ด่วน! ไพบูลย์ พปชร. ฟ้อง สมชัย-พีระพันธุ์ ปั่นข่าว ประวิตร สั่ง ส.ส.โดดประชุมสภา

ไพบูลย์ นิติตะวัน
ไพบูลย์-นิติตะวัน

ไพบูลย์ ฝ่ายกฎหมาย รับบัญชา ประวิตร ฟ้อง “สมชัย-พีระพันธุ์” นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ หลัง ปั่นข่าว ประวิตร สั่ง ส.ส.พลังประชารัฐ โดดประชุมรัฐสภา-ทำกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.แท้ง

วันที่ 15 สิงหาคม 2565 รายงานข่าวจากพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐได้สั่งการให้ฝ่ายกฎหมายเตรียมศึกษาข้อกฎหมายและข้อมูลเพื่อดำเนินคดีกับนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….

กรณีที่ออกมาพูดพาดพิง พล.อ.ประวิตร เชื่อมโยงเรื่องการประชุมรัฐสภา ในการพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ในลักษณะว่า พล.อ.ประวิตรได้สั่งการลูกพรรคไม่ให้เข้าร่วมประชุมรัฐสภา เพื่อให้องค์ประชุมล่มไม่สามารถพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ได้

“สิ่งที่นายสมชัยออกมาพูดนั้นไม่เป็นความจริง เป็นข้อมูลเท็จทั้งสิ้น พล.อ.ประวิตรไม่เคยก้าวก่าย และไม่เคยสั่งการใด ๆ ลูกพรรค เพราะการทำหน้าที่ในสภาถือเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.แต่ละคน ซึ่งขณะนี้ทางฝ่ายกฎหมายจะดำเนินคดีกับนายสมชัยอย่างเด็ดขาดต่อไป ตามความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฐานนำเข้าข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์” รายงานข่าวจากพรรคพลังประชารัฐระบุ

ต่อมานายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และประธานคณะกรรมการกฎหมายและข้อบังคับ ให้สัมภาษณ์ว่า ตามที่สื่อมวลชนในวันที่ 14 สิงหาคม 2565 ได้เผยแพร่ข่าวว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์พรรคเสรีรวมไทย ได้มีการโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวของบุคคลทั้งสอง และเผยแพร่ผ่านสื่อสารมวลชนด้วยถ้อยคำบางตอนในลักษณะที่เป็นการใส่ความกล่าวหาว่า ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และพรรคพลังประชารัฐ มีการกระทำผิดกฎหมาย ทั้งที่เป็นความเท็จทั้งสิ้น การกระทำของบุคคลทั้งสองทำให้ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และพรรคพลังประชารัฐเสียหาย

“เนื่องจากบุคคลทั้งสองไม่ได้ดำรงตำแหน่ง ส.ส. ส.ว. จึงไม่มีเอกสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 124 คุ้มครอง แต่บุคคลทั้งสองจงใจกระทำการให้สัมภาษณ์บิดเบือนให้สังคมเข้าใจผิดว่า ส.ส พรรคพลังประชารัฐ และพรรคพลังประชารัฐกระทำการผิดกฎหมาย เพื่อมุ่งร้ายให้พรรคพลังประชารัฐต้องเสียหายต่อชื่อเสียง

ทั้งนี้ เป็นการกระทำด้วยมีเจตนาแอบแฝง เพื่อให้ได้เกิดประโยชน์กับพรรคการเมืองที่บุคคลทั้งสองสังกัดอยู่ ดังนั้น เพื่อรักษาหลักการแห่งกฎหมาย พรรคพลังประชารัฐจะดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีเอาผิดกับบุคคลทั้งสองจนกว่าคดีถึงที่สุด” นายไพบูลย์กล่าว