
โผรายชื่อคณะรัฐมนตรี แพทองธาร 1 “หมอมิ้ง” เป็นเลขาธิการนายกฯ เผยตำแหน่งรองนายกฯด้านเศรษฐกิจ-รมว.คลัง “พิชัย” แบ่งรับแบ่งสู้ ภูมิใจไทยนิ่ง “อนุทิน” รองนายกฯควบ มท.1 “พีระพันธุ์” รวมไทยสร้างชาติดึง “ขิง-เอกนัฏ” เสียบรัฐมนตรี เผยขั้นตอนตรวจคุณสมบัติละเอียดยิบ ส่งทุกที่ ทั้งเลขาฯ ครม.-กฤษฎีกา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ ก.ล.ต. นโยบายแจกเงินหมื่นโล่ง สำนักงบฯยัน ปรับเป็น “แจกเงินสด” ได้
ความเคลื่อนไหวการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) แพทองธาร ยังฝุ่นตลบภายหลังพรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ขีดเส้นตายให้พรรคร่วมรัฐบาล จะต้องส่งชื่อบุคคลที่สมควรเป็นรัฐมนตรีภายในวันที่ 20 สิงหาคม 2567
หมอมิ้งตรวจเข้มคุณสมบัติ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช กล่าวถึงการตรวจสอบคุณสมบัติว่า ตามหลักการเราจะต้องมีการเตรียมการทั้งคนเก่าและใหม่ เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้ทำการประสานและตรวจเช็กในเบื้องต้น ซึ่งขณะนี้มีรายชื่อที่ส่งมาจากบางพรรคแล้ว ก็ได้พยายามตรวจสอบและขออนุญาตยังไม่เปิดเผย เพราะเนื่องจากยังไม่มีอะไรแน่นอน ปกติชื่อของคณะรัฐมนตรีตัวจริงจะรอจนกว่ามีการโปรดเกล้าฯเท่านั้น
ว่าที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องของการตรวจสอบคุณสมบัติหน้าที่หลักเป็นของเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะต้องไปตรวจสอบจากหลายหน่วยงาน รวมทั้งกฤษฎีกาด้วยหากมีข้อสงสัย ซึ่งมีกระบวนการ จะส่งก็ต่อเมื่อต้องการคำปรึกษา เพราะกฤษฎีกาคือที่ปรึกษากฎหมาย แต่ยังมีอีกหลายเรื่อง อาทิ จะต้องส่งประวัติไปให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ซึ่งมีการส่งกันตามปกติอยู่แล้ว ต้องส่งไปที่ทางคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งกระบวนการทั้งหมดจะต้องรอบคอบ และเป็นปกติอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะต้องส่งประวัติตรวจสอบทุกคนเลยหรือไม่ หรือเฉพาะคนที่สงสัย นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า ปกติจะส่งตรวจสอบทุกคนอยู่แล้ว ครั้งไหน ๆ ก็เช่นกัน
“ในเมื่อมีคำตัดสินและข้อวินิจฉัยออกมา จากศาลรัฐธรรมนูญ ก็จะต้องเข้มงวดกันขึ้นไปเป็นพิเศษ”
เป็นครั้งแรกที่กฤษฎีกาตรวจ
ด้านนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ตอบคำถามกรณีที่รัฐบาลให้ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของรายชื่อบุคคลที่สมควรเป็นรัฐมนตรีจะใช้เวลานานหรือไม่ว่า ถือเป็นครั้งแรกที่คณะกรรมการกฤษฎีกาจะมีการตรวจสอบ เพราะปกติทางสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) จะเป็นผู้ตรวจสอบ
อิ๊งค์ เร่งเคลียร์โผ ครม.
