ระยะทางกว่า 8,700 กว่ากิโลเมตร ที่พวกเราเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลจากสนามบินสุวรรณภูมิ มุ่งสู่สนามบินออสโล ของนอร์เวย์ นั่นเป็นเพียงหมุดหมายแรกที่เริ่มต้น…การเดินทางครั้งสำคัญ
ขบวนคาราวานรถยนต์ มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 ทั้ง 9 คัน ภายใต้ภารกิจ Mazda passion drive to the new horizon “เปิดประสบการณ์สุดขอบฟ้ากับมาสด้า”
พลันที่ล้อเครื่องบินแตะรันเวย์… สิ่งที่เราได้รับการต้อนรับในฐานะอาคันตุกะ ครั้งนี้คือสายฝนที่โปรยปราย ที่แอบคิดในใจว่า ครั้งนี้คณะของเรามาพร้อมกับความชุ่มฉ่ำอย่างแน่นอน
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
หลังจากรับสัมภาระ และเช็กอินอีกครั้ง กับสายการบินภายในประเทศ ซึ่งที่สนามบินออสโลแห่งนี้ มีจุดอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่เดินทางไปมาใช้สนามบินแห่งนี้ เช็กอินผ่านเคาน์เตอร์ จากนั้นสัมภาระต่าง ๆ ที่จะโหลดเข้าท้องเครื่องบิน ผู้โดยสารจะต้องทำการเช็กอินและโหลดสัมภาระเอง ณ จุดที่สนามบินได้จัดสรรไว้
กระบวนการไม่ซับซ้อน เข้าใจง่าย เพียงแค่เราสแกนตั๋วเครื่องบิน เพื่อรับบาร์โค้ดของสัมภาระ จัดการติดกับสัมภาระ แล้วนำไปโหลดเข้าสายพาน
จากนั้นรอเช็กความเรียบร้อยของกระเป๋าว่าผ่านเข้าไปยังท้องเครื่องบินหรือไม่ ผ่านทางหน้าจอมอนิเตอร์ เมื่อกระเป๋าผ่านไปตามทางเป็นอันเรียบร้อย อีกจุดคือ ขั้นตอนของ ตม. ทำได้ง่ายดายเช่นเดียวกัน เพียงสแกนตั๋วผ่านเข้ามายังจุดตรวจ สแกนตั๋วอีกครั้งก็เป็นอันเรียบร้อย
ใช้เวลารอ…เพื่อจับเครื่องภายในประเทศ มุ่งหน้ามายังเมืองอัลต้า (Alta) อีกราว 3 ชั่วโมง เพื่อไปยังสิ้นสุดการเดินทางขบวนคาราวาน กลุ่มเอ ที่เริ่มต้นการเดินทาง 2,200 กม. มาสิ้นสุดยังจุดสตาร์ตของกลุ่มบี ที่รับอีก3,700 กม. เป็นการรับไม้เพื่อสานต่อภารกิจพิชิต 6,600 กม. บนคาบสมุทรสแกนดิเนเวียที่เหนือสุดของนอร์เวย์ ก่อนโดยสารรถบัสไปอีกราว 3 ชั่วโมง ฮอนนิงสโวก เมืองขนาดเล็กที่อยู่ทางเหนือสุดของนอร์เวย์
แน่นอนว่า ภารกิจแรกของกลุ่มบี และภารกิจสุดท้ายของกลุ่มเอ กำลังจะเริ่มต้นขึ้นที่แหลมนอร์ทเคป บนเกาะมาเกโรยา เหนือมหาสมุทรอาร์กติก ดินแดนของพระอาทิตย์เที่ยงคืนในช่วงฤดูร้อนแต่การมาของทีม “มาสด้า” และผู้ร่วมคาราวานครั้งนี้ อีกหนึ่งในภารกิจของพวกเรา คือ “พิชิตแสงเหนือ…”
ตลอดระยะทางจากที่พัก มุ่งหน้าไต่ระดับความสูงขึ้นมาเยือนนอร์ทเคป ยังตุ๊ม ๆ ต้อม ๆ ว่าจะพลาดโอกาสครั้งสำคัญหรือไม่ เนื่องจากสภาพอากาศไม่เป็นใจเอาเสียเลย…
แต่นับว่าเทพีแห่งโชค… เลือกที่จะมายืนข้างพวกเรา ท้องฟ้าเปิด…แถมระเบิดเอาแสงสีเขียวจัด ออกมาวาดลวดลาย ระบายเต็มท้องฟ้า
ชนิดที่เรียกว่าท้าทายกับสภาพอากาศ ที่เลขหลักเดียวนั้นไม่เท่าไหร่ แต่ความหฤโหด…มาเปลี่ยนข้างกลับมาอยู่ที่สายลมที่พัดกระหน่ำตลอดเวลา เรียกว่าทำให้คนเมืองร้อนอย่างชาวเรา สะท้านไปจับจิต…
หลบความเย็นยะเยือกลงมาภายในตัวอาคาร ด้านล่างยังมีส่วนของพื้นที่จัดแสดง เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติล้นเกล้าฯ พระปิยมหาราช เมื่อครั้งเสด็จประพาสยุโรป ในฐานะทรงเป็นกษัตริย์ต่างแดนพระองค์แรก ที่ได้เสด็จไปถึงนอร์ทเคป เมื่อปี 2450 ทรงจารึกพระปรมาภิไธยย่อ “จปร.” บนก้อนหิน
การมาเยือนสถานที่นี้ ซึ่งมีการจัดห้องนิทรรศการของพระองค์ ยิ่งทำให้คณะเรามีความอุ่นใจ…
หลังภารกิจแรกบรรลุเป้าหมาย กับการล่าแสงเหนือแล้ว เราเดินทางไต่ระดับจากความสูงของแหลมนอร์ทเคป กลับมายังที่พักแรม ที่เปิดรับคณะเราเป็นคณะสุดท้ายก่อนโรงแรมจะปิดยาว ตั้งแต่วันรุ่งขึ้นที่พวกเราจากลา เนื่องจากเข้าสู่ฤดูหนาว (จัด)
ภารกิจครั้งสำคัญกำลังจะมาเยือนในรุ่งเช้า… 600 กม.แรก หลังพวงมาลัยกับเจ้ามาสด้า ซีเอ็กซ์-5 เวอร์ชั่นเดนมาร์ก จะเป็นอย่างไรภายใต้รหัส 6-7-8
จากเมืองฮอนนิงสโวก มุ่งหน้าสู่เมืองทรอมโซ่ (Tromso) เมืองใหญ่อันดับต้น ๆ ของนอร์เวย์ จะเป็นอย่างไร โปรดติดตาม…
คลิกอ่าน >>> มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 ตะลุยสแกนดิเนเวีย (2)
