รวมไทยสร้างชาติ เคาะ ประยุทธ์ – พีระพันธ์ุ แคนดิเดตนายกฯ สู้เลือกตั้ง 66

วันที่ 25 มีนาคม 2566 - 16:31 น.

รวมไทยสร้างชาติ เลือก ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตชิงนายกรัฐมนตรี พีระพันธุ์ ลั่น ชนะได้ทุกพรรค บอก บิ๊กตู่ เป็นนายกฯ 2 ปี คนไทยทั้งแผ่นดินดีขึ้นแน่นอน

วันที่ 25 มีนาคม 2566 ที่อาคารเดอะพอร์ทอล ไลฟ์สไตล์ คอมแพล็กซ์ อิมแพค พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จัดสัมมนาผู้สมัครส.ส.400 เขต และประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 พร้อมกับคณะกรรมการบริหารพรรคประชุมเลือกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จำนวน 2 รายชื่อ คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า เมื่อ 7 เดือนที่แล้ว วันที่ 3 สิงหาคม 2565 ตนได้รับเกียรติให้มาเป็นหัวหน้าพรรครทสช. เมื่อ 7 เดือนที่แล้ว พรรคนี้เพิ่งจะเริ่มก่อตัวขึ้นมา 7 เดือนที่ตนและเลขาฯและผู้บริหารที่ช่วยทำงานกันมาไม่มีเส้นทางอะไรที่ราบเรียบ ไม่มีเส้นทางที่ขรุขระเกินความอดทน หรือความมานะของพวกเรา

เราเริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ วันนี้เพียงแค่ 7 เดือน กกต.ประกาศว่า พรรค รทสช.เป็นพรรคแรก พรรคเดียวที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง 400 คน 400 เขตทั่วประเทศ เพียง 7 เดือน เราสามารถชนะทุกพรรคที่เกิดก่อนเราได้หมด

ก่อนที่ประธานยุทธศาสตร์กำหนดแนวทางของพรรค (พล.อ.ประยุทธ์) ตัดสินใจเดินหน้าประเทศไทยต่อ มารวมงานกับพรรค รทสช. พรรคของเราค่อย ๆ เติบโตขึ้นมาอย่างมั่นคง ผมและผู้บริหารพรรค เราตกลงกันว่าจะค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป ไม่ต้องทำอะไรให้มันหวือหวา มีตัวตน

“30 ปีในเส้นทางการเมืองที่ผมอยู่การเมืองมา ผมมีความมุ่งมั่นตั้งใจอยากเห็นการเมืองสักพรรคหนึ่งเป็นพรรคการเมืองที่มีหัวใจ ตั้งใจ เป็นที่พึ่งให้กับประชาชน สู้ปัญหาต่าง ๆ ให้กับประชาชนอย่างแท้จริง และที่สำคัญที่สุด ดีเอ็นเอของพรรคต้องทำงานเพื่อสถานบันชาติ ศาสตร์ กษัตริย์และประชาชนด้วยหัวใจที่ซื่อสัตย์ สื่อตรง ไม่โกง ไม่กินเด็ดขาด และพรรค รทสช.จะเป็นพรรคการเมืองพรรคแรกที่ไม่เคยมีในประเทศไทยที่ทำทุกอย่างเพื่อชาติและประชาชนด้วยความซื่อสัตย์ ซื่อตรง ไม่โกง ไม่กิน”นายพีระพันธุ์กล่าว

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า อีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเราต้องไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง เลือกตั้งครั้งนี้ไม่ได้แค่เลือก ส.ส. แต่เป็นการเลือกคนที่จะนำพาประเทศเดินหน้าไปแบบไหน พรรค รทสช.ขอประกาศตรงนี้ เราจะนำประเทศไทยของพวกเรา ให้เป็นประเทศอยู่แล้วมีความสุข เป็นประเทศที่อยู่แล้วมั่นคง เป็นประเทศที่มีความสามัคคีปรองดอง เราพูดแล้วเราทำแล้ว เริ่มต้นด้วยคนที่เคยสวมเสื้อต่างกัน ความคิดต่างกัน วันนี้รวมกันเป็น รวมไทยสร้างชาติ ภายใต้สามสี แดง ขาว น้ำเงิน ประเทศไทย

“ประเทศไทยของเรา คนไทยของเรา พี่น้องของเรา ยังอยู่ในความทุกข์อีกเยอะ ท่านพล.อ.ประยุทธ์ ผู้นำของเรา ท่านบอกว่า 2 ปีต่อไป ถ้าผมกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนไทยทั้งแผ่นดินต้องดีขึ้นแน่นอน ไม่ได้ขอโอกาสมาทำงาน แต่ทำให้ดูแล้ว ทำอยู่และจะทำต่อไปให้ดีกว่าเดิม”นายพีระพันธุ์กล่าว

เราไม่ได้สู้เพื่อเรา เราไม่ได้สู้เพื่อรวมไทยสร้างชาติ เราไม่ได้สู้เพื่อพล.อ.ประยุทธ์ แต่เราจะสู้เพื่อคนไทยทั้งชาติ แล้ววันนี้จะไม่ให้ผมพูดหลังจากได้พล.อ.ประยุทธ์มาเป็นผู้นำพรรครทสช.เพื่อชาติ ศาสตร์ กษัตริย์และประชาชนเหรอครับ

พวกเรา 400 ชีวิต 400 แรง 400 พลัง เราไม่ได้เดินเข้าสู่สนามเลือกตั้งอย่างโดดเดี่ยว แต่เราจะมีพล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้นำทัพของพวกเราอีกคนหนึ่ง ต้องห่วงกำลังใจเพียบ

เพื่อให้การนำทัพสมบูรณ์แบบ เมื่อวาน (24 มี.ค.) ตอนเย็น คณะกรรมการบริหารพรรครทสช. ได้ประชุมกันเรียบร้อยว่า เสนอพล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีนำทัพพวกเราสู้สนามเลือกตั้ง

ต้องอยู่ฝ่ายพระเอก-ผู้ร้ายแพ้ทุกที

พล.อ.ประยุทธ์ขึ้นกล่าวว่า ขอขอบคุณสมาชิกพรรคทุกท่าน ขอบคุณหัวหน้าพรรค ขอบคุณเลขาธิการพรรค ขอบคุณกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด ที่ได้ให้เกียรติตนให้ขึ้นมากล่าวบนเวที และที่จะเสนอตนให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ไม่ทราบว่ามีใครขัดข้องหรือเปล่า มีไหมจ๊ะ ขอขอบคุณทุกคน เพราะตนก็มีประสบการณ์ในการบริหารมาพอสมควร

“ขอขอบคุณผู้สมัคร ส.ส.400 เขตทุกท่าน วันนี้ผมไม่รู้สึกโดดเดี่ยว เป็นความตื้นตันของผม ทุกครั้งที่ผมขึ้นมาคนไม่มาก แต่วันนี้ผมมีผู้ร่วมงานของผม พระเอกทั้งหมดอยู่ข้างผม มีนางเอกด้วย หนังเรื่องหนึ่งต้องมีพระเอก นางเอก แต่ผู้ร้ายต้องแพ้ทุกทีทั้งนั้น เพราะฉะนั้นเราต้องอยู่ฝ่ายพระเอก พระเอกสุดท้ายก็รักกับนางเอกทุกคน แต่ผู้ร้ายมันชอบเกเรกับนางเอก”

ประชาชนคือหุ้นส่วน ไม่แสวงหาผลประโยชน์

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า 400 คนที่เห็นอยู่นี้ บางคนเป็น ส.ส.อยู่แล้ว บางคนเคยเป็น หลายคนลงสมัครเป็นครั้งแรก มีทั้งรุ่นใหญ่ รุ่นกลางและรุ่นใหม่ มีความรู้และประสบการณ์ที่หลากหลาย ถ้าเราเปรียบเหมือนรถยนต์ เรียกว่ามีทั้งรถรุ่นใช้น้ำมัน อันที่สองรถยนต์รุ่นไฮบริด

อันที่สาม คือ รถไฟฟ้า คนเหล่านี้ที่จะรับทราบว่าคนแต่ละยุคแต่ละวัยคิดอะไร แล้วเราจะทำอะไรให้เขาบ้าง มากน้อยแค่ไหน เรายืนยันว่า เราจะขับเคลื่อนไปด้วยกันเพื่อให้คนทุกรุ่นทุกวัยเดินไปข้างหน้าได้ตามวิสัยทัศน์ของพวกเรา

“เราต้องเดินหน้าไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน คือยุทธ์ศาสตร์ของเรา ยุทธศาสตร์ของประเทศ ดูแลทุกกลุ่ม เพราะคือหุ้นส่วนของประเทศไทย ประชาชนคือหุ้นส่วน คนตรงนี้ต้องทำให้ทุกคนมีความสุข ไม่ใช่บริหารธุรกิจ ไม่แสวงหาผลประโยชน์ ต้องมีนโยบายที่จับต้องได้และถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ”

