ก้าวไกล ตัดหาง “พรรคใหม่” เหลือ 8 พรรค 313 เสียงเท่าเดิม

ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล
ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล

ก้าวไกล ยุติดีลพรรคใหม่ หลังล้มดีลชาติพัฒนากล้า ‘ชัยธวัช’ ยัน 313 เสียงพอตั้งรัฐบาลก้าวไกลและเสียงตอบรับจาก ส.ว.เป็นไปในทิศทางที่ดี

วันที่ 20 พฤษภาคม 2566 นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล เปิดเผยในฐานะผู้จัดการตั้งรัฐบาล ว่าขณะนี้พรรครวบรวมเสียงได้ 313 เสียง ถือว่ามีเพียงพอและมั่นคงแล้วตามหลักการประชาธิปไตยสากลทั่วไป

ดังนั้น หลังจากนี้ จะเดินหน้าคุยกับ ส.ว.ต่อ เพื่อทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน แล้วพาบ้านเมืองไปต่อตามครรลองประชาธิปไตย ไม่ไปสู่ทางตัน โดยจากที่ตนได้พูดคุยกับ ส.ว. จำนวนหนึ่ง หลายท่านมีความกังวลเรื่องทิศทางนโยบายต่างประเทศ การรักษาสมดุลของไทยในเวทีการเมืองโลก และ ส.ว. ไม่ต้องการเห็นรัฐบาลชุดใหม่ทำให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองเพิ่มขึ้น เมื่อได้พบกันและอธิบายจุดยืนและแนวทางของพรรคก้าวไกล ทาง ส.ว. ก็เข้าใจมากขึ้น

“โดยวันที่ 23 พฤษภาคม 2566 จะมีประชุมวิสามัญวุฒิสภา และทราบมาว่าหลังการประชุมวุฒิสภา น่าจะมีการประชุมกันอย่างไม่เป็นทางการของ ส.ว. เรื่องแนวทางการโหวตเลือกนายกฯ ซึ่งน่าจะมีความเข้าใจต่อพวกเราดีขึ้นและนำไปสู่การตัดสินใจในเชิงบวกเพื่อผลักดันประเทศไปข้างหน้า” นายชัยธวัชกล่าว

ส่วนกระบวนการเจรจาร่าง MOU เดินหน้าไปได้ด้วยดี ตอนนี้ทุกพรรคกำลังพิจารณาและนำเสนอวาระสำคัญของแต่ละพรรคเพื่อมารวมกันเป็นข้อตกลงร่วมกันในการจัดตั้งรัฐบาล โดยในวันพรุ่งนี้ (21 พฤษภาคม 2566) จะมีการพูดคุยกับแต่ละพรรคอีกครั้ง เพื่อให้ได้ข้อสรุปร่วมกันในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้

“วาระสำคัญใน MOU จะตอบสนองต่อเสียงประชาชนที่แสดงออกผ่านการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า ประชาชนต้องการความเปลี่ยนแปลงทั้งในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างเป็นธรรม และปฏิรูปการเมืองให้เป็นประชาธิปไตย มีนิติรัฐ โปร่งใส ปราศจากการทุจริต และแก้ไขความขัดแย้งทางการเมืองที่ผ่านมาเพื่อให้ประเทศสามารถเดินหน้าไปสู่อนาคตได้”นายชัยธวัช กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ที่ผ่านมา พรรคก้าวไกล ได้ประกาศรวบรวมพรรคการเมืองเข้าร่วมรัฐบาลเพิ่มเติมได้อีก 2 พรรคการเมือง คือ พรรคใหม่ และพรรคชาติพัฒนากล้า แต่ปรากฏว่า เกิดแรงต้านจากบรรดาแฟนคลับพรรคก้าวไกลในโซเชียลมีเดียอย่างหนัก จนทำให้พรรคก้าวไกลต้องยุติการเจรจากับพรรคชาติพัฒนากล้า นอกจากนี้ ยังยุติการเจรจากับพรรคใหม่ด้วย

ทำให้เสียงการจัดตั้งรัฐบาลก้าวไกลเหลือ 313 เสียง ตามเดิม แบ่งเป็น พรรคก้าวไกล 152 เสียง พรรคเพื่อไทย 141 เสียง พรรคประชาชาติ 9 เสียง พรรคไทยสร้างไทย 6 เสียง พรรคเสรีรวมไทย 1 เสียง พรรคเป็นธรรม 1 เสียง พรรคพลังสังคมใหม่ 1 เสียง พรรคเพื่อไทรวมพลัง 2 เสียง