คอลัมน์ Market-think
โดย สรกล อดุลยานนท์
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
เห็นข่าว “น้ำท่วมใหญ่” ที่ญี่ปุ่น กับ “เขื่อนแตก” ที่ลาว
เป็นมหันตภัยจาก “น้ำ” เหมือนกัน
แต่มาจากคนละสาเหตุ
“น้ำท่วมใหญ่” และ “ดินถล่ม” ที่ญี่ปุ่น เกิดจากภัยธรรมชาติ 100%
แต่ “เขื่อนแตก” ที่ลาว
…ไม่ใช่
ฝนตกหนักเหมือนกับที่ญี่ปุ่น
แต่ “มหันตภัย” ที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากฝนตกหนักแล้วน้ำท่วมฉับพลันธรรมดา
หากมาจาก “เขื่อน” ที่สร้างยังไม่เสร็จ รับแรงน้ำในเขื่อนไม่ไหว
บริษัทร่วมก่อสร้างของเกาหลีใต้พบ “รอยรั่ว” กลางฐานเขื่อนก่อนเขื่อนแตก 3 วัน หลังฝนตกหนัก
เขาคิดว่าจะซ่อมแซมได้
แต่ “ไม่สำเร็จ”
ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ “มหันตภัย” ที่มาจากธรรมชาตินั้น เราให้อภัยได้
เพราะเป็นเรื่องที่นอกเหนือความคาดหมาย
เหมือน “สึนามิ” ที่เมืองไทย
หรือแม้แต่กรณี “หมูป่าติดถ้ำ” ที่เชียงราย
ไม่มีใครนึกว่าน้ำในถ้ำจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
แต่กรณี “เขื่อนแตก” เป็นเรื่องความประมาทของมนุษย์
และความพยายามรักษาภาพลักษณ์ขององค์กร
ไม่ยอมแจ้งข่าวกับชาวบ้านให้เตรียมอพยพ หรืออพยพล่วงหน้า
ไม่มีการเฝ้าระวังหรือเตรียมพร้อมหากเขื่อนแตก
กลัวแจ้งข่าวแล้วคนจะตื่นตระหนก
กลัวภาพลักษณ์ของบริษัทและเขื่อนจะเสียหาย
กลัวราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์จะได้รับผลกระทบ
กลัว-กลัว-กลัว…
แต่ลืมกลัวเรื่องเดียว
คือ กลัวว่าคนจะเสียชีวิตและทรัพย์สินจาก “เขื่อนแตก”
กลัวทุกอย่างที่เกี่ยวพันกับตัวเองและองค์กร
แต่ไม่กลัวเรื่องความเสียหายของ “คนอื่น”
สมมุติว่าถ้าบริษัทก่อสร้างของเกาหลีใต้แจ้งข่าวนี้ให้รัฐบาลลาว ตั้งแต่ 3 วันก่อนเขื่อนแตก
และรัฐบาลอพยพชาวบ้านขึ้นไปอยู่ในที่สูง
ความเสียหายจะต่ำกว่านี้มาก
เพราะครั้งนี้ ตอนที่เขื่อนแตกเป็นเวลาตอนค่ำ
ชาวบ้านเข้านอนแล้ว
“เขื่อนแตก” ไม่เหมือน “น้ำท่วม” ปกตินะครับ
“น้ำท่วม” จะค่อย ๆ เอ่อขึ้นมา
แต่ “เขื่อนแตก” น้ำจะทะลักแรงยิ่งกว่า “น้ำป่า” เสียอีก
ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตอนกลางวัน คนก็จะเสียชีวิตน้อยกว่านี้
เพราะจะมีคนเห็นกระแสน้ำที่เริ่มถล่มตั้งแต่แรก ๆ
ไม่ใช่นอนหลับอยู่ กว่าจะรู้ตัว
“มหันภัย” ก็มาถึงแล้ว
บทเรียนจากเหตุการณ์ “เขื่อนแตก” ที่ลาว
เป็น “บทเรียน” สำคัญที่รัฐบาลไทย และภาคเอกชนควรจะเรียนรู้
เพราะนับจากนี้ไป เมืองไทยก็ต้องเจอกับปัญหาเดิม ๆ ที่เกิดขึ้นทุกปี
นั่นคือ ปัญหา “น้ำท่วม”
ตอนนี้หลายจังหวัดก็เจอแล้ว
อีกพักหนึ่งน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาก็จะเอ่อสูง
พื้นที่ลุ่มภาคกลางจะเจอกับปัญหาน้ำท่วม
เขื่อนแต่ละเขื่อนก็จะต้องระบายน้ำออกมา
บางช่วงเวลารัฐบาลก็จะขอให้ระบายน้ำน้อยหน่อย เพื่อไม่ให้พื้นที่ด้านล่างรับน้ำมากเกินไป
เรื่องเหล่านี้ คือ ปัญหาเดิม ๆ ที่วนเวียนเกิดขึ้นทุกปี
กรณี “เขื่อนแตก” ที่ลาวได้ให้บทเรียนสำคัญข้อหนึ่ง คือ รัฐบาลต้องกล้าบอก “ความจริง” กับประชาชน
อย่าระวังภาพลักษณ์ของรัฐบาลมากเกินไป
อย่ากลัวเรื่องของ “ตนเอง”
จนลืม “ลมหายใจ” ของผู้อื่น
เพราะ “ชีวิต” ของทุกคนมีค่ากว่าทุกสิ่งในโลก