เศรษฐา : เพื่อไทย อยู่กับความจริง ไม่ใช่ความฝัน ผมพร้อมมากที่จะเป็นนายกฯ คนต่อไป

เศรษฐา

อีกเพียง 2 วัน จะถึงวันชี้ชะตาประเทศไทยผ่านการเลือกตั้งอีกครั้ง

ทุกสำนักการเมือง ยกให้พรรคเพื่อไทย “คือตัวเต็ง” พรรคเบอร์หนึ่งที่ได้เสียงโหวตมากที่สุด มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลได้มากที่สุด

เครือมติชน สัมภาษณ์ 1 ใน 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย “เศรษฐา ทวีสิน” ถึงเหตุผลที่ทำไมนายกฯ ต้องเป็นพรรคเพื่อไทย ทำไมนายกฯ ต้องเป็นเศรษฐา

เขาเผย 2 หลักการสำคัญสำหรับ พรรคการเมืองที่จะทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทย ต้องอยู่กับความจริง ไม่ใช่ความฝัน และเขามั่นใจว่า จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

ทำไมนายกฯ ต้องเป็นเศรษฐา

จริง ๆ แล้วผมเข้ามาในการเมืองผมเดินเข้ามาคนเดียว ไม่ได้มีก๊ก มี ส.ส. ไม่ได้มีเหล่า ผมเข้ามาจากภาคธุรกิจมีความประสงค์เข้ามาเปลี่ยนแปลงประเทศไทย เพราะเห็นความตกต่ำทางเศรษฐกิจ ความไม่เสมอภาค ความไม่เท่าเทียม อิสรภาพลดน้อยลง ผมเลือกที่จะเข้ามาในสถาบันการเมืองพรรคเพื่อไทย ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน มีความชัดเจนเรื่องนโยบาย

ส่วนตัวผมมีความเชื่อ มีความเห็นตรงกันว่าจะผลักดันให้ประเทศชาติเดินไปข้างหน้าได้ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัย ให้ประชาชนมีความสุข พ้นทุกข์จากความยากจนทั้งหลาย เชื่อว่าตรงนี้เป็นตัวตนของผม และการเดินเข้ามาอยู่ในทีมที่มีความพร้อมของพรรคเพื่อไทย เป็นจุดสำคัญที่สุด

จุดเริ่มต้นการเมือง

ไม่มีการเมืองอยู่ในหัว จนกระทั่ง 10 ปีที่ผ่านมา สนใจการเมืองมากยิ่งขึ้น เพราะการทำธุรกิจไปไม่ได้ ถ้าประเทศไทยไปไม่ได้ เห็นเหตุการณ์การรัฐประหาร เห็นเหตุการณ์ที่ไม่ถูกต้อง ประชาชนและตัวเองถูกลิดรอนสิทธิ และไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร ตรงนี้เป็นจุดเริ่มต้นว่าทำไมผมถึงอยากเข้ามามีส่วนร่วมในการทำงานภาคการเมือง

รวมถึงสถานการณ์โควิด-19 การบริหารวัคซีนโควิดผิดพลาด การที่พี่น้องประชาชนไม่ได้รับสิทธิด้านสาธารณสุขตามที่สมควรจะได้ การที่บุคคลชั้นสูงในสังคมไปแย่งวัคซีนมาโดยที่ตนเองไม่สมควรจะได้ และยังโพสต์เฟซบุ๊กว่าตนได้รับวัคซีนเต็มแขน ทั้งที่ตัวเองจริง ๆ แล้วไม่มีสิทธิที่ควรได้รับ

นอกจากนั้น บริษัทที่ทำอยู่ประสบความสำเร็จ มีศักยภาพมั่นคง ลูก ๆ มีหน้าที่การงานมั่นคง เรียนจบมาอย่างดี

“แน่นอนในวงการธุรกิจในพรรคพวกเพื่อนฝูง มีการคุยกันเรื่องการศึกษา เรื่องเศรษฐกิจ ทำนู่นกัน ทำนี่กัน มันก็เป็นวาทกรรมที่ด้อยค่านักการเมือง สถาบันการเมือง ข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ พูดไปแต่ไม่มีใครอยากจะเข้ามา โยงไปถึงคำถาม เข้ามาไม่กลัวว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกกลั่นแกล้ง สาดโคลนเหรอ หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากองค์กรรัฐ ตรงนี้ก็ต้องคิด แต่ผมว่าเราก้าวข้ามจุดนั้นมาแล้ว”

“ผมไม่เอาความกังวลนั้นมาบั่นทอนแรงที่จะขับเคลื่อนนโยบายของพรรคเพื่อไทย แรงที่จะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยเข้าสู่ประเทศไทยไม่ได้ เพราะเราตัดสินใจ เราก้าวข้ามเส้นตรงนั้นมาแล้ว”

เศรษฐา ทวีสิน

ถ้าได้เป็นนายกฯ

ในฐานะที่มีประสบการณ์น้อยในวงการเมือง ขีดจำกัดหลาย ๆ อย่างอาจพอทราบ แต่ไม่ทราบทั้งหมด เรื่องปากท้องสำคัญที่สุด ประชุม ครม.นัดแรก ดูแลค่าใช้จ่าย อะไรดูแลพี่น้องประชาชนได้ก็ต้องดูแล เรื่องเศรษฐกิจโดยรวมก็สำคัญ เรื่องดิจิทัลวอลเลต เรื่องเติมเงินให้ครอบครัว ถ้าไม่ถึง 2 หมื่นบาท ผลักดัน พ.ร.บ.อากาศสะอาด เรื่องการเลือกเพศสภาพ การสมัครในเกณฑ์ทหาร

การตั้ง ส.ส.ร.เลือกตั้งจากประชาชนเพื่อที่จะร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กฎการอยู่ร่วมกันที่สะท้อนความต้องการของประชาชนจริง ๆ ตรงนี้คือภาพใหญ่ แต่เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องปากท้องสามารถทำได้ในปีแรก อยากเห็น GDP ในปี 2567 เติบโตอย่างน้อย 5% เฉลี่ย 4 ปีที่เป็นรัฐบาล โตอย่างน้อย 5% หรือดีกว่านั้น เชื่อว่าทำได้ทันที

“ความเป็นอยู่ของประชาชนจะดีขึ้นแน่นอน สิทธิเสรีภาพ เพศสภาพ สมรสเท่าเทียม เกณฑ์ทหารก็ต้องพูดคุยกับสภากลาโหม”

เรื่องที่ผู้นำประเทศไม่มีตัวตนในต่างประเทศเลย ก็เป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่ง ที่เราต้องรีบเดินทางออกไปเจรจา ไม่ใช่คอยเวลาประชุมอาเซียนซัมมิท หรือ เอเปค จี20 ประชุมสหประชาชาติ เราต้องเดินทางไปคุยกับประเทศนั้น ๆ เลยโดยเฉพาะ

“เพราะผมเชื่อว่าการที่เราจะคอยว่า 10 ประเทศ 20 ประเทศ เข้ามา โฟกัสจะไม่ได้ แต่เราต้องพร้อมทั้งคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ นักธุรกิจที่เกี่ยวข้องก็ต้องเอาไปทำงานเชิงรุกทันที”

ไม่รื้อโครงสร้าง

เขายืนยันว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ไม่ได้มารื้อโครงสร้างใด ๆ

“คนเข้าใจผิดนะครับ คิดว่าจากการที่ผมก้าวเข้ามาจาก CEO การบริหารจัดการธุรกิจมีอำนาจเบ็ดเสร็จ ก่อนหน้าที่จะก้าวเข้ามา ผมอยู่ในแสนสิริ ผมไม่ได้มีอำนาจเบ็ดเสร็จนะ ผมก็มีผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีความสามารถสูง อยู่มา 20-30 ปี อยู่ดี ๆ จะไปสั่งเขาก็ไม่ได้”

“ถ้าต้องการทำอะไรเราต้องการทำอะไร เราต้องเอาส่วนร่วมเข้ามา ความคิดร่วมกัน เราต้อง motivate (กระตุ้น) เขาให้ได้ ไม่ใช่สักแต่สั่งอย่างเดียว บางเรื่องผมก็ต้องขอคณะกรรมการ ถ้าเป็นเรื่องใหญ่ก็ต้องขอผู้ถือหุ้น บางเรื่องผมต้องปรึกษากับทางลูกค้าด้วยว่าอันนี้เป็นสิ่งที่เราทำได้ไหม”

