ครม.ใหม่ถวายสัตย์ฯ “เศรษฐา” นำทีมรัฐบาลเพื่อไทย เตรียมจัดใหญ่ถวายพระพรในหลวง 72 พรรษา เศรษฐกิจฟูลทีม คลัง 4 ตำแหน่ง รุกแจกเงินดิจิทัล ขึ้นค่าแรง 400 บาท ดันฟรีวีซ่า พัฒนาเมืองรองรับรายได้ท่องเที่ยว ดูดบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ลงทุนขยับไทยประเทศรายได้สูง โชว์ผลงานเจรจา 4 แบงก์ใหญ่ลดดอกเบี้ย ผลักราคายางทะลุโลละ 100 บาท เดินหน้าแก้หนี้นอกระบบให้จบ 4 ปี
ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นำทีมรัฐมนตรีชุดใหม่ 12 คน 13 ตำแหน่งที่ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งวันที่ 27 เมษายน 2567 และประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้ง ล่าสุดลงวันที่ 30 เมษายน 2567 ไปยังพระที่นั่งอัมพรสถาน เพื่อเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่
ครม.ใหม่ครบทีมเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ครม.ชุดใหม่ ทีมรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจฟูลทีม โดยเฉพาะกระทรวงการคลัง ที่มีทั้งรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กับรัฐมนตรีช่วยครบตำแหน่ง 4 คน
รายชื่อคณะรัฐมนตรีที่เข้าเฝ้าฯ ในวันนี้ ประกอบด้วย 1.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นรองนายกรัฐมนตรีอีกตำแหน่งหนึ่ง 2.นายพิชัย ชุณหวชิร เป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 3.นายจักรพงษ์ แสงมณี เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 4.นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 5.นางสาวจิราพร สินธุไพร เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
6.นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง 7.นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ 8.นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 9.นายอรรถกร ศิริลัทธยากร เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 10.นายสุชาติ ชมกลิ่น เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ 11.นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม 12.นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
พท.รุกเงินดิจิทัล-ค่าแรง 400 บาท
ในวันเดียวกันนี้ ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้จัดงาน “10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10” โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คณะรัฐมนตรีสัดส่วนของพรรคเพื่อไทย กรรมการบริหารพรรค ผู้บริหารพรรค, สส., ว่าที่ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดของพรรคเพื่อไทย และบุคลากรของพรรค เข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง
หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวตอนหนึ่งว่า “ยืนยันว่าเราตัดสินใจถูกต้องมาก ๆ ที่เราได้จัดตั้งรัฐบาลผสมเมื่อ 10 เดือนที่แล้ว เพราะปัญหาที่มีอยู่มากมาย หลังจากที่เราได้เป็นรัฐบาลแล้ว ได้เห็นปัญหาที่สะสมมายาวนาน มีการปฏิวัติรัฐประหารถึง 2 ครั้ง ใช้เวลากว่า 2 ทศวรรษ”
