“อิ๊งค์” กระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ดันต่อนโยบายเรือธง เพื่อไทย-เศรษฐา

แพทองธาร
คอลัมน์ : Politics policy people forum

เส้นทางของ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คนที่ 31 มีหลายนโยบาย หลายโปรเจ็กต์ที่รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ยังคงทำค้างอยู่ และ “แพทองธาร” ต้องเข้ามารับช่วงต่อ

เป็นภาระที่ไม่ใช่งานง่าย เพราะนโยบายเรือธงหลายนโยบาย ที่ “แพทองธาร” ต้องทำให้บรรลุเป้าหมายที่ประกาศไว้ รักษาคอนเซปต์ “คิดใหญ่..ทำเป็น”

ลุ้นปรับแผนแจก 10,000

นโยบายเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเลต เป็นนโยบายเรือธง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ในทางการเมืองรัฐบาลแพทองธารไม่อาจล้มเลิกโครงการได้ มีแต่ “ปรับแผน” ว่าจะบริหารจัดการอย่างไร

“แพทองธาร” กล่าวว่า การตั้งใจทำโครงการดิจิทัลวอลเลต คือการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของประเทศ แน่นอนว่าปีที่แล้วที่เราหาเสียงเลือกตั้งโดยใช้โครงการดิจิทัลวอลเลตนั้น เป็นโครงการที่เราศึกษาและสังเคราะห์นโยบายมาเป็นอย่างดีแล้ว แต่ในช่วงเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมามีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย สภาพเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไป เราจะต้องศึกษาและรับฟังความคิดเห็น แน่นอนว่าต้องอยู่ในกรอบพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วินัยการเงินการคลัง ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องทำต่อไป และรายละเอียดต้องมีความชัดเจน รวมถึงต้องรับฟังความคิดเห็นอย่างต่อเนื่อง ฉะนั้น ความตั้งใจนี้ยังต้องอยู่แน่นอน

ขณะที่สถานการณ์ของนโยบายเงินดิจิทัลวอลเลตขณะนี้ รัฐบาลเศรษฐาได้ประกาศให้คนมาลงทะเบียนร่วมโครงการผ่านแอป “ทางรัฐ” จนถึง 15 กันยายนนี้ ยังเหลือการลงทะเบียนร้านค้า ที่จะประกาศในเดือนกันยายน

แม้รัฐบาลจะประกาศตัวเลขคนเข้าร่วมโครงการ คาดว่าจะมีคนร่วมประมาณ 45 ล้านคน ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 450,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ปีงบประมาณ 2567 วงเงิน 122,000 ล้านบาท 2.ที่เหลืออีก 43,000 ล้านบาท เป็นการบริหารการคลังและบริหารจัดการเงินงบประมาณ ตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ 3.บริหารการคลังและการบริหารจัดการเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 วงเงิน 285,000 ล้านบาท

ADVERTISMENT

แต่แหล่งเงินดังกล่าวยังมีปัญหาด้าน “ข้อกฎหมาย” ในการใช้งบประมาณหลายเรื่อง ดังนั้น โครงการเติมเงิน 10,000 บาท อาจเป็นการ “ปรับแผน”

สานต่อนโยบายต่างประเทศ

รัฐบาลเศรษฐาเดินสายโรดโชว์ต่างประเทศ 14 ประเทศ 60 บริษัท

ADVERTISMENT

เร่งการลงทุน เน้นอุตสาหกรรมที่เป็นยุทธศาสตร์เพื่ออนาคต ทั้งผลิตรถ EV, Data Center, Semiconductor โดยบริษัทที่ไปหารือ อาทิ AWS-Amazon Web Service, Supernap, NextDC Ctral Data Center, Telehouse, Microsoft, Google

โดยเฉพาะบิ๊กเทคอย่าง Microsoft ซึ่งมีเรื่องเล่าว่า ยักษ์ใหญ่รายนี้กำลังจะตัดสินใจลงทุน Big Data ที่ประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อรัฐบาลเศรษฐารู้เข้าจึงเปิดเกมรุก บินข้ามโลกไปเจรจาถึงสำนักงานใหญ่ที่ Seattle ก่อนจะกลายเป็นภาพ การปิดดีลกับ Microsoft ในงาน “Microsoft Build AI Day Event เมื่อ 1 พฤษภาคม 2567