“เรื่องทีมเวิร์กเป็นเรื่องสำคัญ เป็นปรัชญาที่ผมจะนำจากธุรกิจเข้ามาสู่วิธีการบริหารจัดการ อยู่ดี ๆ จะไปสั่งตลอดเวลาไม่ได้ การจะโน้มน้าวจิตใจคน ให้ทำตามจุดมุ่งหมายที่เขาอยากให้เป็น การที่โน้มน้าวจิตใจเขาเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ให้เขาเห็นเป็นเรื่องสำคัญ”

เศรษฐา ทวีสิน

ดันศักยภาพประเทศไทย

เศรษฐา ไปมา 40 กว่าจังหวัด เรื่องความประทับใจเป็นเรื่องศักยภาพของประชาชนในหลาย ๆ จังหวัด

ความพร้อมที่เขาจะพาสินค้าหรือการให้บริการของไทยไปสู่ตลาดโลก ไก่ย่างเขาสวนกวาง เป็นต้น เขาต้องการจดทะเบียนเราสามารถทำไว้ล่วงหน้า แพ็กสุญญากาศ ส่งไปขายได้ เห็นแววตา แต่มันมีปัญหาระหว่างทางเยอะแยะไปหมด เช่น ไม่มีกระทรวงไหนไปช่วยจดทะเบียนให้เขา หรือสถานที่ทำกิน สมัยก่อนขายริมทาง เดี๋ยวก็ถูกไล่ น้ำ ไฟ เป็นอย่างไร ต่อไฟมาได้ไหม

ถ้าเราเป็นรัฐบาลที่มีเสียงส่วนมาก ถ้าดูได้หลายกระทรวง เราก็สามารถช่วยผลักดันได้ หรือ จ.น่าน จริง ๆ แล้วมีสถานที่ท่องเที่ยว วัฒนธรรมที่ดี เป็นเมืองคู่แฝดหลวงพระบาง ซึ่งเป็นมรดกโลก ถ้ากระทรวงวัฒนธรรมสามารถผลักดัน จ.น่าน ให้เป็นมรดกโลกได้ ก็สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างประเทศได้

แต่ก็ติดอีก สนามบินน่าน ไม่ใช่สนามบินนานาชาติ ถ้านักท่องเที่ยวลงที่หลวงพระบางอยากมา จ.น่าน แม้ระยะทางมันใกล้ แต่เสียเวลาที่ต้องขับรถอ้อมภูเขา เรื่องนี้ถ้าเราไม่ลงพื้นที่ เราก็ไม่รู้ ดังนั้น ถ้าเป็นมรดกโลกได้ เราผลักดันให้สนามบินน่าน สามารถให้เครื่องบินบินกลางคืนได้ มีด่านตรวจคนเข้าเมือง มีศุลกากร เป็นประตูเปิดภาคเหนือได้อีก

แน่นอน เวลาที่ผมเป็นรัฐบาล ทุกคนก็บอก กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง แต่ที่ยกตัวอย่างคือ กระทรวงวัฒนธรรม ต้องทำงานใกล้ชิดกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคม หลาย ๆ กระทรวง ถ้าเราไม่ได้รับฉันทามติแลนด์สไลด์อย่างที่เราต้องการ ก็จะทำงานพวกนี้ได้ลำบาก เราต้องการผลักดันเมืองรองเป็นเมืองท่องเที่ยวด้วย

ขจัดยาเสพติดใน 6 เดือน

สิ่งที่ประชาชนเดือดร้อน เรื่องค่าไฟ ซึ่งไม่ต้องพูด แต่อีกเรื่องหนึ่งคือ เรื่องยาเสพติด ภาคอีสานเยอะมาก เป็นเรื่องสำคัญมากที่สุดเรื่องหนึ่ง เพราะคนเสพกลายเป็นนักโทษ นโยบายพรรคเพื่อไทยต้องการเปลี่ยนคนเสพให้เป็นผู้ป่วยก่อน หายป่วยแล้วต้องส่งเสริมอาชีพ คืนเขากลับสู่สังคม

กฎหมายที่จะจัดการกับผู้ค้ายา รวดเร็วหรือเปล่า ผมคิดว่าเขาไม่กลัวติดคุกเท่าไหร่ เขากลัวเรื่องยึดทรัพย์ กฎหมายยึดทรัพย์ยังไม่รัดกุม การที่ปัญหาแพร่หลายกระจายไปทั่วประเทศ บั่นทอนเยาวชนไทย ผมเชื่อว่าเป็นหน้าที่ของผู้นำประเทศสูงสุด ที่ต้องนั่งหัวโต๊ะเป็นเจ้าภาพ จัดการปัญหานี้อย่างเร็วที่สุด ขจัดปัญหายาเสพติดลงไปภายใน 6 เดือน เรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องหลัก มีผู้ใหญ่ในบ้านเมืองหลายคนเห็นด้วย เจ้าหน้าที่รัฐก็มีข้อเสนอดี ๆ หลายข้อ ทีมงานเราเริ่มคิดแล้วว่าถ้าได้เป็นรัฐบาลแล้วเริ่มทันที

เจรจากับเพื่อนบ้านก็มีส่วน เพราะเป็นแหล่งผลิต และอีกหลาย ๆ อย่าง โยงกับเรื่อง PM 2.5 เพราะเขาเผาซังข้าวโพด แต่ปรากฏว่าคนที่ซื้อข้าวโพดก็เป็นคนไทย ต้องพูดคุยเจรจาอีก และต้องเข้าใจว่าเป็นเรื่องเศรษฐกิจ เกษตรกรไม่มีเงินจะไถกลบ กำไรที่ได้จากการขายข้าวโพดก็น้อยเหลือเกิน ถ้าต้องไปไถกลบกำไรก็หมด

จึงต้องใช้เทคโนโลยี เอาจุลินทรีย์เข้าไปย่อยสลาย เปลี่ยนเป็นปุ๋ย ไปทำอาหารสัตว์ ไปทำเชื้อเพลิงทำได้หลาย ๆ มิติ ควบคู่กับนโยบายอีวี ถ้าออกมาดี ๆ PM 2.5 ก็จะลดลงไป

พร้อมทำงานทันทีทันใด

เวลาพรรคเพื่อไทยไปหาประชาชน เราไปต่างจากคนอื่น แม้เราจะมีหลายเวที ระหว่างเวทีถ้าเรามีเวลา เราจะให้ผู้สมัคร ส.ส.นัดสภาอุตสาหกรรมจังหวัด สภาหอการค้าจังหวัด ประชาชนทั้งหลาย กรุ๊ปเล็ก ๆ มาพูดคุยปัญหาท้องถิ่น เราเอาทีมเข้าไปรับฟังปัญหา มีการรับฟังปัญหาจริง ๆ ถ้าหาทางออกไม่ได้ อีกกรุ๊ปหนึ่งก็จะตามมาภายหลัง เพื่อเอานโยบายเข้ามาเสริม

“ผมถึงมั่นใจไงครับว่าเลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ประเทศเปลี่ยนทันที พร้อมทำงานทันทีทันใด เพราะเรารู้ปัญหาอยู่แล้วทุกจังหวัด”

เศรษฐา ทวีสิน

เศรษฐา องค์ลง

หลังจากลงพื้นที่ ไป 40 กว่าจังหวัด ขึ้นเวทีปราศรัยนับร้อยเวที บางเวทีมีอาการ “อิน” ไปกับมวลชน จนเพื่อนแซวว่า “องค์ลง” หรือเปล่า

เศรษฐาบอกว่า ลองไปฟังปัญหาจริง ๆ ดูสิ มันเป็นความคับแค้นใจว่า เจ้าหน้าที่รัฐ หรือนักการเมืองที่เกี่ยวข้องอยู่ในหน้าที่ปัจจุบัน ถูกเลือกเข้ามาให้แก้ไขปัญหา ไม่ใช่ไปอีกทางแล้วบอกว่า อ้อ…มันแก้ไม่ได้หรอก เพราะมีปัญหาอย่างนี้ ๆ มันกลายเป็นสังคมที่เรายอมรับกับคำอธิบายว่าทำไมถึงทำอะไรไม่ได้

มันต้อง can do เราทำได้ ทำได้น้อย ทำได้มาก ผมเชื่อว่าประชาชนก็เห็นความตั้งใจจริง เข้าใจว่าทุกอย่างที่ขอทำไม่ได้ทั้งหมดหรอก แต่มันต้องทำได้บ้าง เพราะคุณเป็นข้ารับใช้ประชาชน ไปขอคะแนนเสียงเขามาจากการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว วันนี้คุณเป็นตัวแทนเขา คุณต้องทำให้ได้

“ดังนั้น การไปฟังปัญหาของประชาชน มันเป็นความคับแค้นใจ อย่างหนึ่ง บางคนไปพูดว่า ถ้าเป็นรัฐบาลจะลดค่าไฟทันที เอ๊ะ..ก็คุณเป็นอยู่นะ ลืมไปหรือเปล่า”

