เปลี่ยนตัวนายกฯ เปิด scenario ใหม่ ชัยเกษม ไม่หนี…แต่ไม่วิ่งเข้าหาตำแหน่ง

ชัยเกษม
คอลัมน์ : Politics policy people forum

คล้ายกับเคราะห์ซ้ำกรรมซัด โหมเข้าใส่รัฐนาวาแพทองธาร ชินวัตร

นอกจากเกมการเมืองภายใน การตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) แพทองธาร 1/1 ปั่นป่วน อลหม่านที่สุดในยุครัฐบาลผสมเพื่อไทย

ซ้ำเติมด้วยปัญหาความมั่นคงภายในประเทศ กับเหตุความไม่สงบภาคใต้

ขนาบด้วยพิษคลิปเสียง ที่ต่อเนื่องจากการเมืองระหว่างประเทศไทย-กัมพูชา สงครามทั้งในยุโรป ตะวันออกกลาง และสงครามการค้า สะเทือนเศรษฐกิจปากท้องคนในชาติ

ยังมีเกมที่ สว.ยื่นให้องค์กรอิสระ ทั้งศาลรัฐธรรมนูญ และ ป.ป.ช. เอาผิด-ถอดถอน นายกฯ “แพทองธาร” ที่เป็นอีกชนวนระเบิด

จุดชนวนให้ “ขาประจำ” ฝ่ายตรงข้ามเพื่อไทยจัดชุมนุมใหญ่เมื่อ 28 มิถุนายน เติมกระแสกดดันให้นายกฯ ยุบสภา-ลาออก เพื่อเปลี่ยนตัวนายกฯ คนที่ 31

เปลี่ยนนายกฯ ลาออก-ยุบสภา

เมื่อสถานการณ์ทั้งหมดมารวมกัน สถานะของรัฐบาลแพทองธารอยู่ในสภาพ “นับถอยหลัง” คนในพรรคเพื่อไทยอ่านเกมรัฐบาล ยื้ออายุนานที่สุด ให้รัฐบาลเร่งสร้างผลงาน เพื่อเลือกตั้งในปี 2569

ADVERTISMENT

แต่ถ้าเกิดสภาพลากต่อไปไม่ไหว อาจจำต้องเปลี่ยนตัวนายกฯ ก็มีแคนดิเดตนายกฯ สำรองอีก 1 คน จึงมีภาพ “ชัยเกษม นิติสิริ” ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี 1 ใน 3 แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย โชว์วงสะวิงกอล์ฟ อวดความแข็งแรงในวัยใกล้ 77 ปี

หลังภาพ “ชัยเกษม” โชว์ความแข็งแรง ในวงการเมืองจึงมีการพูดถึงสูตรเปลี่ยนตัวนายกฯ

หนึ่ง “แพทองธาร” ลาออก เพื่อเลือกนายกฯ ใหม่จากบัญชีพรรคการเมือง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 159 ที่ต้องเลือกจากแคนดิเดตนายกฯ ในบัญชีพรรคการเมือง ที่มี สส.ในสภา 25 คน

นาทีนี้แคนดิเดตนายกฯ ในบัญชีพรรคการเมืองมี “ชัยเกษม นิติสิริ” แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” และ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” แคนดิเดตนายกฯ พรรครวมไทยสร้างชาติ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” แคนดิเดตนายกฯ พรรคประชาธิปัตย์ และ “อนุทิน ชาญวีรกูล” แคนดิเดตนายกฯ พรรคภูมิใจไทย

โดยบุคคลที่จะถูกเสนอชื่อชิงเก้าอี้นายกฯ ขั้นแรกจะต้องมีเสียงรับรองไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของ สส.ในสภาทั้งหมด ซึ่งขณะนี้มีอยู่ 495 คน คือ 50 เสียง

จากนั้นบุคคลที่จะได้รับการโหวตให้เป็นนายกฯ จะต้องได้รับเสียงโหวต “มากกว่ากึ่งหนึ่ง” ของ สส.ทั้งหมดในสภา ดังนั้น พรรครัฐบาลจะต้องรวบรวมเสียงให้ได้มากกว่า 248 เสียง

