นิว อี-คลาส ตัวไหนดี “ปลั๊ก-อิน” หรือ “ดีเซล” ?

เทสต์ คาร์

อมร พวงงาม

ไม่น่าเชื่อว่าระยะหลังค่ายดาวสามแฉกทำรถได้ถูกลงเยอะ ยิ่งเป็นตัวซีเคดีประกอบในประเทศ จับต้องได้ง่ายขึ้น

ล่าสุดเพิ่งคลอด เดอะนิว อี-คลาสซีเคดี อีก 3 รุ่น 2 เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร 1 รุ่น กับเบนซิน 2.0 ลิตรทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า

หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า ปลั๊ก-อิน ไฮบริด อีก 2 รุ่น ราคาเริ่มต้นแค่ 3.19 ล้านบาท…น่าใช้จริง ๆ

ตัวนี้ถือเป็นเฟซลิฟต์ รหัสตัวถังยังเป็น W213 เหมือนเดิม

แต่เปลี่ยนแปลงเยอะครับ ตั้งแต่ฝากระโปรงหน้าเพิ่มสันเพิ่มโหนก นอกจากสวยงามแล้วยังช่วยเรื่องอากาศพลศาสตร์ เส้นสายรอบคันดูโฉบเฉี่ยวมากขึ้น ไฟหน้าเป็นมัลติบีมแอลอีดี ไฟท้ายเรียวเล็กดูสปอร์ตขึ้นมาเป็นฟูลแอลอีดี สว่างสดใส กลางคืนไม่แสบตารถวิ่งตามหลัง กันชนท้ายและฝากระโปรงท้ายดีไซน์ดูกลมกลืนมากขึ้น ติดตั้งหลังคาแก้วแบบพาโนรามิกควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า ล้อแม็กขนาด 19 นิ้ว เอเอ็มจีมีหลายลายแยกแยะให้ดูง่ายขึ้นว่ารุ่นไหนเป็นรุ่นไหน

ภายในติดตั้งพวงมาลัยใหม่ สามารถปรับมุมองศาการวางมือทำให้ขับขี่ทางไกลสบายขึ้นมาก เบาะนั่งโอบกระชับเข้ากับสรีระ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันใช้งานง่ายด้วย ออปชั่นเพียบ ด้านความปลอดภัย ตั้งแต่แจ้งเตือนขณะเปลี่ยนเลน ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน ระบบช่วยเหลือก่อนเกิดอุบัติเหตุ

เซ็นเซอร์รอบคัน 12 จุด

ด้านความสะดวกสบายมีระบบช่วยการนำรถเข้าจอดทั้งเข้าซองและจอดแบบขนานขอบทาง

ที่เหนือกว่าตัวที่แล้วและคนเบนซ์ค่อนข้างภาคภูมิใจคือ สามารถจองตรงช่องจราจรเป๊ะ โดยไม่จำเป็นต้องมีรถด้านข้างเซ็นเซอร์

เครื่องเสียงยังเป็น Burmester® แต่มีเซอร์ราวนด์พร้อมลำโพง 13 ตำแหน่ง มีแอปพลิเคชั่น Mercedes me สามารถทำงานหลาย ๆ อย่างผ่านโทรศัพท์มือถือ คลาสสิกมากสำหรับไฟในห้องโดยสาร ตัวนี้เป็นพรีเมี่ยมแอมเบียนไลต์ เลือกปรับได้มากถึง 64 เฉดสี

อี-คลาส ใหม่ ขุมพลังมี 2 แบบ เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2 ลิตรเทอร์โบ ยูโร 6 ให้พละกำลัง 194 แรงม้าเป็นรุ่น E 220 d ราคา 3.54 ล้านบาท อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลา 7.3 วินาที ถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์ 9G-tronic

ไม่แตกต่างจากตัวเดิมเท่าไหร่ มีโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 โหมด คอมฟอร์ต สปอร์ต และสปอร์ตพลัส

ช่วงล่างน่าจะสู้ตัวเก่าไม่ได้ในย่านความเร็วสูง ๆ วันที่ไปทดสอบดูยวบ ๆ ไปนิด ทั้ง ๆ ที่นั่งแค่ 2 คน ยังหันไปถามเพื่อนนักข่าวที่นั่งไปด้วยกัน รึว่าช่วงหลังเราจะคุ้นเคยแต่แบรนด์ “เอเอ็มจี” จึงเห็นความแตกต่างเยอะ ไม่ก็วิศวกรของค่ายนี้เขาตั้งใจแยกแยะความชัดเจน ถ้าชอบชิว ๆ ก็เลือกเมอร์เซเดส-เบนซ์ แต่ถ้าต้องการหนักแน่นหนึบหนับคงต้องขยับไปเอเอ็มจี

อีก 2 รุ่นเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 2 ลิตร มีอักษร e ด้านหลัง ด้านท้ายจะมีช่องเสียบปลั๊กชาร์จไฟ ผสมผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า เจเนอเรชั่นที่ 3 ให้กำลังสูงสุด 211 แรงม้า

พอมีมอเตอร์ไฟฟ้าเข้าไปร่วมแรงขึ้นจริง ๆ 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงแค่ 5.7 วินาที ตัวนี้ขับสนุกจี๊ดจ๊าดดี ช่วงล่างแน่นขึ้นเยอะ

รุ่นปลั๊ก-อิน ไฮบริดมี 2 ตัว อาวองการ์ด 3.19 ล้านบาท กับเอเอ็มจีไดนามิก 3.77 ล้านบาท

มีคนถามเยอะเลยว่าเลือกตัวไหนดีกว่ากัน ?

จริง ๆ ผมชื่นชอบทั้ง 3 รุ่น แต่วันนี้ยังไงต้องฟันธงไปที่มอเตอร์ไฟฟ้า ทุกคนรู้ PM 2.5 เครื่องยนต์ดีเซลนี่แหละตัวดี เพราะฉะนั้นหลีกเลี่ยงได้ทำเถอะครับ รถเก๋งกับเครื่องยนต์ดีเซลไม่ค่อยสอดคล้องกันด้วยประการทั้งปวง

แถมยังได้เปรียบชาวบ้านชาวช่องใช้น้ำมันถูกกว่า ซึ่งอาศัยเงินส่วนอื่นมาซัพพอร์ต ปล่อยพวกรถบรรทุกที่เขาต้องการกำลังและแรงบิดเยอะ ๆ ใช้ไปเถอะครับ

เราหันมาช่วยกันรักษ์โลกน่าจะดีที่สุด