ที่เรามานั่งกันอยู่ตรงนี้ได้ ใครทำครับ ใครเป็นคนบริหารให้มาถึงวันนี้ได้ เศรษฐกิจวันนี้ที่เดินหน้ามาได้ เราก็ยังเดินหน้ามาได้ด้วยดี การลงทุนต่างประเทศขยายมากขึ้น แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือเราจะดูแลคนที่มีรายได้น้อยอย่างไร ในฐานะที่เขาเป็นคนถือหุ้นประเทศไทยคนหนึ่งเหมือนกัน ไม่ว่าจะเกษตรกร กลุ่มเปราะบาง คนพิการ ทั้งหมด 400 คนต้องร่วมคิดไปกับผม ร่วมกันทำไปกับผม

“เมื่อกี้ผมก็คิดเล่น ๆ กระซิบกับหัวหน้า (นายพีระพันธุ์) ถ้าเรามี 400 คนไปนั่งในสภาจะทำยังไง แต่เราจะไม่ทำอย่างที่คนอื่นทำ เราจะร่วมกันคิด ร่วมกันทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ เรียกว่า รวมกันเราอยู่ แยกหมู่เราตาย”

ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อพลัส

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า พรรคของเราแม้จะเป็นพรรคการเมืองใหม่ คนของเราไม่ได้หน้าใหม่ ผมหน้าเก่า อยู่มาตั้งหลายปีแล้ว อดีตรัฐมนตรีก็มี รองนายกรัฐมนตรีก็มีที่เป็นสมาชิกแล้ว ผลงานของเรานับไม่ถ้วน หลายคนอาจจะไม่เห็น หลายคนอาจจะลืม ขับรถไฟต่างจังหวัดยังไม่รู้เลยว่าถนนเส้นนี้สร้างสมัยใคร

โทรศัพท์ใช้การได้ดีสมัยไหน ใช้ทั้งชม ใช้ทั้งด่า ใช้ได้หมด เราจะทำต่อ ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ ขออนุญาตในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค บวกไปอีกนิดหนึ่ง ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อพลัส คือ ทำอีก วันนี้มีคณะกรรมการเศรษฐกิจ หลายคนไม่อยากเข้ามา อยู่ข้างหลังผม คอยให้คำปรึกษาและเสนอพรรคเพื่อทำงาน ที่มาของแคมเปญการหาเสียงที่ออกไปแล้ว คือ ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ พรุ่งนี้พอเจอหน้า 400 คน บวก พลัสเข้าไปด้วย ประเทศไทยต้องไปต่อ

ทางหลัก ใครจะมาต้องขออนุมัติก่อน

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ผู้ชายคนหนึ่งที่มีหัวใจ ผมอยากจะให้กำลังใจว่าที่ ส.ส.ทุกคน ผมยืนยันว่าเราจะช่วยกันทำให้พรรครทสช.เป็นสถาบันการเมืองที่เข้มแข็ง เป็นทางเลือกหลักให้คนไทยทั้งประเทศ ไม่ใช่ทางผ่าน เราต้องเป็นสายตรง สายใหญ่ เส้นหลัก มอเตอร์เวย์ ไม่ใช่ทางผ่านของใคร ถ้าใครจะมาก็ต้องขออนุมัติขึ้นทางผ่านมั้ง เราต้องร่วมมือกัน ให้เราได้มาให้ได้มากที่สุด เราจะได้ทำได้ดีขึ้น ได้สะดวกขึ้น

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนอาจจะพูดจาขวานผ่าซากนิดหนึ่ง พูดไม่เพราะบ้างหน่อยหนึ่ง นะ แต่ตนเป็นคนจริงใจ เคยบอกไว้แล้วว่า มีหัวใจกันคนละดวง แต่ต้องมีหัวใจที่ยิ่งใหญ่พอที่จะรักคนทั้ง 70 ล้านคนทั้งประเทศ ไม่ใช่รักใครคนใดคนหนึ่ง พวกกัน อะไรกัน ต้องรักคนทุกคนเท่า ๆ กัน เราถึงจะคิดออกว่าเราจะทำอะไรเพื่อเขา

“แล้วหัวใจที่ว่า ตัวผม หัวใจสีม่วง ไม่ใช่เรื่องโกหก พูดให้ดูดี ไม่ใช่ ผมเคยเป็นทหารมาก่อน พูดอยู่ในกรมทหารมาก่อน และทหารกรมนั้นมีหัวใจสีม่วง หัวใจสีม่วง คือ หัวใจของคนใกล้จะตาย ต้องเป็นหัวใจที่ไม่พูดความเท็จ พูดโกหกไม่ได้ แต่ไม่ใช่ผมจะตายเลยนะ ผมเปรียบเทียบให้ฟัง เราทั้งหมด 400 คน รับว่าจะดูแลคน 70 ล้านคนไปพร้อม ๆ กัน เป้าหมายร่วมกันของเราก็คือ รวมไทยสร้างชาติ ๆ ๆ”