สอง สูตรยุบสภา โดยจะต้องมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการยุบสภา และนับจากนั้น 5 วัน คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะประกาศการเลือกตั้งใหม่ ไม่น้อยกว่า 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน

ชัยเกษม พร้อมนายกฯ

“ประชาชาติธุรกิจ” สนทนากับ “ชัยเกษม” แคนดิเดตนายกฯ 1 เดียวที่เหลืออยู่ของพรรคเพื่อไทย เขาตอบคำถามเรื่องภาพตีกอล์ฟที่ปรากฏออกมา สื่อนัยทางการเมืองอย่างไร ว่า

“ภาพที่ออกมาคงมีคนเอาไปเผยแพร่ ว่าผมแข็งแรงแล้วไปตีกอล์ฟได้ โรคที่เคยเป็นก็ไม่มีแล้ว คงมีบางคนอยากบอกว่าผมแข็งแรงแล้ว แต่ผมไม่รู้นะว่าทำไมมัน (รูป) ถึงออกไป ผมไม่ใช่คนเผยแพร่”

ส่วนกระแสข่าว “ชัยเกษม” อาจเป็นนายกฯ คนต่อไป หาก “แพทองธาร” เผชิญแรงต้านไม่ไหว เขาตอบว่า

เราอยู่กับการเมือง ถ้าเขามีคนที่เหมาะสมก็ทำไป อะไรไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับผมได้ ผมก็สบายใจ แต่ถ้าหาคนไม่ได้จริง ๆ ก็ต้องคุยกัน ว่าจะเอาอย่างไร

“ไม่ใช่เป้าประสงค์ของผม ผมอยู่เฉย ๆ ก็สบายแล้ว แต่ถ้ามีอะไรที่ผมช่วยได้ และผมก็ช่วยอยู่แล้วทุกที ไม่จำเป็นต้องให้ผมไปเป็นคนออกหน้าออกตาหรอก ออกหน้าออกตากลับไม่ดี เพราะจะเป็นเป้าให้คนมาไล่ตีผม”

ไม่หนี…แต่ไม่วิ่งเข้าหา

ดูเหนื่อยหน่ายการเมืองมากกว่าไหม ชัยเกษมตอบว่า “การเมืองเกี่ยวข้องกับหลายอย่าง บุคคลหลายพวก หลายกลุ่ม หลายหมู่ มีทั้งผู้หาผลประโยชน์ มีทั้งผู้ที่ทำเพื่อชาติบ้านเมือง ดังนั้น อะไรที่จะให้คิดเหมือนกัน ทำเหมือนกัน ก็ยากแล้ว จริง ๆ หลักผมเป็นคนที่นั่งดูเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นด้วยความดีใจบ้าง ด้วยความเสียใจบ้าง ด้วยความตกใจบ้าง ด้วยความห่วงใยบ้างว่าตกลงตายแล้วเว้ย ถ้ามาอย่างนี้บ้านเมืองจะเป็นอย่างไรต่อไป”

“ผมถึงบอก ถ้ามีความจำเป็นจริง ๆ ถ้าทำให้อะไรดีขึ้นก็ยินดี ไม่ยึดติดกับที่ใดที่หนึ่ง เพราะไม่มีผลประโยชน์อะไรที่ต้องไปอยู่ในการเมือง มีแต่เสียว ๆ ทุกวัน ตื่นเช้ามาก็ไม่รู้อะไรเกิดขึ้น”

“ลองสังเกตดูสิ คนที่ออกมาเป็นนักการเมืองมีใครได้รับคำชม 100% บ้าง แทบจะไม่มีเลย เพราะทำอะไรฝ่ายหนึ่งได้ ฝ่ายหนึ่งก็กระทบกระเทือน ฮึดฮัดกันไป ว่ากันไป แต่ถ้าเราดูเสียว่าเป็นเรื่องธรรมดาของการเมือง ถ้าจำเป็นต้องรับก็รับ (นายกฯ) ก็รับได้ ผมไม่ได้หนี แต่ไม่วิ่งเข้าไปหา”

