อนุทินเย้ยเศรษฐา ได้แต่พูด ไม่มีอำนาจ ไฟเขียวผู้สมัคร ใครเสียหายฟ้อง

อนุทิน ชาญวีรกูล

อนุทินเย้ยเศรษฐา ทวีสิน ได้แต่พูด ไม่มีอำนาจ เคาะ ใครมีอำนาจตัวจริง ไฟเขียวผู้สมัคร ส.ส.ภูมิใจไทย ฟ้องทำเสียหาย เลือกภูมิใจไทย ได้ประยุทธ์ เป็นนายกฯ

วันที่ 2 พฤษภาคม 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ปราศรัยที่พื้นที่อีสานพาดพิงพรรคภูมิใจไทยที่เข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง จะดำเนินการทางกฎหมายหรือไม่ว่า พรรคภูมิใจไทย มีฝ่ายกฎหมายที่คอยดูอยู่แล้ว ว่าตรงไหนจะทำให้เกิดความเสียหายต่อพรรค ถ้าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ฝ่ายกฎหมายก็จะดำเนินการไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับใคร

เมื่อถามว่าขณะนี้มีการดำเนินคดีแล้วหรือยัง นายอนุทินกล่าวว่า ตนไม่ได้นำพาเรื่องนี้ แต่พรรคมีฝ่ายกฎหมายอยู่แล้วก็จะดำเนินการไปตามขั้นตอน เรื่องนี้ไม่ต้องมาถามหัวหน้าพรรค เพราะใครก็ตามที่ทำผิดกฎหมาย ผู้ที่เสียหาย ก็สามารถร้องเรียนและฟ้องร้องได้ คนที่เสียหาย จากคนใดคนหนึ่ง โดยเฉพาะไปพูดความเท็จในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ทั้งเรื่องนโยบาย ด้อยค่า นโยบายไปพูดให้มีการเบี่ยงเบน วิพากษ์วิจารณ์ให้เกิดผลเชิงลบกับตัวผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทยทุกคน คนเหล่านี้ก็มีสิทธิจะดำเนินการ ที่จะปกป้องความชอบธรรมของตัวเอง

“แต่อย่าไปบอกว่าอย่าเลือกพรรคภูมิใจไทยนะ ลุงตู่มา แบบนี้มันพูดไม่ได้ มันเป็นการโน้มน้าวให้เกิดความเข้าใจผิด สมมุติคนเลือกพรรคภูมิใจไทย เพราะคิดว่านายอนุทินจะมาเป็นนายกฯ แต่ดันคนอื่นมาเป็นนายกฯ เขาก็ไม่เลือกพรรคภูมิใจไทยก็เสียหาย คนสมัครก็เสียหาย ไม่เพียงแค่แคนดิเดตนายกฯของพรรค ตรงนี้ถ้ามีประเด็นกฎหมายเราก็ต้องดำเนินการ

แต่ต้องขอยืนยันตรงนี้ ถ้าพรรคภูมิใจไทยคะแนนเสียงมาเป็นจำนวนมากเพียงพอ แล้วถ้าจำเป็นต้องรับตำแหน่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นนายกฯ หรือตำแหน่งอื่น ๆ ก็ต้องใช้คนของพรรคภูมิใจไทย ต้องพูดไว้ก่อน แม้จริง ๆ ไม่อยากพูดเพราะไม่อยากยกตัวเอง แต่ถ้ามีคนมาให้ร้ายอย่างนี้แล้วก็ต้องพูดให้ชัดเจน ยืนยันว่าเลือกพรรคภูมิใจไทย ได้นายอนุทิน จะเป็นนายกฯ” นายอนุทินกล่าว

Advertisment

เมื่อถามว่าจะให้ผุู้สมัคร ส.ส.พรรค ฟ้องทั่วประเทศแบบกรณีอื่น ๆ หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า แล้วแต่ไม่มีธงใด ๆ ทั้งสิ้น ตอนนี้เหลืออีก 2 สัปดาห์ก็จะเลือกตั้ง เราก็ทำงานของเรา แต่ถ้าผู้สมัครคนไหนเสียหายก็เป็นสิทธิของเขา เราจะไปชี้นำหรือสั่งการคงไม่ได้

เมื่อถามว่า นายอนุทินโพสต์เฟซบุ๊กว่า นายเศรษฐาทำการเมืองให้ทางเดินพรรคเพื่อไทยแคบลง สมมุติว่าหลังเลือกการประกาศจุดยืนไม่เป็นไปตามที่กล่าวไว้กับพรรคเพื่อไทย จะต้องรับผิดชอบทางการเมืองอย่างไรหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า “ถึงเวลาจริง ๆ ก็รู้กันอยู่ว่าใครเคาะได้ ใครได้แต่พูด ตรงนี้คนการเมืองเขารู้ดี ผมไม่ขอพูด”

เมื่อถามว่าจะเป็นการปิดประตูกับพรรคเพื่อไทยเลยหรือยังพอคุยกันได้ นายอนุทินกล่าวว่า “ผมคิดว่าพรรคเพื่อไทยนั้น ถึงเวลาที่จะมีการพูดคุย เขาจะมีคน มันจะมีช่องทางในการพูดคุย ถ้าจำเป็นต้องพูดคุย ทุกพรรคการเมืองเราจะรู้ว่าคนนี้ตัวจริง คนนี้ตัวไม่จริง”

เมื่อถามว่าจะกลายเป็นเงื่อนไขหรือไม่ว่าหากนายเศรษฐาได้เป็นแคนดิเดตนายกฯและเลือกในสภา พรรคภูมิใจไทยจะไม่เลือก นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มี ทุกวันนี้ไม่พูดท่าทีอะไรทั้งสิ้น ณ วินาทีนี้เรายังไม่มีการพูดคุยเรื่องการเมืองกับใครเลย วันนี้ดูแลตัวเองไม่ให้บอบช้ำจากการกล่าวหา การกล่าวให้ร้ายจากผู้อื่น และลงพื้นที่ให้มากที่สุด

Advertisment

เมื่อถามว่า นายอนุทินได้โพสต์เฟซบุ๊กทำนองว่า นายเศรษฐาเปลี่ยนไปเมื่อเข้าสู่ถนนการเมือง แต่ก่อนเป็นคนอย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า เปลี่ยนคำถามดีกว่า “โปรดอย่าถามเมื่อฉันเป็นใครเมื่อในอดีต”

เมื่อถามว่า จะมีโทร.เคลียร์ใจกับนายเศรษฐาหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มีแล้ว จะไปโทร.ทำไม มาถึงขนาดนี้แล้ว ซึ่งนายเศรษฐาเขาว่าตนก่อน ไม่ได้ว่าส่วนตัว เขาว่าพรรคมันหนักกว่า ถ้าว่าส่วนตัวตนยังถือว่าเป็นพี่ ๆ น้อง ๆ แต่นี่ว่าพรรคทุกคนในพรรคก็เสียหาย ตนก็จำเป็นต้องออกมาตอบโต้เท่านั้นเอง ไม่มีอะไรในเรื่องส่วนตัว เพราะถ้ามีเรื่องส่วนตัวก็คงไม่เรียกว่าพี่นิด

เมื่อถามว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย มีวุฒิภาวะมากกว่านายเศรษฐาหรือไม่ นายอนุทินไม่ตอบคำถามได้แต่หัวเราะ