ปดิพัทธ์ ยันดูงานสิงคโปร์ ไม่ได้เที่ยว พร้อมโชว์ใบเสร็จ

หมออ๋อง - ปดิพัทธ์ สันติภาดา
หมออ๋อง - ปดิพัทธ์ สันติภาดา

หมออ๋อง ปดิพัทธ์ แจงยิบดูงานสิงคโปร์ ไม่ได้เที่ยว พร้อมโชว์ใบเสร็จ ทำรายงานเสนอสภา

วันที่ 20 กันยายน 2566 ที่รัฐสภา นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 แถลงถึงรายละเอียดของการเดินทางศึกษาดูงานที่ประเทศสิงคโปร์ วันที่ 21-24 กันยายน กระทั่งเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ใช้งบประมาณ 1.3 ล้านบาท ว่าการเตรียมโครงการดังกล่าวเป็นไปตามแผนงานของคณะกรรมการขับเคลื่อนรัฐสภา โปร่งใสและสมรรถนะสูง ส่วนงบประมาณที่ตั้งไว้เป็นไปตามระเบียบของกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการเดินทางของรองประธานสภาคนที่หนึ่ง

ที่หลายฝ่ายกังวลว่าตั้งไว้สูงเกินไปนั้น เป็นเพียงการตั้งงบฯที่ยังไม่เกิดการใช้จ่ายจริง จึงตั้งไว้ตามสิทธิที่ระเบียบกำหนด ขณะนี้มีค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้นคือ ค่าตั๋วเครื่องบิน จากที่ตั้งงบฯไว้ 52,000 บาท จ่ายจริง 28,000 บาท ค่าโรงแรมจากที่ตั้งไว้ 12,000 บาท จองได้ 9,000 บาท ซึ่งที่เหลือจะส่งคืนคลัง ส่วนการเลี้ยงรับรองนั้น ต้องทำให้สมเกียรติกับประเทศไทย เพราะคณะที่ไปนั้นทำหน้าที่เป็นทูตของสภา

การตั้งงบฯรับรองที่มองว่ามาก เพราะตั้งโดยไม่ทราบโปรแกรมละเอียด แต่เมื่อทราบรายละเอียด เช่น มื้อกลางวันสถานทูตจัดเลี้ยง จะจ่ายไม่เต็ม ส่วนงบฯรับรอง และการดูแล เช่น นักศึกษาไทยในสิงคโปร์ จะเป็นส่วนของอาหารว่างและมื้ออาหารที่ทานร่วมกัน ตนพร้อมแสดงใบเสร็จ และนอกจากดูงานด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงกฎหมายที่บังคับใช้เพื่อแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 แล้วจะดูพิพิธภัณฑ์ด้วย เพื่อนำมาปรับใช้กับพิพิธภัณฑ์ของรัฐสภาเพื่อส่งเสริมประชาธิปไตย

นายปดิพัทธ์กล่าวต่อว่า ส่วนรายชื่อคณะที่เดินทางไปเป็น สส.พรรคก้าวไกลถึง 5 คนนั้น เป็นผู้ที่เหมาะสม และสนใจต่อการนำองค์ความรู้มาพัฒนาสภาคือ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และนายวรภพ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งสถานการณ์ทางการเมือง 1 เดือนที่ผ่านมามีความแปรปรวน

Advertisment

ทำให้ยังไม่มี กมธ.กิจการสภา รวมถึงไม่มีฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาลที่ชัดเจน ทำให้พรรคก้าวไกลได้พิจารณาจากบุคคลที่ลงชื่อ ซึ่งแสดงความต้องการเป็น กมธ.กิจการสภา 3 คน นอกจากนั้น ได้เชิญไปยังพรรคเพื่อไทย และภูมิใจไทย ซึ่งมีเพียงนายศรัณย์ ทิมสุวรรณ สส.เลย พรรคเพื่อไทย

ระยะการเตรียมงานที่สั้นที่สุดคือ 1 เดือน เดือนที่แล้วนึกว่าจะได้ กมธ. แต่พบการดีเลย์ ดังนั้น เมื่อตั้งโครงการไว้แล้วต้องเดินหน้า จะเลื่อนเพื่อให้สภาพร้อมไม่ได้ เพราะประสานไปยังสิงคโปร์และส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้จัดเตรียมการประชุมไว้แล้ว หากเลื่อนต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเพื่อส่งคืนคลังเอง

“ยืนยันว่าไม่ได้ไปเที่ยว เพราะสิงคโปร์ไม่ใช่ tourist destination แต่ได้คำนึงถึงผลลัพธ์ของการไปดูงานที่มีผลสัมฤทธิ์ และหลังจากกลับมาแล้วจะนำรายงานเสนอรัฐบาล ภาคประชาชน และสภา” นายปดิพัทธ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงงบประมาณที่นำมาใช้เดินทาง ซึ่งพบว่ามีการโยกงบฯจากค่าใช้จ่ายการเป็นเจ้าภาพประชุมระหว่างประเทศ โดยไม่ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงก่อน นายปดิพัทธ์กล่าวว่า ขอดูรายละเอียดอีกครั้ง ซึ่งเรื่องดังกล่าวสำนักงานเลขาธิการสภาชี้แจงกับตนว่า มีงบฯในส่วนของการประสานงานพิธีการทูต 1.3 ล้านบาท จึงจัดโปรแกรมให้ต่ำกว่างบฯที่มีให้ได้ และสัมพันธ์กับจำนวนคณะที่จะเดินทาง ทั้งนี้ การโยกงบประมาณนั้นขอดูรายละเอียดอีกครั้ง การใช้งบฯรอบนี้ไม่ใช่การล้างท่อ เพราะยังมีงบฯที่ค้างจ่ายอีกมหาศาล

Advertisment

เมื่อถามย้ำว่าตามเอกสารโครงการดังกล่าวพบว่าอนุมัติให้มีผู้ติดตามคณะด้วย จะควบคุมไม่ให้บานปลายใช้งบประมาณอย่างไร นายปดิพัทธ์กล่าวว่า คณะเดินทางมีเพียงนายไกลก้อง ไวทยการ อดีต กมธ.กิจการสภา ซึ่งเป็นผู้ที่ศึกษาโดยตรงกับเรื่อง Smart Parliament และออกค่าใช้จ่ายเอง ซึ่งตนคาดว่าจะไม่มีใคร แต่หากจะนำคู่สมรส หรือเพื่อนเดินทางไปด้วย ต้องออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด และต้องไม่กระทบแผนดูงาน