2 หลักการร่วมรัฐบาลเพื่อไทย

เศรษฐา-เพื่อไทย ตั้งหลักการในการทำงานร่วมรัฐบาล 2 เงื่อนไข ว่า 1.หลักการของพรรคเพื่อไทยชัดเจน ไม่ร่วมมือกับพรรคที่มีรากเหง้าจากการทำรัฐประหาร เผด็จการ มีความชัดเจน ผมพูดมาหลายเวทีแล้ว 2.เราจะทำงานพรรคการเมืองที่มีนโยบายที่เหมือนกัน คุณพิธา (ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล) มีความเชื่อในระบอบประชาธิปไตย ไม่ได้มาจากรัฐประหาร นโยบายมีความคล้ายคลึง มีบางอย่างต้องมีความชัดเจน แก้ หรือ ยกเลิก 112 เอาให้แน่ ยกเลิกเกณฑ์ทหารกับสมัครในเกณฑ์ทหาร มีนัยต่างกันไหม ต้องมานั่งพูดคุยกัน

ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา ตัวเลขออกมาก่อนแล้วค่อยว่ากัน แต่ถามว่ามีความเป็นไปได้ไหม..มีความเป็นไปได้ พรรคเพื่อไทยต้องเรียนนิดหนึ่ง

“เราอยู่กับพื้นฐานของความเป็นจริง เราไม่ได้อยู่กับพื้นฐานความฝัน ฝันน่ะ ฝันได้ ฝันเนี่ยไม่ต้องเสียตังค์ ไม่ต้องมีต้นทุน แต่พรรคเพื่อไทยเราอยากให้คนตื่นขึ้นมาในวันที่ 14 พฤษภาคม ตื่นขึ้นมาอยู่กับพื้นฐานของประเทศไทยจริง ๆ ว่าปัจจุบันนี้เราประสบปัญหาอะไรอยู่ และใครที่เหมาะสม พรรคไหนที่เหมาะสม มีนโยบายที่ทำได้ทันที แก้ปัญหาความยากจน แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ความไม่เสมอภาค ความไม่เท่าเทียมทันที”

ส่วนความร่วมมือกับพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย “เศรษฐา” กล่าวว่า แน่นอน มีความเป็นไปได้ นโยบายพรรคเพื่อไทยกับนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ได้มีอะไรขัดแย้งกัน ซึ่งผมกับคุณจุรินทร์ (ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์) หรือกับคุณอนุทิน (ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย) ก็ไม่ได้มีความขัดแย้งกัน ผมกับคุณอนุทินพูดจาค่อนข้างจะแรง แต่ผมก็เข้าใจ

ผมเป็นนักการเมืองรุ่นน้อง ผมเคารพที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ แต่ผมไม่เคยเอ่ยชื่อบุคคลนะ ผมเอ่ยชื่อนโยบาย ผมอาจจะเอ่ยชื่อพรรค ถ้าหากพรรคกัญชาเสรีเราไม่เอาแน่นอน ถ้าหากพรรคภูมิใจไทยเอานโยบายกัญชาเสรีเราคงร่วมไม่ได้

“และอีกอันที่คุณอนุทินโกรธ ที่บอกว่าเลือกพรรคภูมิใจไทยแล้วจะได้ลุงตู่มา ผมก็พูดอาจจะสั้นไปนิดหนึ่ง เราต้องยอมรับก่อนว่าพรรคภูมิใจไทยเป็นไปได้ยากที่จะได้คะแนนสูงสุด เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พรรคเพื่อไทยน่าจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ถ้าเลือกพรรคภูมิใจไทยเป็นอันดับที่ 2 3 4 ในประวัติศาสต์พรรคภูมิใจไทยเคยจับมือกับ พล.อ.ประยุทธ์มาแล้ว ผมเลยเอาตรรกะนี้มาพูดเท่านั้นเอง เราไม่ได้ขัดแย้งกับคุณอนุทิน เราขัดแย้งกับความยากจน ความไม่เสมอภาค ความไม่เท่าเทียม”

“ถ้าพรรคภูมิใจไทยเปลี่ยนนโยบายกัญชาเสรีได้ ก็ขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้งที่จะออกมา ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหารพรรค ส่วนตัวผมไม่ติดใจ ไม่โกรธ ทำงานด้วยกันได้ ตราบใดที่เดินไปข้างหน้าเพื่อประเทศชาติไม่มีปัญหา”

