สกลธี โต้ นิด้าโพล ประวิตร ไม่ติดโผนายกฯในใจคน กทม. เชื่อวัดกันนาทีท้าย

ประวิตร เปิดตัว สกลธี นำทัพ กทม.

สกลธี-เจ้าพ่อ กทม.พลังประชารัฐ โต้ นิด้าโพล ประวิตร ไม่ติด 1 ใน 10 คนกรุงเทพฯ สนับสนุนเป็นนายกฯ เชื่อวัดกระแสโค้งสุดท้าย เล็ง ทิ้งหมัดเด็ด-ปราศรัยใหญ่ปิดก่อนเลือกตั้ง

วันที่ 27 มีนาคม 2566 ที่พรรคพลังประชารัฐ นายสกลธี ภัททิยกุล หัวหน้าทีมกรุงเทพมหานคร (กทม.) พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนิด้าโพลระบุ ผลการสำรวจคะแนนนิยมของคน กทม. พล.อ.ประวิตรมีคะแนนนิยมเพียงร้อยละ 3.20 ว่า นายสกลธีกล่าวว่า สนามเลือกตั้ง กทม.จะตัดสินกันที่ช่วงโค้งสุดท้าย หรือ 2 สัปดาห์ก่อนเลือกตั้ง ถึงจะรู้ว่าผลการเลือกตั้งจะไปในทิศทางไหน

“วันนี้เป้าหมาย ส.ส.กทม.ยังตั้งไว้เท่าเดิมบวกลบ ซึ่งตอนนี้เราประเมินหลายอย่าง ทั้งโพลออนไลน์และออฟไลน์ ณ วันนี้ใกล้เคียง ซึ่งการทำโพลภาพรวมพลังประชารัฐอยู่ในอันดับ 3 อันดับ 4 อันดับ 5 สับไปสับมา วนไปวนมา ไม่ใช่เราหายไปเลย แต่อย่างที่เรียนว่าในกรุงเทพฯ วันสองวันก็เปลี่ยนได้” นายสกลธีกล่าว

เมื่อถามว่า สาเหตุที่คะแนนความนิยมของพรรคพลังประชารัฐใน กทม.ไม่ติดโพล ต้องปรับเพิ่มปริมาณหรืออัดฉีดให้มากขึ้น นายสกลธีกล่าวว่า ตนคิดว่าไม่ใช่ ตนไม่มั่นใจโพล โพลก็ทำกันเยอะ แต่โพลที่เราทำคะแนนนิยมของพรรคและหัวหน้าพรรคติดทุกอัน ตนถึงขอตั้งคำถามว่า บางทีโพลก็มีผลต่อการชี้นำและต้องดูความน่าเชื่อถือของโพลด้วย

“โพลที่ออกมาอาจจะดูขัด หรือค้าน ถ้าถามตรง ๆ พล.อ.ประวิตรเป็นหัวหน้าพรรค ในฐานะรัฐบาลหลักแล้วไม่ติดโพล 1 ใน 10 เป็นไปลำบาก เหมือนกับผมตอนลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.โพล 1% แต่พอจบก็ขึ้นมา 9% จึงวัดอะไรตอนนี้ไม่ได้ ต้องรอถึงนาทีสุดท้าย การเลือกตั้งคราวที่แล้วเลือกความสงบจบที่ลุงตู่ วันนี้ยังไม่เห็นว่าจะมีอะไร แต่ช่วงโค้งสุดท้ายแต่ละพรรคต้องเต็มที่ ต้องมีของตัวเองที่เป็นเคล็ดลับ หรือกลเม็ดอะไรออกมา” นายสกลธีกล่าว

เมื่อถามว่าโค้งสุดท้ายตัดสินกันที่อะไร นายสกลธีกล่าวว่า กระแสเป็นหลัก ต่อให้นโยบายดีอย่างไร แต่คนไม่เอา กระแสไม่มา เขาก็ไม่เลือก

“ผมคิดว่าต้องมีอะไรสักอย่างที่ทำให้คนคิดว่าต้องเลือกพรรคนี้ ตามความรู้สึกของเราที่เราอยากเลือก คนกรุงเทพฯส่วนใหญ่เป็นแบบนั้น” นายสกลธีกล่าว

