
พิชิต ชี้ โครงการทำเนียบช่วยได้ เป็นไปรษณีย์ ส่งปัญหาประชาชนถึง “นายกฯ” สั่งการแก้ให้สำเร็จ
วันที่ 8 พฤษภาคม 2567 ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบายหลังเข้ารับตำแหน่ง ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล ตอนหนึ่งว่า ในระบบราชการเข้าใจว่าทำงานเต็มความสามารถ โดยศักยภาพของสำนักนายกรัฐมนตรี แต่วัตถุประสงค์และบริบทสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป มีภาพเอกชน และมีหลายหน่วยงานที่ร่วมกันตรวจสอบและรับเรื่องราวร้องทุกข์ และหลายหน่วยงานกำลังทำการตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดิน
ตนไม่ได้เข้ามากำกับ แต่เข้ามาเสมือนเป็นเพื่อน สิ่งที่ตนพูดต่อไปนี้ไม่ใช่เรื่องตำหนิ ขีดเส้นใต้ 100 ครั้งว่าไม่ใช่การตำหนิ ท่านทำดีอยู่แล้ว แต่เราจะมาทำให้ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาลเป็น “ทำเนียบช่วยได้” จะเป็นมือไม้ให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพราะปัญหาของประชาชนมีมาก ดังนั้นเราจะทำให้ศูนย์นี้ รับเรื่องราวร้องทุกข์จากประชาชน ทำงานแข่งกันให้ทำเนียบรัฐบาลเป็นที่พึ่งพาได้ ส่วนภาคเอกชนที่มีการรับเรื่องราวมาตรวจสอบก็ให้เขาทำไป
จากนั้น นายพิชิต ให้สัมภาษณ์ถึงโครงการ “ทำเนียบช่วยได้” ว่าเป็นการลบภาพของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ออกไปหรือไม่ ว่า ชื่อดังกล่าวมาจากใจ มาจากความรู้สึก ไม่ได้มีเรื่องการเมืองใด ๆ เพราะทำเนียบต้องช่วยได้ เพราะรัฐบาลได้ประกาศนโยบายหลายอย่าง เพราะฉะนั้นตรงนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งขององคาพยพ ที่จะช่วยกันทำงานให้กับรัฐบาล
ตนในฐานะรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถือเป็นมือไม้ของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่มีความตั้งใจในการแก้ไขปัญหาสังคมทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องของยาเสพติดที่กำลังระบาด ที่นายกฯได้ลงไปกำชับ และขันนอต รวมถึงเว็บพนันออนไลน์ ตนมองว่า พอมาอยู่ในจุดนี้ก็ทำอะไรได้อย่างจริงจัง เข้มข้น แข็งแรง เพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชน ตนยินดีที่จะทำ ยืนยันว่าไม่มีเรื่องของการเมือง เพราะคำว่า “ทำเนียบช่วยได้” เป็นเรื่องที่ตนคิดมาจากหัวใจของตนเอง
ส่วนกรณีที่ส่งเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยงานของแต่ละกระทรวงมาประจำที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ แต่ก็ยังคงไม่มีความคืบหน้าในการดำเนินการนั้น นายพิชิตกล่าวว่า ตนพอทราบปัญหาเรื่องนี้ แต่ตนจะมีวิธีการใหม่ ซึ่งได้คิดวิธีไว้แล้ว และวันนี้ตนมีจิตใจมุ่งมั่นทำงาน แต่จะทำอย่างไรภายใน 30 วัน ให้สื่อมวลชนและประชาชนได้เห็นเป็นรูปธรรม โดยจะมีขั้นตอน ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ
และจะจัดตั้งโฆษกของศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ เพื่อสื่อสารกับสื่อมวลชน และ ประชาชน ว่าเราได้รับเรื่อง ร้องทุกข์อะไรไป ถึงแม้จะแก้ไขไม่ได้ทั้งหมด 100% ในวันนี้เดือนนี้ ปีนี้ แต่ต้องรู้ว่าปลายทางติดขัดอะไร และจะนำปัญหาที่ติดขัดเรียนต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ประสานสั่งการ ไปยังทุกหน่วยงานของภาครัฐ ตนขอเป็นบุรุษไปรษณีย์ ที่จะแก้ปัญหาให้ลุล่วง เพื่อให้เกิดความสุขของประชาชน