
คอลัมน์ : Test car ผู้เขียน : วุฒิณี ทับทอง
มองปราดเดียว เจ้ารถ BMW 630i GT M Sport สะกดทุกสายตาได้อยู่หมัด
ด้วยการออกแบบที่เน้นการผสมผสานระหว่างความหรูหรากับความสปอร์ตได้อย่างลงตัว
บนพื้นฐานการออกแบบของรถในสไตล์ “แกรนด์ทัวริสโม่”
ถือว่ารถคันนี้ออกแบบมาได้เฉียบขาด
เริ่มตั้งแต่กระจังหน้าทรงไตคู่ที่เป็นเอกลักษณ์รับกับไฟคู่หน้าแบบ LED ออกแบบมาเน้นเส้นสายให้ช่วยสะกดสายตาเสมือนรถคันนี้พร้อมทะยานไปข้างหน้าตลอดเวลา
ยิ่งมามองในมุมด้านข้างด้วยเส้นสายรอบคัน รถคันนี้การออกแบบรถในสไตล์แกรนด์ทัวริสโม่ ทำให้หลังคามีความลาดลงมาในทรงคูเป้ ลงไปจดด้านท้าย
บีเอ็มฯยังได้นำท่อไอเสียแบบ free-form และล้อแม็ก ขนาด 20 นิ้ว ติดคาลิเปอร์เบรกสีน้ำเงิน M Sport โดดเด่น เข้ามาติดตั้ง เพิ่มความดุดันให้กับรถคันนี้
ภายในห้องโดยสาร เรียกว่ากว้างขวางสุด ๆ ด้วยการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ที่หรูหรา จัดมาพร้อมรองรับ อำนวยความสะดวกสบาย
เบาะนั่งสีน้ำตาลให้ความรู้สึกอบอุ่น พวงมาลัยหนังสไตล์สปอร์ต พร้อมปุ่มมัลติฟังก์ชั่นสีดำเงา เน้นย้ำความมีไดนามิกและความเอ็กซ์คลูซีฟให้เด่นชัดยิ่งขึ้น
ในตำแหน่งของเบาะที่นั่ง ถูกจัดวางมาได้อย่างลงตัว
ส่วนอุปกรณ์ความบันเทิงในรถคันนี้มาพร้อมกับเทคโนโลยี ระบบดิจิทัลที่มาพร้อมกับฟีเจอร์การเชื่อมต่อต่าง ๆ เพื่อความสะดวกสบาย และความปลอดภัยสูงสุดตลอดการเดินทาง
มีหน้าจอแสดงผล ขนาด 12.3 นิ้ว ที่ใช้งานผ่านระบบสัมผัสได้อย่างง่ายดาย รวมทั้งหน้าจอแสดงมาตรวัดความเร็วแบบดิจิทัลเต็มรูปแบบ รองรับการใช้งานในส่วนของระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 7.0 ผ่านปุ่มความคุม iDrive อันเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มฯ แถมยังเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้อย่างง่ายดาย
ตลอดเส้นทางการทดสอบกรุงเทพฯ-เชียงใหม่นั้นมีฝนตกหนา-บางเป็นช่วง ๆ บางจังหวะได้ใช้งานเจ้าระบบ driving assistant หลังจากบางครั้งเผลอขับรถออกนอกเลนโดยไม่ได้เปิดไฟเลี้ยวก่อน ทำให้ระบบนี้ทำงานและช่วยดึงรถกลับเข้าสู่เลน แถมยังใส่ระบบช่วยหยุดรถฉุกเฉินมาให้ช่วยเสริมความปลอดภัยได้มากขึ้น
ขุมพลังของรถคันนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 2 ลิตร TwinPower Turbo ให้กำลังสูงสุด 258 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร
ส่วนความเร็วสูงสุดที่ 0-100 ใช้เวลา 6.5 วินาที บีเอ็มฯเคลมไว้ที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
จังหวะกดทำความเร็วเครื่องยนต์รถคันนี้ตอบสนองได้ดีมาก ๆ ตามสไตล์ของบีเอ็มฯ
เครื่องยนต์มีความดุดันและจัดจ้านเอาเรื่อง ซึ่งบีเอ็มฯไม่เคยทำให้ผิดหวังในเรื่องความแรงไว้ใจได้
ลองสังเกตเมื่อขับด้วยความเร็วเกินกว่า 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สปอยเลอร์หลังจะถูกยกขึ้นมาโดยอัตโนมัติ เพื่อช่วยเพิ่มแอโร่ไดนามิกในการขับขี่ให้ดีขึ้น ช่วยเติมอารมณ์สปอร์ตเข้ามา
แต่น่าเสียดายไปนิด สำหรับการเซตอัพช่วงล่าง เท่าที่ลองทดสอบมาตลอดระยะทาง มีทั้งวิ่งบนทางหลวงปกติ ตรง ๆ ยาว ๆ ทางคดโค้งขึ้นเขา
ไม่ประทับใจกับช่วงล่างของรถคันนี้เท่าที่ควร
เรียกว่าต้องเพิ่มความมั่นใจด้วยการกระชับพวงมาลัยให้แน่นขึ้น
ส่วนหนึ่งอาจจะด้วยขนาดของตัวรถที่มีลักษณะค่อนข้างใหญ่ ทำให้ความปราดเปรียวถูกลดทอนไป
ถ้าบีเอ็มฯเซตช่วงล่างมาให้เนียบกว่านี้
เชื่อว่ารถคันนี้น่าจะเป็นอีกหนึ่งคันที่ขับสนุก ครบเครื่อง สมกับราคาค่าตัว 4.099 ล้านบาท