
สวนดุสิตโพล เปิดความคิดเห็นประชาชน 5 นโยบายด่วนของรัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน” มองเรื่องลดค่าไฟ-ค่ำน้ำมัน เป็นเรื่องด่วนที่สุด เชื่อแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท สำเร็จมากที่สุด เผยประชาชนอยากให้เร่งขึ้นเงินเดือน ค่าแรง
วันที่ 27 กันยายน 2566 สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “5 นโยบายเร่งด่วน รัฐบาลเศรษฐา” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,358 คน สำรวจระหว่างวันที่ 18-25 กันยายน 2566
- EV จีน ทุบราคาเลือดสาด ฉางอาน-กว่างโจวท้ารบ BYD เกทับลดอีกแสน
- เช็กเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เข้าบัญชีวันนี้ 5 จังหวัด
- เช็กเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เงินเข้าบัญชีวันนี้ 38 จังหวัด
ผลสำรวจพบว่า นโยบายที่ควรดำเนินการเร่งด่วนที่สุด คือ นโยบายการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน (ค่าน้ำมัน ค่าก๊าซหุงต้ม ค่าไฟฟ้า) ร้อยละ 86.00 รองลงมา คือ นโยบายการแก้ปัญหาหนี้สินภาคการเกษตร ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน ร้อยละ 72.69
โดยนโยบายที่คาดว่าน่าจะทำได้สำเร็จมากที่สุด คือ นโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ร้อยละ 63.68 รองลงมาคือ นโยบายการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ร้อยละ 62.46
ขณะที่สิ่งที่ประชาชนอยากให้เร่งดำเนินการเพิ่มเติมมากที่สุด คือ การขึ้นเงินเดือน ขึ้นค่าแรง ร้อยละ 52.03 รองลงมาคือการปราบปรามการทุจริต การรับสินบน ร้อยละ 47.38
นางสาวพรพรรณ บัวทอง นักวิจัย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ระบุเพิ่มเติมว่า รัฐบาลเร่งเดินหน้าทำงานแก้ปัญหาเก่าและสร้างผลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งการลดราคาน้ำมันและค่าไฟ เงินดิจิทัล ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ กัญชา (ไม่) เสรี ฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน
ซึ่งจากผลสำรวจสะท้อนว่าประชาชนอยากให้เร่งดำเนินการเกี่ยวกับการลดค่าครองชีพ ขึ้นค่าแรง ขึ้นเงินเดือน แก้ปัญหาหนี้สิน เนื่องจากเกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนโดยตรง จึงเป็นความท้าทายของรัฐบาลที่ต้องสร้างผลงานให้ตรงกับความต้องการโดยเร็วเนื่องจากเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของรัฐบาลในระยะยาว
ขณะที่ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ดังนภสร ณ ป้อมเพชร อาจารย์ประจำหลักสูตรรัฐศาสตร์ โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ระบุว่า นโยบายเร่งด่วนทั้ง 5 นโยบาย คือ ชุดแนวทางหนึ่งที่จะนำมาใช้ในการบริหารงานของคณะรัฐบาล
โดยชูประเด็นว่ารัฐบาลชุดนี้จะมุ่งเน้นในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจ ซึ่งอาจเรียกได้ว่า เป็นนโยบายที่เป็น “ความหวัง” ของประชาชนที่จะได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนและสามารถฟื้นฟูเยียวยาความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้นได้
นอกจากนั้น ยังมีนโยบายที่เสมือนเป็น “พันธสัญญา” จากการหาเสียงของพรรครัฐบาลที่ได้ให้ไว้กับประชาชนอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม นโยบายที่ดีที่สุด คือ นโยบายที่เกิดขึ้นได้จริง ดังนั้น รัฐบาลย่อมมีภาระผูกพันในการที่จะต้องผลักดันให้นโยบายทั้ง 5 นี้ออกมาเป็นแผนงานและโครงการอย่างเป็นรูปธรรมภายใต้กระบวนการนโยบายที่โปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล
ทั้งนี้ หากดำเนินการนโยบายเหล่านี้ได้สำเร็จก็จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในการบริหารงานของรัฐบาลและส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลในท้ายที่สุด
สำหรับความคิดเห็นประชาชนเกี่ยวกับ 5 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลเศรษฐา เป็นดังนี้
ความคิดเห็นของประชาชนต่อ “5 นโยบายเร่งด่วน”ของรัฐบาลเศรษฐา
การลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน (ค่าน้ำมัน ค่าก๊าซหุงต้ม ค่าไฟฟ้า)
- เร่งด่วนที่สุด 86.00%
- ค่อนข้างด่วน 10.87%
- ชะลอไว้ก่อน 3.13%
การแก้ปัญหาหนี้สินภาคการเกษตร ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน
- เร่งด่วนที่สุด 72.69%
- ค่อนข้างด่วน 26.04%
- ชะลอไว้ก่อน 1.27%
เงินดิจิทัล 10,000 บาท
- เร่งด่วนที่สุด 63.95%
- ค่อนข้างด่วน 16.38%
- ชะลอไว้ก่อน 19.67%
การผลักดันรายได้จากการท่องเที่ยว
- เร่งด่วนที่สุด 58.07%
- ค่อนข้างด่วน 33.78%
- ชะลอไว้ก่อน 8.15%
การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
- เร่งด่วนที่สุด 30.85%
- ค่อนข้างด่วน 36.14%
- ชะลอไว้ก่อน 33.01%
ประชาชนคิดว่า “5 นโยบายเร่งด่วน” จะทำได้สำเร็จหรือไม่
เงินดิจิทัล 10,000 บาท
- สำเร็จ 63.68%
- ไม่สำเร็จ 11.80%
- ไม่แน่ใจ 24.52%
การลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน (ค่าน้ำมัน ค่าก๊าซหุงต้ม ค่าไฟฟ้า)
- สำเร็จ 62.46%
- ไม่สำเร็จ 11.64%
- ไม่แน่ใจ 25.90%
การผลักดันรายได้จากการท่องเที่ยว
- สำเร็จ 60.78%
- ไม่สำเร็จ 6.61%
- ไม่แน่ใจ 32.61%
การแก้ปัญหาหนี้สินภาคการเกษตร ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน
- สำเร็จ 51.28%
- ไม่สำเร็จ 15.36%
- ไม่แน่ใจ 33.36%
การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
- สำเร็จ 22.66%
- ไม่สำเร็จ 23.93%
- ไม่แน่ใจ 53.41%
ประชาชนอยากให้รัฐบาลเศรษฐาเร่งดำเนินการนโยบายใดเพิ่มเติม
- ขึ้นเงินเดือน ขึ้นค่าแรง 52.03%
- ปราบปรามการทุจริต รับสินบน 47.38%
- พัฒนาระบบสาธารณสุข ดูแลสุขภาพประชาชน 43.02%
- ปฏิรูปการศึกษาไทย 38.95%
- กระตุ้นเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน 36.05%