รับ รัฐบาลอิ๊งค์ไม่มั่นคง

ชัยเกษมกล่าวต่อว่า “เรื่องการเป็นแคนดิเดตนายกฯ ผมไม่ตั้งเงื่อนไข ก็ตั้งเอาไว้ เผื่อมีอะไรเกิดขึ้น จะได้ไม่ต้องเที่ยววิ่งหาอะไรคนนั้นคนนี้ไหม แต่ผมไม่ว่าเลยถ้าถึงเวลาแล้วคุณจะไม่เอาผม ไปเอาคนอื่นมาผมก็ชอบใจกว่าอีก เพราะผมมีวิธีใช้ชีวิตที่มีความสุขอยู่แล้ว นี่ก็เหมือนกัน อีกวันก็อาจต้องมีการเปลี่ยนแปลงอีกก็ได้”

พูดเป็นนัยว่าจะต้องมารับหน้าที่นายกฯ หรือเปล่า ? “ชัยเกษม” ตอบทันทีว่า “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก แต่เราก็มองเห็นอยู่ว่ายังไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่นัก…รัฐบาลยังเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ การเปลี่ยนแปลงโดยมีหลัก มีเกณฑ์ก็ให้เปลี่ยนไปเถอะ ไม่ว่าผม หรือเป็นใคร เราไม่ได้ขึ้นมาเหมือนการปฏิวัติอย่างนั้น อยู่จนไม่รู้ว่าจะไปเมื่อไหร่”

ร่างกายพร้อม

ชัยเกษมเล่าถึงการฟิตร่างกายตัวเองว่า “ผมออกกำลังกายกับเทรนเนอร์ เขาก็จะแนะนำอันนี้ ออกกำลังกายแขน หัวเข่า หลัง ไหล่ ใช้เวลาไม่มาก รวม ๆ แล้ว 40-50 นาที ได้ออกกำลังกายทุกส่วนของร่างกาย ผมทำเป็นประจำ มันดีจริง ๆ ไม่งั้น วัน ๆ นั่ง ๆ นอน ๆ ดูทีวี คิดถึงเรื่องงาน คล้ายกับร่างกายไม่ฟื้นฟูเลยก็ไม่ดี แต่ตอนนี้ผมค่อนข้างยังโอเค เจ็บ ไข้ ได้ป่วย ไม่มี”

ในยุครัฐบาลเศรษฐาต่อเนื่องช่วงต้นของรัฐบาลแพทองธาร “ชัยเกษม” ถูกตั้งให้เป็นที่ปรึกษานายกฯ เขาบอกว่า

“ตอนหลังมาหลายเดือนผมแทบไม่มี แต่ก่อนอย่างน้อยก็ไปประชุมเดือนละครั้ง สองครั้ง แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรที่ชัดเจน ไม่ได้ตั้งผมไปอยู่ในคณะอะไร เขาก็บริหารกันไปในกลุ่มที่เขากำลังมีอำนาจอยู่ตอนนี้ ตราบใดเดินไปได้ก็ไม่มีปัญหาอะไร”

“ส่วนจะมีอะไรที่สวิงสวาย หรือทำให้ดูดีขึ้นมาเร็วหน่อยก็อาจจะยากนิดหนึ่ง เพราะคุยอยู่กับคนกลุ่มเดิม ๆ กลุ่มคนเก่า ๆ ที่ชินอยู่กันแล้วกับลักษณะนี้ แต่อยู่ไม่ได้หรอก อย่างไรก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงต่อไป”

“ผมอยากให้มีการปรับปรุง คนที่มีอำนาจดูแลบ้านเมืองในการบริหาร หันมาดูสักนิดนึงว่าบ้านเมืองโอเคไหม ต้องการการเปลี่ยนแปลง การเจริญเติบโตด้านไหน อย่างไร ก็จะทำให้บ้านเมืองดีขึ้นได้”

“แต่ต้องทำจริงจัง และได้รับความร่วมมือจากคนที่ทำงานให้ คือข้าราชการทั้งหลาย ต้องเห็นว่าถึงแม้รัฐบาลนี้ไม่ใช่รัฐบาลที่ปฏิวัติมา ไม่ใช่รัฐบาลที่ดูเหมือนมีอำนาจเหนือฟ้า เหนือดิน แต่ถ้าเขามุ่งมั่นปรารถนาที่จะทำให้ประเทศชาติดี ผมเชื่อว่าคนก็อยากให้เป็นอย่างรัฐบาลต้องการ ทำให้อะไร ๆ ดีขึ้นได้”