
ภูมิธรรม ยันยังไม่ได้คุยกับ ปชป. ส่วน พปชร.ทวงหนังสือกรอกประวัติ “พัชรวาท” ขอให้ไปคุยกันในพรรคให้จบ ย้ำอำนาจสูงสุดเลือก รมต. เป็นของ “นายกฯ”
วันที่ 27 สิงหาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการทาบทามพรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลว่ายังไม่ได้มีการพูดคุยกันกับพรรคประชาธิปัตย์
เมื่อผู้สื่อข่าวถมว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่ามีการพูดคุยทาบทามเข้าร่วมรัฐบาลแล้ว แต่ยังรอหนังสือเชิญอย่างเป็นทางการ ขณะที่ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค บอกว่ายังไม่ได้คุย ซึ่ง นายภูมิธรรมบอกว่า ต้องไปทำให้ชัดเจนก่อน ตกลงคุยหรือไม่คุย
ส่วนเรื่องนี้ควรจะออกมาจากพรรคแกนนำรัฐบาล หรือให้พรรคประชาธิปัตย์ดีลเองนั้น ตนไม่ทราบ ขณะนี้เราขณะนี้เราดำเนินการ ตามที่ได้ตกลง ซึ่งตนได้พูดผ่านสื่อไปแล้ว ว่าให้พรรคต่าง ๆ ส่งตัวแทนไปยื่นที่ สำนักงานเลขาธิการ ครม. กับสำนักเลขาธิการกฤษฎีกา ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการไม่ได้มายื่นชื่อที่ตน
ดังนั้นทุกคนที่ยื่นมาก็ตามสภาพของแต่ละคน เนื่องจากการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ มีปัญหาที่ต้องใส่ใจในเรื่องรายละเอียด เพราะมีประเด็นจากการแต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน จึงอยากให้เผื่อรายชื่อไว้ เพราะไม่รู้ เติมว่าใครเป็นอะไร ให้เติมไว้ หากเกิดอะไรขึ้นก็สามารถเติมได้ เพราะหากเสนอชื่อมาพอดีแต่หากตรวจสอบแล้วหายไป 5 คน ก็ต้องมาเริ่มต้นกระบวนการใหม่ซึ่งต้องใช้เวลามาก
จากเมื่อก่อนใช้เวลาตรวจสอบ 3 วันก็น่าจะเรียบร้อย แต่ปัจจุบันต้องตรวจมากขึ้น ใช้เวลาเร็วสุดประมาณหนึ่งสัปดาห์ หรือมากกว่านั้นไม่เกินสองสัปดาห์ ดังนั้นเพื่อให้สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้โดยเร็ว พรรคเพื่อไทยก็ส่งรายชื่อไป เมื่อส่งไปแล้วถือเป็นดุลพินิจของนายกรัฐ
เมื่อถามว่า สัปดาห์หน้าจะเสร็จหรือไม่นั้น นายภูมิธรรมกล่าวว่า บอกไม่ได้ ต้องถามสำนักเลขาธิการ ครม. และสำนักเลขาธิการกฤษฎีกา ถ้ายังไม่ส่งชื่อมา เราก็จะดำเนินการต่อไม่ได้ ขึ้นอยู่กับสองหน่วยงานนี้
นายภูมิธรรมยังกล่าวถึงการส่งรายชื่อของแต่ละพรรค ว่าพรรคเพื่อไทยกำลังทยอยส่งรายชื่อ กระบวนการนี้ยังสามารถเพิ่มหรือลดรายชื่อได้ทั้งนั้น
ส่วนกรณีพรรคพลังประชารัฐส่งหนังสือทวงเอกสารกรอกประวัติให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ตนไม่ได้รับหนังสือฉบับนั้น ได้เห็นจากข่าวตนไม่ได้รับหนังสือฉบับนั้น ไม่รู้ว่าส่งไปทางไหน ตนไม่ทราบ เป็นเรื่องของพรรคพลังประชารัฐ ก็เหมือนกับพรรคการเมืองอื่น ที่สามารถลงมติได้และจะส่งหรือไม่ส่งรายชื่อก็เป็นเรื่องภายในของแต่ละพรรค หากชัดเจนเมื่อไหร่ก็ส่งรายชื่อ หากยังไม่ชัดเจนก็ยังเป็นประเด็นที่ค้างคาอยู่