เมื่อถามว่า ทำไมลึก ๆ แล้วถึงคิดว่าโค้งสุดท้ายจะมีอะไรที่ทำให้กระแสพลิกไปข้างใดข้างหนึ่ง นายสกลธีกล่าวว่า มันต้องมี เพราะแต่ละพรรคก็ต้องหาอะไรที่เป็นจุดเด็ดของแต่ละพรรคออกมาให้คนตัดสินใจ

“สตาร์ตวันนี้มองไม่ออกหรอกว่าใครนำ อาจจะมีคนนำอยู่แล้วเกิดอะไรขึ้นมาสุดท้ายแล้วพลาดก็มี มีสองอย่าง คะแนนเยอะขึ้นกับคะแนนน้อยลง อาจจะมีพรรค ก.พลาดขึ้นมา กระแสคนไม่เอาแล้ว” นายสกลธีกล่าว

เมื่อถามว่าเชื่อว่าโค้งสุดท้ายพรรคเพื่อไทยจะมีก้าวที่พลาด นายสกลธีกล่าวว่า เขาอาจจะมีก้าวบวกก็ได้ ก้าวพลาดก็ได้ แต่ละพรรคก็มีโอกาสเท่า ๆ กัน อยู่ที่กลยุทธ์ของแต่ละพรรคนาทีสุดท้าย
เมื่อถามว่า พรรคพลังประชารัฐมีไม้เด็ดในช่วงโค้งสุดท้ายหรือไม่ นาสกลธีกล่าวว่า คิดไว้อยู่ ต้องรอดู

เมื่อถามว่า กระแสนายทักษิณ ชินวัตร กลับบ้านแรงขึ้นจะมีผลต่อการตัดสินใจของคน กทม.หรือไม่ นายสกลธีกล่าวว่า ก็เป็นจุดประสงค์ที่ต้องการปล่อยออกมา เขาอาจจะมองว่าการปล่อยออกมาอาจจะมีผลทำให้คนสนับสนุนอยากจะเลือก

“กทม.ไม่น่าจะมีผลมาก เพราะ กทม.ด้วยฐานของคะแนนแบ่งออกเป็นสองฝั่งค่อนข้างชัดเจนอยู่แล้ว ไม่น่าจะเกี่ยว” นายสกลธีกล่าว

นายสกลธีกล่าวว่า ส่วนกระแสข่าวดีลนายทักษิณให้ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น เป็นทั้งบวกทั้งลบกับผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ เพราะมีทั้งคนที่สนับสนุนและไม่สนับสนุนนายทักษิณ

“ผมว่าอาจจะมองว่า เหมือนกับ พล.อ.ประวิตร ท่านก้าวข้ามความขัดแย้ง ตอนนี้ยังไม่สามารถคุยกันชัดเจนว่าจะจับกับใคร ต้องรอหลังเลือกตั้ง พอได้จำนวนเก้าอี้มาแล้วดูว่าแนวทางพรรคอื่นเป็นอย่างไร ก็ไม่ได้ดูพรรคเราพรรคเดียว ต้องดูพรรคอื่นด้วยว่า เขาจะจับกับใครไหม แล้วตัวเลขเพียงพอที่จะตั้งรัฐบาลหรือเปล่า ตอนนี้อาจจะประเมินเร็วไปว่าจับกันแล้ว ต่างคนต่างต้องแข่งกันด้วยนโยบาย ทุกพรรคต้องแข่งกันให้นโยบายกับประชาชนมากกว่า คุณจะมีจับกันล่วงหน้าไม่น่าจะเป็นไปได้” นายสกลธีกล่าว


นายสกลธีกล่าวว่า สำหรับการเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐว่า เป็นธรรมเนียมอยู่แล้วที่หัวหน้าพรรคจะมีการปราศรัยปิด ซึ่งจะจัดที่กรุงเทพฯเป็นจุดสุดท้ายก่อนจะมีการเลือกตั้ง ซึ่งได้เตรียมสถานที่ไว้อยู่แล้ว ดังนั้นหัวหน้าพรรคจะขึ้นเวทีปิดที่กรุงเทพมหานครแน่นอน