ค่ายรถระบุชัด ส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าหลังราชกิจจาฯ ภาษีสรรพสามิตบังคับใช้ ลูกค้าต้องรออย่างน้อยหนึ่งเดือนเต็ม เอ็มจีเผยกระทบหนักแบกต้นทุนอ่วม ทั้งรถยนต์ในสต๊อก-ดอกเบี้ยและแผนเปิดตัวรถใหม่ ค่ายรถจ้องขยายอีวีครึ่งปีหลังอีกเพียบ
แหล่งข่าวระดับบริหารค่ายรถยนต์รายใหญ่เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2565 ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 139 ตอนที่ 37 ก ประกาศกฎกระทรวง กำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 23) พ.ศ. 2565 โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจาฯ หรือบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2565 โดยเฉพาะภาษีรถยนต์ไฟฟ้าแบบ 100% (อีวี) ซึ่งปรับลดลงจาก 8% เหลือ 2% แต่ก็ไม่ใช่ว่าผู้ประกอบการจะสามารถส่งมอบรถให้กับลูกค้าได้ทันที ยังมีกระบวนการอีกหลายขั้นตอน ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 1 เดือนเต็ม ๆ
- Apple เปิดตัว iPad Air-Pro รุ่นใหม่ 7 พฤษภาคมนี้
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
โดยขั้นตอนหลังจากกฎหมายบังคับใช้ ค่ายรถยนต์ต้องดำเนินการขอ Eco-sticker กับสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม หรือ OIE ใช้เวลา 3 วันทำการ หลังจากนั้น ค่ายรถยนต์จะยื่นขออนุญาตราคาขายกับกรมสรรพสามิต ใช้เวลา 15 วันปฏิทิน หลังจากได้รับอนุมัติราคา ค่ายรถยนต์ก็จะยื่นรายละเอียดรถที่อยู่ในสต๊อกให้สำนักงานมาตรฐาน 2 กรมสรรพสามิต ใช้เวลาอีก 5 วันทำการเพื่อรับทราบและคีย์รายละเอียดลงในระบบ หลังจากนั้นก็ยื่นขอชำระภาษีสรรพสามิตกับกรมศุลกากรสำนักงานพื้นที่ ใช้เวลา 3-5 วัน ถ้าพิจารณาจากขั้นตอนทั้งหมดก็จะใช้เวลาประมาณ 4 สัปดาห์หลังประกาศ
ด้านนายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยก่อนราชกิจจาฯประกาศว่า เอ็มจีมีรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ในสต๊อกเพื่อรอการส่งมอบให้กับลูกค้าในเขตพื้นที่ปลอดอากร อยู่ราวกว่า 400 คัน คิดเป็นมูลกว่า 300-400 ล้าน ซึ่งถ้ากฎกระทรวงเรื่องภาษีสรรพสามิตใหม่บังคับใช้ ก็สามารถดำเนินการส่งมอบให้ลูกค้าได้ ซึ่งความล่าช้าของหน่วยงานรัฐเป็นภาระของผู้ประกอบการมาก และยังมีผลกระทบต่อแผนการเปิดตัวรถยนต์ใหม่ ๆ ของค่ายรถยนต์ต่าง ๆ ด้วย
“ตลาดรถอีวีในบ้านเรากำลังไปได้สวย เราหวังว่าภาษีสรรพสามิตใหม่นี้จะสามารถขับเคลื่อนทุกอย่างไปได้อย่างรวดเร็ว หลายคนเชื่อว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าน่าจะโตกว่าที่รัฐบาลประเมิน ส่วนของเอ็มจีผลกระทบไม่เพียงแต่เสียโอกาสเท่านั้น ยังเกี่ยวพันไปถึงการจัดสรรโควตารถจากบริษัทแม่มาตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าชาวไทยด้วย”
ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงจากเกรท วอลล์ฯกล่าวเชื่อมั่นว่า การปลดล็อกภาษีสรรพสามิตใหม่ครั้งนี้จะช่วยให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าขยายตัวได้เร็วขึ้น หลังจากประกาศหยุดรับจองไปก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ 2 ค่ายรถยนต์จากจีนได้ประกาศราคาจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อเตรียมรับกับโครงสร้างของภาษีสรรพสามิตใหม่ โดยค่ายเกรท วอลล์ฯ ลดราคา ORA GOOD CAT ทั้ง 3 รุ่นลงประมาณคันละ 1.6 แสนบาท ขณะที่ MG EP อีวี ปรับลดราคาลง 227,000 บาท และตั้งราคาขาย MG ZS EV ไมเนอร์เชนจ์ 9.42 แสนบาท
และทั้ง 2 ค่ายมียอดจองสะสมเกือบ 10,000 คัน แบ่งเป็น เอ็มจี 6,000 คัน ในจำนวนนี้เป็น MG EP 4,000 คัน และ MG ZS EV อีก 2,000 คัน ขณะที่เกรท วอลล์ฯมียอดจอง ORA GOOD CAT อีก 6,000 คัน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับเกรท วอลล์ฯ เร็ว ๆ นี้น่าจะมีการประกาศปรับราคาขายรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 3 รุ่นลงมาอีก เนื่องจากราคาที่ปรับลดลงนั้นยังไม่มีส่วนลดของภาษีสรรพสามิตอีก 6% และเร็ว ๆ นี้มั่นใจว่าจะมีค่ายรถยนต์เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ออกสู่ตลาด โดยเฉพาะเกรท วอลล์ฯ เตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า ORA GOOD CAT GT ออกสู่ตลาดในเดือนนี้ด้วย รวมถึงค่ายโตโยต้าที่ประกาศชัดเจน เตรียมนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า bZ4x มาทำตลาดในประเทศไทย ราวไตรมาสที่ 3-4 อย่างแน่นอน แ
ละที่กำลังเป็นข่าวอย่างค่าย BYD ที่ประกาศความพร้อมด้วยการจับจองพื้นที่จัดแสดงในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ช่วงปลายปีนี้ เพื่อเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% และรถยนต์พลังงานทางเลือกอย่างไฮบริด และปลั๊ก-อิน ไฮบริด มาทำตลาด เช่นเดียวกับค่ายเนต้า ที่น่าจะมีรุ่นใหม่เปิดตัวเสริมทัพ Neta V
โดยในส่วนของมาตรการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า 100% ของภาครัฐ ประกอบด้วย การลดภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า จาก 40% เหลือ 0% หรือมากสุด 40%, เงินอุดหนุน รถยนต์ไฟฟ้าสูงสุด 150,000 บาทต่อคัน, ลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์ไฟฟ้า จาก 8% เหลือ 2% นั้น
มีค่ายรถยนต์เซ็น MOU เข้าร่วมโครงการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลเพียง 3 บริษัท ในขณะนี้คือ เกรท วอลล์ มอเตอร์, เอ็มจี และโตโยต้า