ที่อาคารชินวัตร 3 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ถึงความคืบหน้าของรัฐมนตรีในส่วนของพรรคเพื่อไทย เรียบร้อยแล้วหรือไม่ ว่ายังไม่ได้คุยกัน เดี๋ยวจะมีการคุยกัน 21 ส.ค.นี้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะจบทั้งหมด
เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ มีปัญหาเรื่องการเสนอชื่อรัฐมนตรี น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ยังไม่ได้ไฟนอล ให้เป็นเรื่องของเขาไปเคลียร์กันเองดีกว่า เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ติดต่อมาพูดคุยบ้างหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ไม่ได้คุยเลย เมื่อถามต่อว่า พล.อ.ประวิตรได้มีการแสดงความยินดีอะไรหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า “ท่านได้ส่งดอกไม้มา”
เปิดโผ ครม.อิ๊งค์ 1
ผู้สื่อข่าวรายงาน โผรายชื่อรัฐมนตรีในรัฐบาลแพทองธาร รัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ตามโควตาเดิมคือ 17 ตำแหน่ง โดยให้ความสำคัญลำดับต้น ๆ กับตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ, รองนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมาย และโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คาดว่าจะมีบุคคลเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีใหม่ อาทิ นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรค, น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ, น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สส.กทม.พรรคเพื่อไทย เพียงหนึ่งเดียว
ส่วนรัฐมนตรีที่ยังอยู่ในการพิจารณาว่าจะได้เป็นต่อหรือจะพ้นจากตำแหน่ง เช่น นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ส่วนรัฐมนตรีที่คาดว่าจะพ้นจากตำแหน่ง อาทิ นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ นายจักรพงษ์ แสงมณี รมต.ประจำสำนักนายกฯ ส่วนนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย ที่มีชื่อหลุดออกจากตำแหน่ง คาดว่าจะได้อยู่ต่อ
ภท.- รทสช.ส่งชื่อแล้ว
ขณะที่ความเคลื่อนไหวพรรครวมไทยสร้างชาติ ล่าสุดได้จัดทำรายชื่อรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดใหม่เรียบร้อยแล้ว โดยยังคงยืนยันเป็นไปตามโควตาเดิม 2 รมว.และ 2 รมช. โดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค นั่ง รมว.พลังงาน นายสุชาติ ชมกลิ่น เป็น รมช.พาณิชย์ ขณะที่นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะเลขาธิการพรรค เป็น รมว.อุตสาหกรรม
ขณะที่พรรคภูมิใจไทย ยังเสนอรายชื่อเดิมทั้งหมด แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย, พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ เป็น รมว.ศึกษาธิการ, นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน, น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
รัฐมนตรีช่วยว่าการ 4 ตำแหน่ง นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์
พปชร.วุ่น บิ๊กป้อม VS ธรรมนัส
ขณะที่โผ ครม.ของพรรคพลังประชารัฐ มีความปั่นป่วน เพราะความขัดแย้งภายใน เนื่องจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์กับสื่อหลายสำนักระบุว่า มอบหมายให้ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รักษาการ รมช.สาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ส่งชื่อรัฐมนตรีให้กับพรรคเพื่อไทยแล้ว 4 ชื่อ
1.พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2.นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ (ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า) 3.นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมช.สาธารณสุข (แทนนายสันติที่ขยับไปเป็นว่าการ) 4.นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์
พร้อมกับระบุสาเหตุที่ไม่มีชื่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รักษาการ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคว่า “พรรครัฐบาลเขาไม่เอา”
“วงษ์สุวรรณ” ย้ำโผ ครม.ส่งแล้ว
สอดคล้องกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคส่งชื่อไปแล้ว ส่วนที่มีข่าวว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรสหกรณ์ อาจหลุดเก้าอี้รัฐมนตรี นั้นไม่ทราบ ทั้งนี้ ได้คุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคแล้ว แต่ไม่มีอะไร
ธรรมนัส ไม่คุย บิ๊กป้อม
ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รักษาการ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีที่มีข่าวว่าชื่อหลุดจากโผรัฐมนตรีว่า เพิ่งเดินทางกลับจากงานวันเกิดที่ จ.พะเยา ยังไม่รู้สถานการณ์ภายในพรรคพลังประชารัฐเกิดอะไรขึ้น แต่ยืนยันว่าไม่ได้ทะเลาะกับใคร และประสบการณ์ 6 ปีที่ผ่านมาได้รับใช้บุคคลคนหนึ่ง และพรรคพรรคหนึ่งมามากพอแล้ว ถึงเวลาที่ต้องเดินออกมาแบบไม่ทะเลาะกับใคร
