สุวัจน์ ขอบคุณก้าวไกลเชิญร่วมรัฐบาล แจงชาติพัฒนากล้าไม่ได้เป็นฝ่ายติดต่อ

สุวัจน์ ลิปตพัลลภ
สุวัจน์ ลิปตพัลลภ (แฟ้มภาพจากเฟซบุ๊กเพจ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ - Suwat Liptapanlop)

สุวัจน์ ตั้งโต๊ะ แถลงข่าว ไม่ได้เป็นฝ่ายติดต่อ-ขอบคุณก้าวไกล เชิญร่วมรัฐบาล ไม่มีปัญหา ยุติเจรจา ชาติพัฒนากล้ามี 2 ที่นั่ง ไม่มีอำนาจต่อรอง ยึด 3 ข้อ จัดตั้งรัฐบาลประเทศเดินหน้า

วันที่ 20 พฤษภาคม 2566 ที่จังหวัดนครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า แถลงข่าวกรณีภายหลังพรรคก้าวไกลยุติการเชิญเข้าร่วมรัฐบาลว่า พรรคชาติพัฒนากล้ามีว่าที่ ส.ส.2 ที่นั่ง การจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง พรรคชาติพัฒนากล้าไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องแต่อย่างใด

จนกระทั่งวันพฤหัสบดีที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา สถานภาพก่อนที่จะมาติดต่อมาเชิญพรรคชาติพัฒนากล้ามี 8 พรรค 313 เสียง แต่เสียงที่เห็นชอบให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรีต้องใช้ 376 เสียง พรรคก้าวไกลจึงได้ติดต่อพรรคชาติพัฒนากล้า ซึ่งก่อนหน้านี้ ให้สัมภาษณ์ไปว่า ไม่มีใครมาติดต่อ เราเป็นรัฐบาลก็ได้ เป็นฝ่ายค้านก็ได้ เพราะเรามีแค่ 2 เสียง แต่เราอยากเห็นการเมืองที่เรียบร้อย มีการจัดตั้งรัฐบาลให้เรียบร้อย เพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าไปได้

“หลังจากนั้นวันพฤหัสฯ ก็ได้มีการติดต่อมาที่พรรคชาติพัฒนากล้า คือ ฝ่ายพรรคก้าวไกล ได้ติดต่อมาว่า ขอเรียนเชิญ พรรคชาติพัฒนากล้าเข้าร่วมรัฐบาล เพราะขณะนี้จัดการจัดตั้งรัฐบาลยังได้เสียงไม่เพียงพอ พรรคชาติพัฒนากล้าไม่ได้เป็นฝ่ายไปติดต่ออะไรกับใครทั้งสิ้น เราอยู่ของเราเฉย ๆ”นายสุวัจน์กล่าว

สุวัจน์ ลิปตพัลลภ
สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า แถลงที่นครราชสีมา เมื่อช่วงสายวันที่ 20 พ.ค.2566

นายสุวัจน์กล่าวว่า เมื่อพรรคก้าวไกลติดต่อมาแล้ว พรรคชาติพัฒนากล้าเคยบอกไว้ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง ว่า หนึ่ง อยากเห็นการเมืองมีเสถียรภาพ สอง อยากเห็นการเมืองมีรัฐบาลเสียงข้างมาก ไม่ใช่รัฐบาลเสียงข้างน้อย สาม อยากเห็นการยึดถือประเพณี ถ้าใครเลือกตั้งชนะเป็นที่ 1 ต้องเป็นคนสตาร์ท เป็นคนริเริ่มจัดตั้งรัฐบาล เมื่อครบองค์ประกอบและมีการมาเชิญพรรคชาติพัฒนากล้าเข้าร่วมรัฐบาลเหมือนกับมาส่งการ์ดเชิญ เราก็ตอบรับคำเชิญเหมือนในหลักการ

นายสุวัจน์กล่าวว่า เมื่อการจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้มีกรอบเอ็มโอยูให้ศึกษาว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไรจะได้มีการให้ข้อคิดเห็นโต้แย้งและข้อปรับปรุง เราจึงตอบรับโดยยึดในหลักการ 3 ข้อ เพื่อสนับสนุนให้การจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ เราก็ตอบรับในหลักการแต่เราก็ต้องประชุมในคณะกรรมการบริหารพรรค เพราะต้องไปลงนามในเอ็มยู ผูกพันพรรค โดยประชุมในวันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคมนี้ เพื่อหารือ ว่าจะเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ เงื่อนไขสอดคล้องนโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้าวหรือไม่ เช่น เรื่องเศรษฐกิจ การกระจายอำนาจ เลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ความมั่นคง การปฏิรูปกองทัพ เรื่องการเมือง แก้ไขรัฐธรรมนูญมาตราใด การนิรโทษกรรมและการแก้มาตรา 112 ซึ่งเราต้องการให้คงมาตรา 112 ไว้

Advertisment

“แต่เมื่อพรรคก้าวไกลออกมาแถลงเพิ่มเติมว่าจะยุติการเจรจาในการเข้าร่วมรัฐบาล และได้แจ้งมาทางเราก็ no problem ไม่มีปัญหาอะไร เพราะเราอยู่ในขั้นตอนที่จะมาพิจารณาการตอบรับคำเชิญอย่างเป็นทางการในรายละเอียดว่าจะเซ็นเอ็มโอยูหรือไม่ โดยพรรคก้าวไกลจะมีการเซ็นเอ็มโอยูในวันที่ 22 พฤษภาคมช่วงบ่าย”นายสุวัจน์กล่าว

นายสุวัจน์กล่าวว่า ถือโอกาสนี้ขอบคุณพรรคก้าวไกล ที่ได้ให้เกียรติมาเรียนเชิญพรรคชาติพัฒนากล้าเข้าร่วมรัฐบาล เราให้การสนับสนุนแนวทาง 3 ข้อที่กล่าวมาข้างต้นอยู่แล้ว ฉะนั้นจึงขอบคุณที่ได้ให้เกียรติพรรคชาติพัฒนากล้า ทั้งที่มีเพียง 2 เสียง การตัดสินใจทางการเมืองไม่ใช่การตัดสินใจที่จะไปต่อรองอะไรกับ 500 เสียง มันเป็นการตัดสินใจเพื่อให้การเมืองไปข้างหน้า เพื่อให้สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เป็นความรับผิดชอบของพรรคการเมือง

Advertisment

“ผมพูดเสมอว่า การเมืองต้องหันหน้าเข้าหากัน ต้องลดความขัดแย้ง ต้องพูดคุยกันได้ เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย เราไม่เคยสร้างปัญหา เรามีหน้าที่แก้ปัญหา”

“ขอขอบคุณพรรคก้าวไกลอีกครั้งหนึ่งที่กรุณาให้เกียรติ ขอบคุณที่ยุติการเจรจาและขอโทษพรรคชาติพัฒนากล้า เรา no problem ไม่มีปัญหา กับพรรคการเมืองก็ยังเป็นมิตรสหาย เป็นพรรคการเมืองที่อยู่ในสภาด้วยกัน มีอะไรก็พร้อมที่จะพูดคุย พูดจากันได้ตลอดเวลา ยังรักกัน ยังผูกพัน ยังเป็นพรรคการเมืองในสภา มีอะไรพูดคุยกันได้ สร้างความร่วมมือระหว่างพรรคการเมือง เมื่อยุติการเจราจาเราก็ร่วมมือ เราไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร เราเป็นมิตรกับทุกฝ่าย”นายสุวัจน์กล่าว

นายสุวัจน์กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อทุกอย่างมาตามกติกา แต่ยังไม่สามารถมีเสียงสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีได้ถึง 376 เสียงก็เป็นอุปสรรคในการจัดตั้งรัฐบาล ถ้าเราจะมีส่วนการสนับสนุนอะไร มันเป็นความร่วมมือทางการเมือง เป็นสปิริต เรามีเพียงแค่ 2 เสียง ถ้าจะตัดสินใจอะไรไม่ได้ตัดสินใจเพื่อต่อรองบนผลประโยชน์ เป็นการตัดสินใจเพื่อบ้านเมืองมากกว่า

นายสุวัจน์กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อพรรคก้าวไกลยุติการเจรจา พรรคชาติพัฒนากล้าก็จะไม่มีการประชุมกก.บห.พรรคในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้

ส่วนนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้าขณะนี้กำลังเที่ยวอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย จากที่จะรีบกลับด่วนเพื่อมาประชุม กก.บห.ในช่วงเช้า ก็จะโทรศัพท์ไปบอกว่าให้เที่ยวต่อไป ไม่ต้องมาก็ได้ เพราะไม่ต้องประชุมแล้ว ยุติการเจรจาแล้ว

“ผมโทรบอกกับเขา (นายกรณ์) ว่าพรรคก้าวไกลติดต่อมา เข้าร่วมรัฐบาล ท่านกรณ์ว่ายังไง ก็เห็นพ้องต้องกันว่าควรจะประชุม เพราะมีเรื่องเอ็มโอยูเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็เลยออกเอกสารการประชุม กก.บห.พรรคเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา เชิญประชุมวันจันทร์ พอมีเรื่องยุติการเจรจา ผมก็โทรศัพท์คุยกับเขา ยุติการเจรจาแล้ว ฉะนั้นก็ไม่ต้องมาก็ได้มั้ง ก็เที่ยวต่อไปเลย”นายสุวัจน์กล่าว