดับ 1 ตลาดรถหรูบ้าน 3 ปีติดต่อกัน
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
วันก่อน อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธาน และซีอีโอบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ขึ้นเวทียืนยันความสำเร็จ และบอกกล่าวถึงทิศทางการขับเคลื่อนองค์กร รวมทั้งความชัดเจนในเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับประเทศไทย ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทาย
ตอกย้ำความสำเร็จ
แม้ว่าปีที่ผ่านมาจะเป็นอีกหนึ่งปีที่ท้าทายของตลาดรถยนต์ประเทศไทย โดยเฉพาะผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกและปัญหาด้านการผลิต ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาจากความขัดแย้งระหว่างประเทศ แต่สำหรับบีเอ็มดับเบิลยูยังคงเดินหน้าสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเห็นได้จากยอดขายปีที่ผ่านมาเติบโตขึ้นทั้งสองแบรนด์ โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดรถยนต์พรีเมี่ยมเพิ่มขึ้นเป็น 46.6% ครองอันดับ 1 ด้วยมียอดจดทะเบียนรถยนต์ 15,010 คัน เพิ่มขึ้น 36.1%
ในจำนวนนี้แบ่งเป็น บีเอ็มดับเบิลยู 13,572 คัน, มินิ 1,438 คัน แต่หากแยกประเภทจะเห็นว่าในส่วนของรถยนต์อีวี หรือรถยนต์ไฟฟ้า 100% ของทั้ง 2 แบรนด์ บีเอ็มดับเบิลยู i7 และมินิ คูเปอร์ SE มียอดส่งมอบให้ลูกค้าคนไทยแล้ว 535 คัน
จากยอดขายที่ประสบความสำเร็จแล้วในแง่ของดัชนีความพึงพอใจของลูกค้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในด้านการขายอยู่ที่ 94% เพิ่มขึ้น 2% และด้านบริการหลังการขาย 88% เพิ่มขึ้น 2%
มั่นใจรักษาแชมป์
และในปีนี้บริษัทหวังว่าจะรักษาระดับการเติบโตและยอดการจำหน่ายให้ดีอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความพึงพอใจของลูกค้าที่มีให้กับรถยนต์ทั้งสองแบรนด์ ภายใต้กลยุทธ์การตลาดที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อมอบความพึงพอใจสูงสุด
นอกจากการนำเสนอรถยนต์ ครอบคลุมความต้องการ สมรรถนะ ดีไซน์ ไปจนถึงรักษ์โลกแล้ว ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อมอบประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และบีเอ็มยังได้เตรียมความสะดวก เพื่อให้ลูกค้าสามารถการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่หลายหลายได้ง่ายขึ้นผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ
พร้อมขึ้นไลน์ประกอบรถอีวี
สำหรับแผนงานเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการขึ้นไลน์ประกอบรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่โรงงานจังหวัดระยองนั้น ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมและกำลังจะมีข่าวดีในเร็ว ๆ นี้ ส่วนความคืบหน้าเรื่องการเข้าไปเซ็นเอ็มโออยู่กับภาครัฐ ขณะนี้ยังไม่มีแผนใด
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าของบีเอ็มดับเบิลยูนั้นจะมีการประกอบรถยนต์ในตระกูลอย่างแน่นอน แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ก็จะเป็นการลงทุนต่อเนื่อง หลังจากบริษัทได้ลงทุนมูลค่ากว่า 8,400 ล้านบาทมาอย่างต่อเนื่อง ที่โรงงานระยองอาจจะเป็นการปรับรายการผลิตของต้องรอดูรายละเอียดในอนาคต
ปรับราคารถทุกรุ่น
สำหรับราคาจำหน่ายรถยนต์ของบีเอ็มดับเบิลยูและมินิรวมทั้งตลาดเราได้ตัดสินใจปรับขึ้นราคา โดยเฉลี่ยรุ่นละ 1.5% เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาประสบปัญหาด้านต้นทุนการผลิตจึงจำเป็นต้องมีการปรับขึ้น ราคาส่วนภาพรวมของตลาดรถยนต์พรีเมี่ยมในปีนี้ยังเชื่อมั่นว่าจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะลูกค้ายังมีความต้องการค่อนข้างสูงและบริษัทมีรถยนต์หลากหลายให้ลูกค้าได้เลือกทั้งเครื่องยนต์สันดาปเครื่องยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้า
ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ เพื่อให้ลูกค้าคนไทยเป็นเจ้าของบีเอ็มดับเบิลยู X1 sDrive18i โฉมใหม่, บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 Gran Sedan ใหม่, และรถยนต์มินิ Resolute Edition ที่มีให้เลือกถึงสามรุ่นย่อย และด้วยผลงานที่แข็งแกร่งของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูในกลุ่ม luxury class หรือรถยนต์รุ่นที่สูงที่สุดของแบรนด์ เช่น บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7, ซีรีส์ 8, X7 และ M8
โดยมีไฮไลต์อย่างบีเอ็มดับเบิลยู XM ใหม่ รถยนต์ตระกูล M สมรรถนะสูงรุ่นแรก ที่เป็นรถยนต์ระบบขับเคลื่อนปลั๊ก-อิน ไฮบริดทรงพลัง ในคอนเซ็ปต์ใหม่ของรถยนต์สปอร์ตอเนกประสงค์ (sports activity vehicle-SAV) บีเอ็มดับเบิลยู X7 xDrive40d M Sport ใหม่ อีกหนึ่งรุ่น SAV ที่ผสานความปราดเปรียว รูปลักษณ์ที่หรูหรา และความโอ่อ่า เข้ากับระบบขับเคลื่อนอันทรงพลัง และบีเอ็มดับเบิลยู 750e xDrive M Sport ใหม่ รถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด
กอดแชร์เพิ่มเน็ตเวิร์ก
เรามีแผนขยายโชว์รูมและศูนย์บริการภายในปี 2566 จะมีโชว์รูมและศูนย์บริการในทุกประเภท สำหรับแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู 34 แห่ง มินิ 18 แห่ง และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด 14 แห่ง เพื่อให้แบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และมอเตอร์ราดเข้าไปใกล้ลูกค้าได้มากขึ้นด้วย เพื่อรักษาและเพิ่มส่วนแบ่งตลาดให้มากขึ้น