ผู้สื่อข่าวถามว่า พูดเช่นนี้ จะย้ายไปอยู่พรรคการเมืองใหม่ใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ชีวิตของตนไม่จำเป็นต้องไปอยู่ที่ไหน และไม่จำเป็นต้องฝากไว้กับการเป็นนักการเมือง เมื่อปี 2561 เข้ามาการเมืองด้วยความบังเอิญ มาสร้างพรรค พปชร. ร่วมกับเพื่อนนักเรียน จปร. หลายคน ก่อนที่จะทยอยออกกันไป วันนี้ถึงเวลาเหลือตนเองแค่คนเดียว ถึงเวลาต้องประกาศความเป็นอิสรภาพของตัวเอง
เมื่อถามถึงความชัดเจนว่า ชื่อของ ร.อ.ธรรมนัส หลุดจากรายชื่อรัฐมนตรีใหม่จริงหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ต้องเคารพการตัดสินใจของผู้นำรัฐบาล ไม่ใช่ใครจะเสนอชื่อนาย ก. นาย ข. แล้วผู้นำรัฐบาลต้องเอาตามนั้น ยิ่งมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนายเศรษฐา ถึงขั้นต้องหลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี การเมืองจึงเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
เมื่อถามว่าได้คุยกับ พล.อ.ประวิตรหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า “ไม่คุย คุยทำไม ในเมื่อท่านไม่ใช้ผมแล้ว ผมก็ไม่จำเป็นต้องคุย” เมื่อถามย้ำว่า พล.อ.ประวิตรออกมาให้สัมภาษณ์รายชื่อ ว่าที่รัฐมนตรี ไม่มีชื่อ ร.อ.ธรรมนัส รมว.เกษตรฯ กล่าวว่า “ก็ไม่เคยมีการสอบถามตนเองมาก่อน ที่พูดเช่นนี้ขอย้ำว่าไม่ได้แตกหัก แต่อยากใช้ชีวิตให้สงบสุข เรื่องนี้ได้คุยกับครอบครัวและคิดว่าพอแล้ว”
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคพลังประชารัฐจะแบ่งสัดส่วนโควตารัฐมนตรีกันคนละครึ่งหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ และคิดว่าเดี๋ยวตาอยู่เอาไปกิน เมื่อถามย้ำว่าที่พูดเช่นนี้จะเป็นพรรคจากฝ่ายค้านมาเสียบแทน รมว.เกษตรฯกล่าวว่า “ตาอยู่แถวนี้เอาไปกิน และไม่ใช่ตาอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาล”
ภูมิธรรมระบุ 3 บิ๊ก พปชร.ขอเคลียร์
ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการรองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงโผรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐว่า ให้พรรคพลังประชารัฐไปพูดคุยกันให้เสร็จสิ้น เนื่องจากก่อนหน้านี้มีคนของพรรคพลังประชารัฐโทร.มาประสานถึง 3 คน จึงขอให้พรรคพลังประชารัฐไปจัดการให้ชัดเจน
แจกเงิน ต้องเดินหน้า ก.ย.
ส่วนความชัดเจนนโยบายเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเลตนั้น นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า ขณะนี้ยังเชื่อว่าทันกรอบเวลาเดิม ตอนนี้ต้องมองว่าทันไว้ก่อน และยังไม่มีการทบทวนเรื่องปฏิทินงบประมาณในส่วนของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เนื่องจากอยู่ระหว่างรอทูลเกล้าฯ ส่วน พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เป็นไปตามกระบวนการของสภา ซึ่งจะเข้าวาระ 2 และ 3 ในวันที่ 4-6 กันยายน
ส่วนหากรัฐบาลใหม่ที่เข้ามาต้องการที่จะเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเลตต่อ จำเป็นต้องใช้เงินให้ทันเดือนกันยายนนี้หรือไม่ นายเฉลิมพลยืนยันว่า ต้องใช้จ่ายให้ทันเดือนกันยายนนี้ แต่หากเข้าสู่กระบวนการใช้จ่ายเงินตามระเบียบภายในเดือนกันยายนสามารถใช้เป็นงบฯผูกพันได้
สามารถแจกเป็นเงินสดได้
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าจะเปลี่ยนการแจกเงินดิจิทัลวอลเลตเป็นแจกเงินสดแทน มีการเสนอมาถึงสำนักงบประมาณแล้วหรือไม่ นายเฉลิมพลระบุว่า “ยังไม่มี แต่สามารถทำได้ หากยังมีวัตถุประสงค์เดิม คือเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขึ้นอยู่กับรัฐบาลใหม่ที่จะพิจารณา แต่ต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการตั้งงบประมาณ”
ส่วนงบประมาณปี 2568 หากใช้เพื่อรับวิกฤตเศรษฐกิจตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอได้หรือไม่ นายเฉลิมพลยืนยันว่า ถ้ามีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจก็สามารถทำได้ แต่ต้องมาเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อปรับกรอบของโครงการที่ ครม.เคยเห็นชอบไว้เมื่อวันที่ 23 กันยายน
เมื่อถามว่า หากมีการปรับเงื่อนไขโครงการให้ใช้ได้เฉพาะส่วนเฉพาะที่ได้หรือไม่ นายเฉลิมพลระบุว่า โครงการนี้ยังไม่ได้อนุมัติอย่างเป็นทางการ แต่ ครม.ได้เห็นชอบกรอบโครงการและวงเงิน เพื่อให้สำนักงบประมาณมาตั้งงบประมาณ ดังนั้นเมื่อมีรัฐบาลชุดใหม่ จะต้องมีการจัดทำนโยบาย แต่ต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ได้ตั้งงบประมาณไว้ ซึ่งงบประมาณนี้ถูกตั้งวัตถุประสงค์ไว้กว้าง ๆ เพื่อใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และชื่อถูกกำหนดเป็นงบฯกลางไม่ใช่งบฯสำหรับดิจิทัลวอลเลต