เศรษฐา

เพื่อไทย ผ่าทางตันการเมือง

หากเกิดสถานการณ์เดดล็อกทางการเมือง หลัง 14 พฤษภาคม “เศรษฐา” กล่าวว่า นี่คือที่ไปคือเลือกตั้งแบบมียุทธศาสตร์ เลือกตั้งแบบมีเป้าหมาย แต่ไม่ได้สอนให้ประชาชนหรือชี้นำให้ประชาชนมีความกลัว ถ้าเราไม่ได้แลนด์สไลด์จะมีลุงตู่ หรือ ลุงป้อม กลับมา

แต่เราเลือกตั้งเพื่อความชัวร์ ชัวร์ว่าเลือกเพื่อไทยทั้งสองใบทั้งคนทั้งพรรค ให้เรามีฉันทามติที่ชัดเจนจากพี่น้องประชาชนให้เกินครึ่งหนึ่ง เราจะได้ไม่ต้องพึ่ง ส.ว. 250 คน ซึ่งจริง ๆ แล้วเราก็รู้ว่าใครเป็นคนแต่งตั้งเข้ามา มีความประสงค์ที่จะต้องตอบสนองใคร ดังนั้น ถ้าเลือกให้ขาด เลือกให้ชัวร์ เลือกพรรคเพื่อไทยทั้งสองใบจะไม่มีปัญหานี้เกิดขึ้น

ไม่ใช่แค่นั้นอย่างเดียว นายกรัฐมนตรีจะมาจากแคนดิเดต 1 ใน 3 คนแน่นอน

พร้อมเป็นนายกฯมาก

เศรษฐา อยากให้วันหนึ่งมี 48 ชั่วโมง อยากเดินทางไปในทุกจังหวัด และถ้ามีโอกาสได้ทำการเมืองต่อก็จะทำการเมืองต่อไป อยากพบปะพี่น้องประชาชน อยากเข้าใจปัญหาหลัก ๆ ปัจจุบันนี้เราเข้าใจปัญหา ข้าว ข้าวโพด ประมง แต่ทุกจังหวัดมีศักยภาพที่จะดึงขึ้นมาได้

บางอย่างไม่จำเป็นต้องสร้างรถไฟความเร็วสูง แค่รถไฟรางคู่ จากขอนแก่นไปถึงหนองคาย ความเร็ว 100 km/ชั่วโมง ลงทุนไม่เยอะ ไปถึงลาว ต่อสินค้าไปจีนได้

ในอดีตหลาย ๆ พรรคการเมือง รวมถึงพรรคเพื่อไทยด้วย ใช้นโยบายจำนำ หรือประกัน หรือจ้างผลิต อาจเป็นการที่เราตั้งราคาที่พืชผลไว้ ซึ่งไม่สะท้อนราคาตลาดโลก เหตุการณ์อย่างนี้ควรจะเกิดขึ้นเมื่อมีภัยพิบัติ แต่ไม่ใช่เอามาเป็นนโยบายหาเสียง และใช้ตลอดไป เราใช้ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้สุทธิ 3 เท่าภายใน 4 ปี เพิ่มรายได้จากการเปิดตลาดใหม่ ๆ ผู้นำปัจจุบันไม่ได้เปิดตลาดใหม่

ดังนั้น ถ้ามีดีมานด์ใหม่ ๆ เข้ามาสูงขึ้น ราคาสูงขึ้นทันที นวัตกรรมด้านการเกษตรเราสามารถเพิ่มผลผลิตได้ เป็นอันหนึ่งที่ไม่เป็นภาระต่อผู้เสียภาษี ประชาชนสามารถเอามาใช้ได้เลย

อีกไม่กี่ชั่วโมงถึงวันเลือกตั้ง “เศรษฐา” ยืนยันว่า พร้อมเป็นนายกฯ “พร้อมครับ…พร้อมมาก”

และถ้าถามว่า แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทยมี 3 คน พร้อมเป็นนายกฯ ทุกคน ใครจะเป็นคนตัดสินสุดท้าย จะต้องมีการโหวตกันภายในหรือไม่

“เศรษฐา” ชี้ไปที่คณะกรรมการบริหารพรรค “เป็นเรื่องของคณะกรรมการบริหารพรรค ผมไม่รู้กระบวนการ แต่ผมพร้อม มั่นใจผมจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป”