รวมไทยสร้างชาติ เอกฉันท์ 36 เสียงโหวตหนุน เศรษฐา ทวีสิน นั่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 จูบปากเพื่อไทย ยุติขัดแย้งทางการเมือง 2 ทศวรรษ
เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม สส.พรรคว่า ที่ประชุม สส.ของพรรคได้พูดคุยเรื่องการประชุมลงมติให้กับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งในที่ประชุมมีมติว่า สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติทั้ง 36 เสียงจะโหวตสนับสนุนแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทยให้เป็นนายกรัฐมนตรี
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 2 พ.ค. ย้อนหลัง 10 ปี
- หวยงวด 2 พ.ค. เช็กสถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งฯ ย้อนหลัง 10 ปี
- บริษัทดังประกาศปิดกิจการ ทุกสาขาทั่วประเทศ เลิกจ้างหลายชีวิต
ทั้งนี้ ในการเข้าร่วมรัฐบาลกับ 11 พรรค พรรคได้เน้นย้ำว่าจะไม่ทำงานกับพรรคที่มีนโยบายแก้ไข ม.112 รวมทั้งย้ำว่าจะไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ที่ได้มีการเขียนระบุไว้ในแถลงการณ์ร่วมว่า จะแก้ไขเพียงเรื่องของประชาธิปไตย แก้ไขประเด็นการแก้ปัญหาทุจริต คอร์รัปชั่นระดับชาติ โดยไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 ที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นสิ่งที่พรรครวมไทยสร้างชาติยืนยันกับประชาชนผู้สนับสนุนมาตลอด
นายอัครเดชกล่าวว่า ประชาชนที่มีความห่วงใยว่าจะมีการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับก็ขอให้สบายใจได้ การเข้าร่วมรัฐบาลครั้งนี้ถือว่าเป็นการเริ่มต้นการปรองดองสมานฉันท์ หลังจากมีความขัดแย้งทางการเมืองยาวนานตลอดเกือบ 20 ปี ของกลุ่มเสื้อหลากสีต่าง ๆ จึงถือว่าครั้งนี้จะเป็นการพลิกวิกฤตเป็นโอกาส เพื่อเชิญชวนคนไทยทั้งประเทศร่วมสร้างความสามัคคีปรองดอง และเดินหน้าไปด้วยกัน
“ในการร่วมรัฐบาลในครั้งนี้ ขอให้ประชาชนยึดแถลงการณ์ร่วมที่มีความชัดเจนในแนวทางที่จะทำงานร่วมกัน เนื่องจากที่ผ่านมาประชาชนผู้สนับสนุนของพรรคมีความเป็นห่วงเรื่องการเข้าร่วมทำงานกับพรรคที่เคยมีจุดยืนฝ่ายตรงข้ามกับพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่ครั้งนี้อยากให้เป็นโอกาสที่จะทำให้เกิดความปรองดอง เพราะพี่น้องประชาชนก็ยังรอรัฐบาลใหม่” นายอัครเดชกล่าว
นายอัครเดชกล่าวว่า วันนี้นายพีระพันธุ์ได้แจ้งในที่ประชุมทราบว่า พรรคจะได้รับการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ 2 ตำแหน่ง และรัฐมนตรีช่วย 2 ตำแหน่ง แต่ยังไม่ได้มีการพูดถึงรายละเอียดว่าเป็นกระทรวงใด ส่วนใครจะได้รับตำแหน่งใดนั้น จะเป็นไปตามการประชุมของกรรมการบริหารพรรค และ สส.ของพรรค ที่จะพิจารณาบุคคลที่เหมาะสม ส่วนจะมีการเพิ่มเก้าอี้รัฐมนตรีหรือไม่นั้นเวลานี้ยังไม่ได้รับแจ้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการจัดตั้งรัฐบาลได้เมื่อไหร่ นายอัครเดชกล่าวว่า หากการประชุมโหวตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเป็นไปอย่างราบรื่นก็เชื่อว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะวันนี้มีความชัดเจนและความพร้อมในการจัดตั้งรัฐบาลแล้วเมื่อถามว่า หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติจะเข้าไปเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ นายอัครเดชกล่าวว่า ในส่วนของพรรคการเมือง และในฐานะ สส.ของพรรคก็อยากให้หัวหน้าพรรคของเราเป็นรัฐมนตรีอยู่แล้ว ตนเป็น สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ก็อยากให้ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นรัฐมนตรีเพื่อบริหารประเทศชาติเช่นกัน
ถามว่า ได้มีการประเมินสถานการณ์ทางการเมืองหลังจากนี้หรือไม่ นายอัครเดชกล่าวว่า ได้มีการประเมินว่าขณะนี้สถานการณ์นิ่งแล้ว หากการโหวตนายกฯผ่านไปด้วยดี สถานการณ์การเมืองน่าจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติตามที่ประชาชนคาดหวัง ส่วนกรณีการกลับมาของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม
