สุชาติ ปลื้มกลับเข้าทำเนียบ ชมเศรษฐาถึงลูกถึงคนคล้ายประยุทธ์

สุชาติ ชากลิ่น
นายสุชาติ ชากลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์

สุชาติ ชมกลิ่น ปลื้มกลับเข้ามาทำหน้าที่ตามที่ประเทศต้องการ ชม เศรษฐา ทำงานรวดเร็วถึงลูกถึงคนคล้าย ประยุทธ์

วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ให้สัมภาษณ์ว่า ได้กลับเข้ามาทำงานให้ประเทศชาติเหมือนเดิม และขอขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกอย่างไร ต่อการที่เคยดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการ แล้ววันนี้มารับตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการ นายสุชาติกล่าวว่า การเข้ามารับตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ ถือเป็นการเข้ามาทำหน้าที่ตามที่ประเทศชาติต้องการ ไม่ได้เข้ามารับตำแหน่งเพื่อตัวเอง แต่เข้ามาเพื่อทำงานให้กับประเทศชาติ ดังนั้นการเข้ามารับตำแหน่งดังกล่าวตนไม่ได้ซีเรียสอะไร

เมื่อถามว่า การมารับตำแหน่ง รมช.พาณิชย์นั้นแตกต่างจากที่นายสุชาติเคยรับตำแหน่ง รมว.แรงงานหรือไม่  อย่างไร นายสุชาติกล่าวว่า การมารับตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ถือเป็นการมาเรียนรู้กระทรวงด้านเศรษฐกิจอีกกระทรวงหนึ่ง ส่วนเรื่องการแบ่งงานขึ้นอยู่กับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์

ทั้งนี้ นายภูมิธรรมถือเป็นผู้ใหญ่ที่ตนให้ความเคารพมาเป็นเวลานาน และตนเป็นแฟนคลับของท่านมาหลายสิบปี ตนรู้สึกยินดีที่ได้มาร่วมงานกับท่านในครั้งนี้ ขณะเดียวกันตนมีความตั้งใจจริงที่อยากมาทำงานที่กระทรวงนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่งานของกระทรวงแรงงานกับกระทรวงพาณิชย์มีความแตกต่างกัน นายสุชาติกล่าวว่า ถ้าแรงงานดี เกษตรดี ค้าขายดี ประเทศก็เจริญ มันถือเป็นหัวใจหลัก

ADVERTISMENT

ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกเกร็งหรือไม่ เพราะนายสุชาติเคยเป็นรัฐมนตรีในสมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แล้วตอนนี้ต้องมาเป็นรัฐมนตรีในสมัยของนายเศรษฐา ทวีสิน นายสุชาติกล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกอะไร

“เพราะนายเศรษฐาเป็นคนตั้งใจทำงาน เป็นคนเก่ง และตนได้เคยพูดคุยและรับประทานอาหารร่วมกับท่านมาแล้ว ซึ่งได้มีการพูดคุยถึงวิสัยทัศน์ในเรื่องต่าง ๆ จึงทำให้เห็นว่าท่านเป็นคนเก่ง และมีสไตล์การทำงานรวดเร็วและถึงลูกถึงคนคล้ายกับ พล.อ.ประยุทธ์ และเป็นคนที่มีความชัดเจน”

ADVERTISMENT

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความกังวลหรือไม่ต่อการที่ถูกตรวจสอบจาก ป.ป.ช. ในฐานที่คดีความหลายเรื่องจากสมัยเป็น รมว.แรงงาน นายสุชาติกล่าวว่า คดีต่าง ๆ เป็นการกล่าวหา แต่ถ้าไม่ดูที่ข้อมูลก็จะเห็นว่าไม่ได้มีชื่อของตนปรากฎอยู่ แต่ก็เป็นเรื่องที่ ป.ป.ช.ต้องพิสูจน์และสืบหาข้อเท็จจริงให้ได้ว่าตนมีส่วนเกี่ยวข้องจริงหรือไม่

แต่ตนยืนยันชัดเจนว่าจะสู้คดีต่อไป เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด ตนเชื่อในกระบวนการยุติธรรม สมมติว่ารัฐมนตรีคนไหนถูกคนเขียนบัตรสนเท่ห์ แล้วมีคนนำไปร้องเรียนก็ต้องมีการไปตรวจสอบ ไปแสวงหาข้อเท็จจริง ว่าข้อกล่าวหานั้นจริงหรือเท็จ