รวมไทยสร้างชาติ พัทลุง ยกธงขาว ยุติการหาเสียง ถูกตัดท่อกลางอากาศ 

รวมไทยสร้างชาติ

รวมไทยสร้างชาติ พัทลุง เขต 1 – เขต 3 ยุติการหาเสียง ถูกตัดท่อน้ำเลี้ยงกลางอากาศ

วันที่ 9 พฤษภาคม 2566 รายงานข่าวจากพรรครวมไทยสร้างชาติว่า จากกรณีนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดเลย พร้อมผู้สมัครหลายคนออกมาเรียกร้องผู้บริหารพรรครวมไทยสร้างชาติเรื่องการไม่ได้รับการสนับสนุนเงินในการใช้หาเสียงเลือกตั้งจนทำให้ผู้สมัครหลายมีหนี้สินแล้วยังมีผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดพัทลุง เขต 1 นายกิตติ สัตรัตน์และ เขต 3 นายปรัชญา นวลเปียน ที่ยุติการหาเสียงแล้ว เนื่องจากถูก “ตัดท่อกลางคัน” เหลือเพียง นายนิติศักดิ์ ธรรมเพชร ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 ซึ่งเป็นลูกชายของนายวิสุทธิ์ ยังสู้ต่อ

แหล่งข่าวกล่าวว่า เรื่องจาก เขต 1 พรรครวมไทยสร้างชาติให้นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร รองหัวหน้าพรรคเป็นคนดูแล แต่ขณะเดียวกันหลานของนายวิสุทธิ์ คือ สุพัชรี ธรรมเพชร เป็นผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์เหมือนเดิม

รวมไทยสร้างชาติ

ซึ่งอาจจะกระทบกับหลานของนายวิสุทธิ์ สำหรับนายปรัชญา หาเสียงไปได้สักพักก็ไปไม่ได้ พรรครวมไทยสร้างชาติทุนก็ไม่ดี หรือ ทุนอาจจะไม่ถึงผู้สมัครในพื้นที่ ซึ่งอาจจะประคับประคองไปจนถึงวันเลือกตั้ง หนี้สินต่าง ๆก็จะรับผิดชอบให้

นายหิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวภายหลังรับฟังข้อเรียกร้องจากนายปรีชาและผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคว่า ตนได้รับมอบหมายจากพรรคให้มารับฟังข้อเรียกร้องของผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคที่เดินทางมาเรียกร้อง เพื่อนำไปแจ้งต่อผู้ใหญ่ของพรรคให้ทราบว่า พรรคมีข้อผิดพลาดอย่างไรในการดำเนินงานตามอุดมการณ์ของพรรค มีนโยบายเรื่องใดที่จะต้องนำไปแก้ไข

นายหิมาลัยกล่าวว่า พรรครวมไทยสร้างชาติเป็นพรรคเพื่ออุดมการณ์ทางการเมือง เงินบริจาคที่ได้มาก็ต้องนำไปใช้ในการทำกิจกรรมทางการเมืองของพรรคอย่างประหยัดและระมัดระวัง เราไม่สนับสนุนการซื้อสิทธิขายเสียง เราต้องการทำการเมืองอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม หาเสียงด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ตามกติกาของ กกต.และรัฐธรรมนูญ ถ้าดำเนินงานตามนี้ ไม่จำเป็นจะต้องใช้งบประมาณจำนวนมากแต่อย่างใด

นายหิมาลัย กล่าวว่า พรรคการเมืองเป็นที่รวบรวมคนที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองเหมือนกัน ไม่ใช่สถาบันทางการเงินเพื่อสนับสนุนการลงทุนให้ผู้สมัคร ผู้ที่เสนอตัวเพื่อมารับใช้แบ่งเบาภาระของพ่อแม่พี่น้อง จึงควรเป็นผู้ที่มีความพร้อมในทุกๆ ด้าน เพื่อไม่เป็นภาระแก่ผู้ใด เรื่องงบประมาณ ก็ควรจะทราบว่า ผู้สมัครเองมีงบอยู่เท่าไร

พรรครวมไทยสร้างชาติ

ซึ่งต้องเป็นไปตามกฎกติกาของ กกต. และกฎหมาย ก็ควรจะบริหารงบให้อยู่ในกรอบที่ตัวเองรับได้ และไม่เดือดร้อน พรรครวมไทยสร้างชาติบริหารตามอุดมการณ์ทางการเมือง ด้วยความศรัทธาจากประชาชนและผู้สนับสนุน

“พรรครวมไทยสร้างชาติไม่มีกิจกรรมอื่นใดที่จะไปเรียกรับผลประโยชน์จากกลุ่มทุนต่างๆ ประชาชนจึงมั่นใจได้ว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ สามารถบริหารประเทศรักษาผลประโยชน์ของชาติและประชาชนได้โดยปราศจากการแทรกแซงจากกลุ่มอิทธิพลใดๆ ดังนั้นก่อนที่ผู้ใดจะเสนอตัวเข้ามาสมัคร ส.ส.จึงควรจะศึกษาแนวทางและอุดมการณ์ของพรรคให้ดีเสียก่อน.

“ผู้ใหญ่ของพรรคนี้ เป็นผู้มีชื่อเสียงเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต อะไรที่ผิดทางผู้ใหญ่ของพรรคไม่ทำแน่นอน การคาดหวังของผู้สมัครในบางเรื่องที่อยู่นอกกติกาของ กกต.และกฎหมาย ทางพรรคไม่สามารถสนองตอบได้ รวมไทยสร้างชาติ ต้องการทำการเมืองที่โปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรม เพื่อมุ่งสู่อุดมการณ์ทางการเมืองของพรรค ตามอุดมการณ์ของพรรคที่ว่า รวมไทยสร้างชาติ ปกป้องสถาบัน รับใช้ชาติและประชาชน”นายหิมาลัยกล่าว