“แน่นอนถ้าเราไม่เลือกจัดตั้งรัฐบาลผสม และเราเป็นแกนนำ คงไม่มีโอกาสที่จะเริ่มแก้ปัญหาที่สะสมมาเป็นเวลานาน ตอนนี้กฎหมายพยายามจะให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นอิสระจากรัฐบาล เรื่องนี้เป็นปัญหาและอุปสรรคสำคัญมาก ๆ ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เพราะนโยบายด้านการคลังถูกใช้งานข้างเดียวมาตลอด และประเทศเรามีหนี้สูงมากขึ้น และมากขึ้นทุกปี จากการตั้งงบประมาณขาดดุล ถ้านโยบายการเงินที่บริหารโดยธนาคารแห่งประเทศไทยไม่ยอมเข้าใจและไม่ยอมให้ความร่วมมือ ประเทศจะไม่มีทางลดเพดานหนี้ได้เลย” น.ส.แพทองธารกล่าวและว่า
ในมิติทางเศรษฐกิจ เริ่มต้นด้วยการเติมเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ คือเงินดิจิทัลวอลเลต เพราะเงินถูกดูดออกจากระบบไปมาก จนตอนนี้เป็นเหตุหนึ่งที่สำคัญให้เศรษฐกิจของเราโตต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศในอาเซียน วันนี้เราเพิ่มค่าแรงที่เพิ่มขึ้นเป็น 400 บาท จะทำให้ทุกคนต้องปรับตัว และอยากให้จำไว้ว่า การเพิ่มค่าแรงไม่เคยทำให้ธุรกิจเจ๊ง แต่จะเพิ่มผลผลิตจากความพอกินของพนักงาน
พรรคเพื่อไทยจะผลักดันเศรษฐกิจในทุกมิติ รวมถึงนำเม็ดเงินใหม่จากต่างประเทศ โดยนายกฯไปคุยกับต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้เห็นความเป็นรูปธรรมเพิ่มมากขึ้นแล้ว
ดันฟรีวีซ่ารับรายได้ท่องเที่ยว
จากนั้น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวในหัวข้อ “4 ปีรัฐบาลเปลี่ยนประเทศ เติมประเทศไทยให้เต็ม 10” ว่า หลังจากเราตั้งรัฐบาล 314 เสียงแล้ว มีความมั่นคง มีความมุมานะ ทำงานร่วมกันดูแลประชาชนทุกคนอย่างทั่วถึง และทำเต็มที่เท่าที่จะสามารถทำได้ ตนคิดว่า 10 เดือนที่ผ่านมาเป็นที่ประจักษ์
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการพัฒนาท่องเที่ยวในเมืองรองว่า เวลาลงพื้นที่มีความต้องการสนามบินอยู่จำนวนมาก ทั้งสุรินทร์ อัพเกรดสนามบินที่น่าน ให้มีรันเวย์ที่กว้างขึ้น สนามบิน จ.นครศรีธรรมราช สามารถรองรับไฟลต์ที่มาจากต่างประเทศได้มากขึ้น เราไม่ได้ดูแค่เมืองใหญ่ ๆ เราให้ความสำคัญพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นเมืองรองด้วย เพื่อให้สอดรับกับการท่องเที่ยว
“ถ้าเราไม่มาวันนี้ ป่านนี้ฟรีวีซ่าจีนไปถึงไหนก็ไม่รู้ การท่องเที่ยวมีสัดส่วน 20% ของจีดีพีเป็นอย่างน้อย ซึ่งช่วงที่งบประมาณ 2567 ยังไม่ได้ออกมา เราพึ่งการท่องเที่ยวอย่างมาก เป็นตัวผลักดันรายได้เข้าสู่กระเป๋าของคนไทยทุกคน” นายเศรษฐากล่าว
นายเศรษฐากล่าวอีกว่า รัฐบาลนี้มีการผลักดันเรื่อง FTA อย่างต่อเนื่อง เพราะเวลาจะไปขายของถ้าเราไม่มีสนธิสัญญาการค้าระหว่างประเทศ ก็จะขายของลำบาก เดินทางไปต่างประเทศมา 14 หน เหนื่อยยาก ลำบาก เพราะไปแต่ละหน นัดแน่นเอี้ยด เพราะไทยไม่ได้อยู่ในเวทีโลกมานาน จึงต้องไปเปิดหน้า เปิดตัวว่า ไทยพร้อมแล้ว สำหรับการค้า การท่องเที่ยว การลงทุน
ตั้งเป้าประเทศรายได้สูง
นายเศรษฐากล่าวต่อว่า พูดถึงการลงทุน มีบริษัท Microsoft มาประกาศลงทุนประเทศไทย แม้ว่ามีการเปรียบเทียบการลงทุนที่อินโดนีเซีย กับมาเลเซีย ว่าของเขาประกาศตัวเลขการลงทุน แต่ของเราไม่ได้ประกาศ ด้วยความเคารพ ขอเขาเป็น Stage 2 ส่วนของเราเป็น Stage 1 มี 1 เดี๋ยวก็มี 2 มั่นใจการลงทุนจะมีอย่างต่อเนื่อง เราจะยกระดับ มีการเปลี่ยนอาชีพ ก้าวสู่สังคมที่มีรายได้สูง จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องมีการลงทุนจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
ดีล 4 ธนาคารยักษ์ลดดอกเบี้ย
