พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปราศรัยเปิดตัวเป็นสมาชิกพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมร้องเพลง “ศรัทธา” ท่อนฮุก “ใจสู้หรือเปล่า ไหวไหมบอกมา โอกาสของผู้กล้า ศรัทธาไม่มีท้อ”
วันที่ 9 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขึ้นเวทีปราศรัยทางการเมืองครั้งประวัติศาสตร์ ประกาศตัวเป็นสมาชิกตลอดชีพ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
ระหว่างการปราศรัย พล.อ.ประยุทธ์ ยังย้ำคีย์เวิร์ด การเข้าสู่ตำแหน่งทางการเมือง เหมือนเมื่อปี 2562 ที่ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้าย ก่อนวันเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 ใช้เวลา 7 นาที ด้วยวรรคทองระบุว่า “ผมมีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นพี่น้องประชาชนในทุกจังหวัด ผมไปมา 60 กว่าจังหวัดในการทำงานของผม มีทั้งคนรัก มีไม่รัก ในนี้ผมคิดว่ารักผมทุกคน”
และตอกย้ำความเป็น “ทหาร” โดยเมื่อครั้งเลือกตั้ง 2562 ระบุว่า “ผมจะยอมตายเพื่อแผ่นดินผืนนี้ แผ่นดินที่ให้ผมเกิด ให้ผมกินอยู่ ให้ผมหลับนอน ให้ผมมีอาชีพ ผมต้องรักษาแผ่นดินผืนนี้ไว้ ให้กับลูกหลานของเราในอนาคต”
ด้วยคีย์เวิร์ดดังกล่าว ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ในแคนดิเดตพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตั้งแต่ปี 2562-2566
การเลือกตั้ง 2566 พระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ยังไม่ทันได้ประกาศราชกิจจานุเบกษา การปราศรัยใหญ่เพื่อชิงชัยเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยแชมป์เก่า แต่เปลี่ยนพรรคใหม่ เป็น “รวมไทยสร้างชาติ”
3 นาทีแรกของการประกาศชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 พล.อ.ประยุทธ์ ตอกย้ำบทบาท “ทหาร” ระบุว่า “สิ่งสำคัญที่สุดคือยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นี่คือหัวใจของคนไทยทั้งชาติ ดังนั้น สถาบันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเพื่อประโยชน์ประเทศชาติและประชาชน ผมเป็นทหารมาทั้งชีวิต ผ่านการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่รู้กี่ครั้ง”
และยืนยันการต่อสู้ทางการเมือง อย่างเข้มข้น “ที่มายืนตรงนี้เพราะผมเคารพกระบวนการประชาธิปไตยของประเทศไทย ไม่ใช่เพราะว่าผมอยากอยู่ต่อ แต่มาพูดกับทุกคนว่าประเทศไทยต้องไปต่อ”
ในตอนท้าย พล.อ.ประยุทธ์ ได้ร้องเพลง แทนคำปิดการปราศรัย และปลุกใจสร้างการมีส่วนร่วมกับมวลชน ที่เข้ารับฟังกว่า 7,000 คน
โดยเลือกร้องเพลง “ศรัทธา” ของวงหินเหล็กไฟ เฉพาะท่อนฮุก ที่มีเนื้อเพลงว่า
“ใจสู้หรือเปล่า ไหวไหมบอกมา
โอกาสของผู้กล้า ศรัทธาไม่มีท้อ”
สำหรับเพลงศรัทธา ท่อนฮุกดังกล่าว เคยเป็นเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือ ของแกนนำพรรคภูมิใจไทย ยุคก่อตั้ง 2552 ทั้งนายเนวิน ชิดชอบ และนักการเมืองแกนนำ รวมทั้ง ส.ส.จำนวนมาก ตั้งสายเรียกเข้าในโทรศัพท์มือถือ เป็นเพลงศรัทธา ท่อนที่ว่า “ใจสู้หรือเปล่า ไหวไหมบอกมา โอกาสของผู้กล้า ศรัทธาไม่มีท้อ” เพื่อตอกย้ำการต่อสู้และรวมพลังของพรรคในการเลือกตั้ง
เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ร้องเพลงนี้บนเวทีเมื่อคืนวันที่ 9 มกราคม 2566 เพื่อปลุกใจมวลชนรวมไทยสร้างชาติ ในการสู้ศึกเลือกตั้ง 2566 ทำให้นักการเมืองจากพรรคภูมิใจไทย สนทนากันว่า พล.อ.ประยุทธ์ ตามหลังทางการเมืองพรรคภูมิใจไทย มาถึง 14 ปี
เนื้อเพลงศรัทธา วงหินเหล็กไฟ
ไม่มี ก็คงต้องมีสักวัน ความฝันเป็นจริงต้องทนสู้ไป
ไม่นาน เราคงจะได้สมใจ มุ่งมั่น ทุ่มเทเพียงใดกว่าจะได้มา
เส้นชัย ไม่มาต้องไปหามัน รางวัล มีไว้ให้คนตั้งใจ
ขวากหนาม ทิ่มแทงก่อนผ่านพ้นไป โลกนี้ไม่มีอะไรได้มาง่ายดาย
ใจสู้หรือเปล่า ไหวไหมบอกมา โอกาสของผู้กล้า ศรัทธาไม่มีท้อ
ที่มา รู้ดีไม่รู้ที่ไป คนเรามันเลือกเกิดเองไม่ได้
แต่เราเลือกได้จะเป็นเช่นไร เลือกได้จะทำตามใจด้วยตัวของเรา
หลายคน เชื่อในเรื่องโชคชะตา บางคนเชื่อมั่นในตัวเอง
ชีวิต เรากำหนดของเราเอง จะแพ้ชนะไม่เกรงจะสักเท่าไร
ใจสู้หรือเปล่า ไหวไหมบอกมา โอกาสของผู้กล้า ศรัทธาไม่มีท้อ
เรื่องราวมากมายบีบคั้น กายและใจโอนอ่อนหวั่นไหว
แต่ก็มีเหตุผลสำคัญ ให้บางคนยอมถอดใจ
ใจสู้หรือเปล่า ไหวไหมบอกมา โอกาสของผู้กล้า ศรัทธาไม่มีท้อ
