ใบลาออกจาก รมช.คลัง ของ กฤษฎา มีผลทางกฎหมายแล้ว หลังแสดงเจตเจตจำนง นายกฯ แค่รับทราบ
วันที่ 9 พฤษภาคม 2567 รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า จากการแสดงเจตจำนงและยื่นจดหมายลาออกเป็นลายลักษณ์อักษร ของนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง ยื่นหนังสือลาออกตำแหน่ง รมช.คลัง ต่อนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมานั้น
- เปิด 10 อันดับที่ดินต่างจังหวัด แพงสุดในประเทศไทย
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 พ.ค. ย้อนหลัง 10 ปี
- กรมอุตุฯเตือน รับมือฝนตกหนักอีกรอบ 17-19 พ.ค.นี้ หนักสุดถึง 70% ของพื้นที่
แม้ในวันเดียวกัน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะได้โทรศัพท์เพื่อยับยั้งการลาออกดังกล่าว แต่ในทางกฎหมายแล้วถือว่าการลาออกของนายกฤษฎามีผลโดยสมบูรณ์แล้ว โดยก่อนหน้านี้มีความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีการะบุไว้อย่างชัดเจนว่า ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยได้กำหนดให้รัฐมนตรีต้องรับผิดชอบในหน้าที่ของตน และรับผิดชอบร่วมกันในนโยบายทั่วไปต่อสภาผู้แทนราษฎร หรือรัฐสภาตามบทเฉพาะกาล
เมื่อรัฐมนตรีคนใดไม่ประสงค์จะรับผิดชอบในหน้าที่ของตนหรือในนโยบายทั่วไปอีกต่อไป จึงต้องถือว่าเป็นสิทธิของรัฐมนตรีคนนั้นที่จะลาออกเมื่อใดก็ได้ และไม่อยู่ภายใต้การยับยั้งของผู้ใด ดังนั้น ในกรณีที่มีการแสดงเจตนาลาออกด้วยวาจา
การลาออกย่อมมีผลสมบูรณ์เมื่อนายกรัฐมนตรีได้รับทราบการแสดงเจตนานั้น ส่วนในกรณีที่การแสดงเจตนาลาออกกระทำเป็นลายลักษณ์อักษร การลาออกย่อมมีผลสมบูรณ์นับแต่วันที่ได้กำหนดไว้ในใบลาออกซึ่งได้ยื่น ณ สถานที่และต่อบุคคลตามระเบียบปฏิบัติราชการ โดยไม่จำเป็นต้องยื่นต่อนายกรัฐมนตรีโดยตรง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาดังกล่าว ได้ตอบหนังสือการสอบถามของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้มีหนังสือ ลับมาก ที่ สร.๐๒๐๓/๑๑๐๔ ลง วันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๒๕ ถึงส านักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ความว่า ตามที่รัฐสภาเปิดการประชุมเมื่อวันที่ ๘ มกราคม ๒๕๒๕ ได้พิจารณาญัตติในปัญหาเกี่ยวกับการที่รัฐมนตรีท่านหนึ่งได้ให้ข่าวเกี่ยวกับการลาออก ว่า จะมีผลเป็นการลาออกซึ่งจะท าให้ความเป็ นรัฐมนตรีสิ้นสุดตาม มาตรา ๑๕๕ (๒) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หรือไม่ ซึ่งฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ได้ขอรับเรื่องนี้จากรัฐสภามาเพื่อพิจารณา
อ่าน ฉบับเต็มของหนังสือ บันทึกการลาออกของรัฐมนตรี