ขณะที่ Google อดีตนายกฯเศรษฐา ได้เปิดเผยผ่าน X (ทวิตเตอร์) ส่วนตัวเมื่อ 6 สิงหาคมว่า ทาง Google เข้ามาแสดงความขอบคุณที่ทางรัฐบาลช่วยดำเนินการเรื่องการปลดล็อกกฎระเบียบต่าง ๆ ให้เอื้อต่อการลงทุนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการซื้อไฟตรง (Direct PPA)

“นอกจากนี้ ประเด็นหลัก ๆ ที่เราได้พูดคุยกัน คือการเตรียมงานที่จะมีผู้บริหารระดับสูงจาก Google มาเยือนประเทศไทยในช่วงอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ เพื่อประกาศความร่วมมือต่าง ๆ มากมาย ซึ่งจะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีและเศรษฐกิจดิจิทัล”

การเดินสายดึงลงทุน ส่งผลให้มีมูลค่าการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ FDI ปี 2566 สูงถึง 8.5 แสนล้าน ปรับเพิ่มขึ้น 72% เฉพาะไตรมาส 4 ของปี 2566 ปรับเพิ่มขึ้น 145% เทียบกับไตรมาส 4 ของปี 2565

แลนด์บริดจ์ อยู่ในขั้นศึกษา

โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ และเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (ชุมพร-ระนอง) หรือ “โครงการแลนด์บริดจ์” โปรเจ็กต์ 1 ล้านล้านบาท เป็นนโยบายเฉพาะของรัฐบาลเศรษฐา ที่ดึงนักลงทุนทั้งโลกมาร่วมลงทุนกับโครงการนี้ ทั้งเอกชนจากจีน-ดูไบ ถึงขั้นมาศึกษาความเป็นไปได้โครงการ ทั้งนี้มีการประเมินว่าจะเปิดประกวดราคาช่วงปลายปี 2568 หรือไม่เกินต้นปี 2569

เดินคู่ขนานระหว่างการจัดทำกฎหมาย ร่างพระราชบัญญัติเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ โดยมี 4 จังหวัดคือ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ชุมพร ระนอง

เป้าหมายเดิมคือ ร่างกฎหมายดังกล่าวจะนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ในเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2567 แต่ขึ้นอยู่กับรัฐบาลแพทองธารจะเดินหน้าอย่างไรต่อ

กาสิโน เคลียร์ศึกพรรคร่วม

กลายเป็นเรื่องราวก่อนรัฐบาลเศรษฐาหมดอำนาจ เพราะคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อพรรคภูมิใจไทย ประกาศค้านโครงการ Entertainment Complex หรือกาสิโนถูกกฎหมาย ที่ตั้งไข่รัฐบาลเศรษฐา ซึ่งความคืบหน้าล่าสุด ร่างกฎหมาย (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ…. เพิ่งครบกำหนด การรับฟังความคิดเห็นในเว็บไซต์กฎหมายกลางของรัฐบาล ก่อนที่คณะกรรมการกฤษฎีกาจะนำไปพิจารณาก่อนเข้าสู่ที่ประชุม ครม. แต่บังเอิญว่ารัฐบาลเศรษฐาพ้นไปก่อน

จึงขึ้นกับรัฐบาลแพทองธารจะเดินหน้าอย่างไร เมื่อพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคภูมิใจไทยเห็นค้าน

รถไฟฟ้า 3 สนามบิน 3 รัฐบาล

ขณะที่รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ที่ยืดเยื้อมา 3 รัฐบาล ตั้งแต่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ รัฐบาลเศรษฐา และเข้าสู่รัฐบาลแพทองธาร หลังจากลงนามสัญญาร่วมลงทุนเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2562 แต่ต้องเจอกับการระบาดของโควิด-19 ทำให้การดำเนินโครงการต้องล่าช้าออกไป จนรัฐบาลประยุทธ์ต้องแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนมาแล้ว 2 ครั้ง และล่าสุด 23 พฤษภาคม 2567 ที่ประชุมคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (บอร์ด ร.ฟ.ท.) เห็นชอบที่จะแก้ไขสัญญาให้ เอเชีย เอรา วัน อีกครั้ง ตามกำหนดเดิม คาดว่าจะนำเข้าที่ประชุม ครม.กันยายนนี้

นี่คือนโยบายเรือธงในยุครัฐบาลเก่า ที่รัฐบาลแพทองธารต้องสานต่อ

ยังไม่นับโปรเจ็กต์ซอฟต์พาวเวอร์ที่ “แพทองธาร” ควบคุมนโยบายนี้เองตั้งแต่ต้น ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ที่เธอเป็นรองประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