เมื่อถามว่า มีการงัดกันเรื่องข้อกฎหมายอำนาจสูงสุด เรื่องนี้เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีหรืออำนาจของกฎหมายพรรคการเมือง นายภูมิธรรมกล่าวว่า การจัดตั้ง ครม. เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียว เพราะนายกรัฐมนตรีต้องเลือก ครม.เข้ามาร่วมงานให้เหมาะสม ต้องรับผิดชอบในฐานะเป็นนายกฯ
ดังนั้นมีสิทธิที่จะเสนอใครก็ได้ที่คิดว่าเหมาะสม แม้แต่ที่ส่งเข้ามาแล้วก็เจรจาคุยกันหากเห็นว่าไม่เหมาะสมก็เปลี่ยนแปลงได้ ขณะที่หลายเรื่องยังไม่ตกลงก็เปลี่ยนแปลงได้เช่นเดียวกัน ซึ่งการยกมือโหวตนายกรัฐมนตรีไม่ได้หมายความว่า มีตัวแทนใน ครม. พร้อมยกตัวอย่าง พรรคไทยสร้างไทย ที่ยกมือให้ 6 คน ก็ครั้งที่แล้วตอนโหวตเลือกนายกฯเศรษฐา ทวีสิน พรรคประชาธิปัตย์
ก็ยกมือให้ 19 คน ก็ไม่มีตัวแทนเข้าร่วม ครม. ดังนั้นไม่ใช่ประเด็น และนายกรัฐมนตรีมีสิทธิ จะเลือกว่ารัฐมนตรีพอแล้ว หรือยังไม่พอในระดับพรรคการเมืองที่มาร่วมกัน ก็อาจจะเลือกบุคลคลสำคัญ ๆ เหมือนในอดีต ที่เลือกนักกฎหมายหรือบุคคลที่มีความเชี่ยวในแต่ละด้าน นายกรัฐมนตรีก็สามารถเลือกคนกลางเข้ามาได้
และเมื่อถามย้ำ อาจจะเอาโควตารัฐมนตรีจากพรรคพลังประชารัฐ 2 ตำแหน่ง และพรรคเพื่อไทย 2 ตำแหน่ง นายภูมิธรรมบอกว่า ไม่ใช่ไม่มีโควตา คำว่าโควตาเราไปเรียกกันเอง ตามความเคยชิน มันไม่เป็นแบบนั้นแต่ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม
ส่วนนายกรัฐมนตรีจะต้องทำหนังสือชี้แจงพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ถือเป็นเรื่องของพรรคพลังประชารัฐจะพิจารณาและนำเสนอ ไม่มีอะไรบอกว่าต้องให้นายกฯตอบ ก่อนจะถามว่าหมายถึงนายกฯแพทองธารหรือนายกฯที่ปฏิบัติหน้าที่แทน พร้อมบอกด้วยว่า นายกฯแพทองธารยังไม่ได้เข้ามา ก็ต้องให้กระบวนการดำเนินไปตนซึ่งปฏิบัติหน้าที่ ก็พยายามทำให้กระบวนการจบครบถ้วน เพื่อนำให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา ส่วนจะเป็นใคร อยู่ที่นายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่า เอกสารส่งถึงนายกรัฐมนตรีแพทองธาร และในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี สามารถตอบแทนหรือยกหูโทร.ประสานพรรคพลังประชารัฐได้หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า สามารถทำได้ทุกอย่างในความเหมาะสมที่จะทำ พร้อมบอกว่าไม่มีถ้า อยู่ที่กระบวนการตรงนั้นว่าจะตัดสินใจอย่างไร แจ้งหรือไม่ในกระบวนการจัดตั้ง ครม. สามารถทำได้หมดไม่จำเป็นว่าคนโน้นหรือคนนี้ต้องเป็นคนแจ้ง
ซึ่งตนไม่มีอำนาจที่จะมาดำเนินการ แค่ได้รับมอบหมายให้มาประสานงาน จากนั้นก็จะเป็น นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เป็นผู้รู้ประสานกับเลขาธิการ ครม. ให้ช่วยประสาน และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ตำแหน่งของนายภูมิธรรม ในขณะนี้นิ่งแล้วหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ยังไม่ทราบ แต่ตนเพิ่งเขียนประวัติ จะได้เป็นหรือไม่ก็แล้วแต่ อยู่ที่พรรค
เมื่อถามว่าว่าที่รัฐมนตรีแต่ละคนกรอกประวัติแล้ว ยังไม่ทราบว่าจะได้อยู่กระทรวงใดใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า “ไม่ใช่ได้ตำแหน่งอะไร แต่จะได้เป็นรัฐมนตรีหรือเปล่ายังไม่รู้”