“บัญญัติ”ยก”เสนีย์ ปราโมช”นักประชาธิปไตย เปรียบ อดีตไม่เคยดูด ส.ส. เตือนใช้อำนาจบ้าคลั่ง ระวังถูกประชาชนล้ม

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นปาฐกถา ในหัวข้อ “วิสัยทัศน์ของ ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช ในมุมมองของคุณบัญญัติ บรรทัดฐาน” ในงานรำลึกศาสตราจารย์ ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช

โดยนายบัญญัติกล่าวตอนหนึ่งว่า สมัยการเลือกตั้งในสมัย ม.ร.ว.เสนีย์ พรรคประชาธิปัตย์ประสบความสำเร็จได้รับเลือกตั้งมากที่สุด และมีพรรคการเมืองเกิดขึ้นใหม่มากมายคล้ายๆ เวลานี้ ซึ่งการจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปด้วยควรทุลักทุเล และมีการต่อรองมาก เพราะ ม.ร.ว.เสนีย์ ไม่ยอมดูดเลย หากมีการต่อรองมากก็จะไม่เอา เพราะมองว่าหากเอาคนเหล่านี้มาร่วมรัฐบาลก็จะดูมัวซัว เพราะความซื่อสัตย์สุจริตจะได้รับการหัวเราะจากประชาชน โดเฉพาะสมคบกับคนโกง คนซื้อสิทธิขายเสียง โดย ม.ร.ว.เสนีย์ จึงยึดหลักรักษาศรัทธาของประชาชน ถือเป็นวิสัยทัศน์ทางการเมืองที่อยากย้ำกับทุกคน

นายบัญญัติกล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันในสมัยนั้นบรรยากาศการเมืองก็มีความสับสนอลเวง มีการต่อต้านจากกลุ่มกระบวนการต่างๆ อย่างรุนแรงมาก แต่ ม.ร.ว.เสนีย์ ย้ำว่า การเป็นรัฐบาล สิ่งสำคัญอย่าปล่อยให้คนไทยฆ่ากันเอง อย่างไรก็ตาม คิดว่า ม.ร.ว.เสนีย์ เป็นนักประชาธิปไตยที่ยึดในหลักการนี้มาโดยตลอด ซึ่งมองว่าสังคมทุกวันนี้ ผู้นำไม่จำเป็นต้องถึงขนาดขนาดตายเพื่อชาติ หรือเสียสละชีวิต เพียงแต่ควรทำในสิ่งที่ควรทำ อะไรที่เป็นข้อครหานินทาหรือดูไม่ดีก็อย่าทำ สังคมไทยจะเดินไปข้างหน้าได้ดี นอกจากนี้วิสัยทัศน์ของ ม.ร.ว.เสนีย์ มองการปกครองบ้านเมือง 3 วิธี คือ อำนาจ อามิส และอุดมการณ์ ซึ่งการเมืองที่มาด้วยอำนาจก็จะถูกโค่นล้มไปด้วยอำนาจ ส่วนอามิสใช้ไปก็ย่อมมีวันหมด จึงมีอุดมการณ์เท่านั้นที่ยั่งยืน

“การเมืองที่มาด้วยอำนาจ และถูกล้มด้วยอำนาจ ผมเห็นปรากฏการณ์แบบนี้ 6-7 ครั้ง ซึ่งการล้มอำนาจด้วยอำนาจนั่นเป็นเพราะใช้อำนาจทำลายตัวเอง มีอำนาจมากก็ใช้มาก คลั่งอำนาจ สุดท้ายเมื่อสังคมรู้ทัน ก็จะแพ้ภัยตัวเองไปไม่รอด เพราะประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่าอำนาจประชาชนล้มไปหลายคณะแล้ว” นายบัญญัติกล่าวและว่า ดังนั้นต้องยึดอุดมการณ์ตามระบอบประชาธิปไตย และอุดมคติบนความเท่าเทียมตามกระบวนการประชาธิปไตย ไม่ใช่เออเองแล้วทำทุกอย่างให้เบ็ดเสร็จ

 

ที่มา : มติชนออนไลน์