เศรษฐา นำทีมเพื่อไทยแถลงผลงาน 10 เดือน 4 ปี รัฐบาลเปลี่ยนประเทศ

พรรคเพื่อไทย

เศรษฐา-แพทองธาร เตรียมฉายภาพผลงานรัฐบาลเพื่อไทย 10 เดือน เติมเพื่อไทยให้เต็ม 10 สนับสนุนรัฐบาลเปลี่ยนประเทศ

วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเพื่อไทยเตรียมแถลงผลงานรัฐบาลเฉพาะในส่วนของพรรคเพื่อไทย 10 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนจนถึงปัจจุบัน โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเวที “เติมเพื่อไทยให้เต็ม 10 สนับสนุนรัฐบาลเปลี่ยนประเทศ” เริ่มตั้งแต่ 09.00 น. จากนั้น นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรค ประกาศความพร้อมเลือกตั้ง อบจ. พร้อมกับโชว์ตัวผู้สมัคร อบจ.

ตามด้วยนายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ฉายภาพ “Recep 10 เดือนที่ไม่รอ” นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ขึ้นมาฉายภาพนโยบาย “ดิจิทัลวอลเลต” ทันตแพทย์หญิงศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ รองเลขาธิการพรรค ฉายภาพนโยบาย “30 บาท”

จากนั้น น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สส.กทม. และนายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ ฉายภาพ “คมนาคม” นายณพล เชยคำแหง สส.หนองบัวลำภู ฉายภาพนโยบาย “ยาเสพติด” น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ฉายภาพนโยบาย “Soft Power” น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ขึ้นกล่าวเรื่อง “รัฐธรรมนูญ” ปิดท้ายด้วย นายเศรษฐา ทวีสิน “4 ปีรัฐบาลเปลี่ยนประเทศ เติมประเทศไทยให้เต็ม 10”

นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย แถลงเมื่อวันที่ 29 เมษายน นับตั้งแต่ที่รัฐบาลที่นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เข้ารับตำแหน่งและเริ่มบริหารราชการแผ่นดิน จากวันนั้น ณ วันที่ 1 กันยายน 2566 จนถึงวันนี้ นับเป็นเวลา 242 วัน เกือบ 9 เดือน และกำลังเดินหน้าสู่เดือนที่ 10 ที่พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล “ตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง” ไม่รอให้ สว.หมดวาระ ในเดือนพฤษภาคม 2567 หากเรารอ ปัญหาต่าง ๆ และความสำเร็จที่ทยอยออกดอกผลวันนี้คงไม่เกิดขึ้น ทั้งหมดคือที่มาของการจัดงานในวันที่ 3 พฤษภาคม 2567 นี้

Advertisment

นอกจากนี้ ภายในงานจะมีการเปิดวิสัยทัศน์นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมวิสัยทัศน์ในนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทย เช่น นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง รวมทั้งเปิดตัวผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.)

ในนามของพรรคเพื่อไทยส่วนหนึ่ง เพื่อประกาศความพร้อมและความสำเร็จในการทำงานที่ผ่านมาของนายก อบจ.ในนามของพรรคเพื่อไทยในสมัยที่ผ่านมา ที่เคยได้รับความไว้วางใจและตอบสนองต่อความต้องการของพี่น้องประชาชนในท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งจะมีการเปิดตัว PheuThai Party Academy อย่างไม่เป็นทางการอีกด้วย

พญ.ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ประเด็นหลักภายในงานจะมีการบอกเล่าถึงโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ ซึ่งเป็น 1 ในนโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทย ที่เราได้ประกาศหาเสียงเอาไว้ นำร่องใน 4 จังหวัดแรกสำเร็จ เป็นของขวัญปีใหม่ปี 2567 ให้กับประชาชนได้

การย้ายโรงพยาบาลที่ไม่จำเป็นต้องซักประวัติใหม่ ไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ สร้างความลำบากให้ประชาชน ก้าวที่เรากำลังเดินไปไม่เคยหยุด และก้าวต่อไปของนโยบายนี้ เราจะเดินให้ไวและไกลกว่าเดิม เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับความสะดวก ลดต้นทุนในการรักษา ที่สำคัญคือค่าเดินทางให้มากที่สุด

Advertisment

อีกเรื่องที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้คือ ซอฟต์พาวเวอร์เป็นนโยบายสำคัญที่จะเปลี่ยนการสร้างรายได้ของประเทศ สู่ภาคเศรษฐกิจจากวัฒนธรรมสร้างสรรค์ เป็นนโยบายที่เราทำก่อนหาเสียง และเราทำจริง และจะทำอย่างเป็นระบบ ด้วยการออกกฎหมายฉบับใหม่ สร้างองค์กรและองค์ความรู้รองรับ เพื่อให้ซอฟต์พาวเวอร์สร้างรายได้ให้กับประชาชนในระยะยาวและยั่งยืน

น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาลเพื่อไทยภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะใช้เวลาทุกวินาทีในการบริหารประเทศอย่างคุ้มค่าที่สุดและจะเดินหน้าผลักดันให้เกิดรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนตามที่สัญญากับพี่น้องประชาชนเอาไว้ให้ได้ ภารกิจผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน เป็นนโยบายที่พรรคเพื่อไทยได้ให้ไว้กับประชาชน

โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรก ที่ประชุม ครม.ได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และในที่สุดที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 มีมติเห็นชอบจัดให้มีการออกเสียงประชามติ 3 ครั้ง

ตามข้อเสนอของคณะกรรมการ โดยมั่นใจว่า หากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเดินหน้าอย่างมียุทธศาสตร์ และได้รับการสนับสนุนจากพลังของพี่น้องประชาชนอย่างท่วมท้น ก็จะมีโอกาสเห็นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เป็นประชาธิปไตยเกิดขึ้นภายในระยะเวลา 4 ปีของรัฐบาลชุดนี้อย่างแน่นอน

นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2567 จะสรุปผลงานการเดินหน้าเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด้านคมนาคมอย่างเป็นระบบ เป็นวิสัยทัศน์ของพรรคเพื่อไทยตั้งแต่ในอดีต และได้เริ่มอย่างเป็นรูปธรรมแล้วในสมัยรัฐบาลนี้

โดยใน 10 เดือนนี้ เราได้ประกาศจุดยืนเพื่อ Logistic Hub ที่สำคัญของเอเชีย เดินหน้าเชื่อมต่อการขนส่งผ่านระบบรถ-เรือ-ราง และรันเวย์ ผ่านการเดินหน้ารถไฟความเร็วสูง เร่งรัดโครงข่ายรถไฟรางคู่ ขยายท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง และเสริมศักยภาพสนามบินนานาชาติทั้ง 4 แห่ง เพื่อเร่งดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ ส่งเสริมการขนส่งสินค้า และการเดินทางระหว่างเมืองของประชาชน

พร้อมกับความสำเร็จของการนำร่องโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย และการเดินหน้าไปถึงเป้าหมายทุกเส้นทางในปี 2568 เพื่อลดค่าครองชีพให้ประชาชน รวมถึงการแสวงหาความร่วมมือทุกทาง เดินหน้าโครงการเติมเงิน 10,000 บานผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล ที่จะเป็นจุดเริ่มต้นครั้งสำคัญของการรดน้ำหน้าบ้านทุกครัวเรือน กระตุ้นกำลังซื้อ กระตุ้นการลงทุน ให้เศรษฐกิจฐานรากโตทุกชุมชน วางรากฐานประเทศไปสู่ Digital Economy และคืนศักดิ์ศรีประเทศไทยในเวทีโลกได้อีกครั้ง