นายเศรษฐากล่าวอีกว่า ปัญหาใหญ่อีกปัญหาหนึ่งคือหนี้สิน ทั้งนี้ ในส่วนหนี้ในระบบ เราได้เจรจาไปกับ 4 ธนาคารใหญ่ เพื่อลดดอกบี้ย แต่ถ้าเราไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้ก็คงไม่มีใครไปคุยกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ให้ลดดอกเบี้ย ท่านพูดอิสระเป็นหลัก แต่ผมพูดแล้วว่า อิสระไม่ได้อิสระจากความทุกข์ของประชาชน พูดไปด้วยวาจาที่สุภาพ พูดคุยในฐานะผู้ใหญ่ที่คุยกัน ถ้าหากท่านลดดอกเบี้ยก็ดี แต่ถ้าไม่ทำ รัฐบาลก็หาวิธีอื่น จึงมีการคุยกับ 4 ธนาคาร จนมีการลดดอกเบี้ย
ส่วนหนี้นอกระบบที่กัดกร่อนสังคมไทย เราได้ทำงานกับฝ่ายปกครอง ตำรวจ และ สส.ก็มีส่วนช่วย วันนี้มีขั้นตอนที่เราทำไปแล้วบ้าง ยอมรับว่ายังอีกไกลกว่าจะสำเร็จ แต่ตนมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาเรื่องนี้ เพื่อให้สำเร็จภายใน 4 ปีข้างหน้านี้
ชูพืชเศรษฐกิจ-ยางโลละ 100
นายเศรษฐาเล่าว่า เมื่อตอนเข้ามาการเมือง 3-4 เดือน ต้องเรียนตรง ๆ ไม่ได้ใส่ใจราคาหอมแดง คิดว่าเป็นเรื่องเล็ก ๆ มี สส.บอกว่า ต้นทุนการผลิตกิโลกรัมละ 7-8 บาท แต่คิดไว้ในใจ บังเอิญมาหาเสียงที่จตุจักร มีแผงขายผักสด มีหอมแดงอยู่ ตนเข้าไปถามว่าหอมแดงกิโลกรัมละเท่าไหร่ ทราบหรือไม่ กิโลกรัมละ 200 บาท แล้ว 193 บาท หายไปไหน
“อันนี้เป็นตัวจุดประกายจริง ๆ และพอเข้ามาเป็นรัฐบาล ผมเข้าสภาในวันพฤหัสบดี มี สส.มาบอกว่า ราคาหอมแดงไม่ดี ผมจึงเรียก นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ เชิญอธิบดีกรมการค้าภายใน มาหากลไกว่าราคาหอมแดงต้องเป็น 13-15 บาท ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจ จนถึงตอนนี้ราคาเกษตรขึ้นยกแผง” นายเศรษฐากล่าว
นายเศรษฐากล่าวว่า นโยบายต่อไปของเราคือพืชรอง จะมีเรื่องลำไย ลิ้นจี่ และอีกหลาย ๆ เรื่องตามมา เราให้ความสำคัญเท่าเทียมกันหมด ได้หารือกับนายภูมิธรรมแล้วว่า เราจะต้องมีการดูแลพืชรองในจังหวัดต่าง ๆ ในเขตต่าง ๆ ที่พวกเราเป็น สส. เพื่อให้ราคาพืชผลทั้งหลายไม่ตกต่ำ ไม่ว่ากระหล่ำปลี หอมแดง ขิง ข่า ตะไคร้ ราคาจะต้องถูกยกขึ้นหมด
จะมีกลไกการค้า เปิดตลาดใหม่ ดูดซัพพลายออกจากตลาด จะเป็น KPI ให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ เปิดตลาดใหม่เพื่อดูแลประชาชนในเรื่องเหล่านี้ให้ดี นอกจากนี้ ตอนนี้ราคายางกิโลกรัมละ 100 บาทแล้ว ต่างจากแต่เดิม 3 กิโลฯ 100 เดี๋ยวข้าวก็จะดีขึ้น พยายามทำงานต่อไป
จัดใหญ่ถวายพระพรในหลวง 72 พรรษา
นายเศรษฐายังกล่าวว่า เรื่องที่เราให้ความสำคัญมาก คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ หรือ 72 พรรษา รัฐบาลมีแผนงานดูแลช่วยเหลือประชาชน ออกโครงการต่าง ๆ มา อยากให้พวกเราทุกคนช่วยกันน้อมรับปฏิบัติ และช่วยกันคิดว่าจะทำอะไรเป็นสาธารณกุศลได้ ซึ่งในระยะเวลาอันใกล้พรรคเพื่อไทยจะมีนโยบายอย่างชัดเจน
ทำแน่แก้รัฐธรรมนูญ
นายกรัฐมนตรีกล่าวเรื่องรัฐธรรมนูญใหม่ว่า เป็นเรื่องที่เราทุกคนต้องให้ความสำคัญ ประชาชนมีความต้องการ รัฐบาลก็ไม่นิ่งนอนใจ เราผลักดันให้เกิดขึ้น เพราะถ้าไม่มีรัฐบาลนี้ 10 เดือนที่ผ่านมา เรื่องนี้จะอยู่ตรงไหน เพราะเราอยู่ในกฎกติกาที่ไม่ใช่เพื่อประชาชนอย่างแท้จริง เราต้องมีการพูดคุยกัน นำเรื่องนี้ขึ้นมาผลักดันให้เป็นรัฐธรรมนูญ ฉบับประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน เราทำมาตลอด 10 กว่าเดือนที่ผ่านมา