“เพื่อไทย” ทิ้งโค้ง “หวยบำเหน็จ” ใบละ 50 ถูก…ได้รางวัล ชวด…เงินไม่หาย สะสมไว้ใช้ตอนแก่

7 วันสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง

พรรคเพื่อไทย ที่มี “เจ๊หน่อย-คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” เป็นหัวหน้าทีมยุทธศาสตร์เลือกตั้ง ทิ้งโค้ง 7 วันสุดท้าย ด้วยการเปิดแคมเปญ “หวยบำเหน็จ”

เป็นภาคต่อของ “หวยบนดิน” สมัยพรรคไทยรักไทย เจ้าของต้นตำหรับดั้งเดิม

เพื่อไทย ยิงคลิปโฆษณา “หวยบำเหน็จ” ลงบนโซเชียลมีเดียรัวๆ มีเสียงพากษ์เป็นสำเนียงถิ่นทั้งเหนือ กลาง อีสาน และภาคใต้ ตั้งใจเปิดแคมเปญในวันหวยออกพอดิบ-พอดี ไม่แคร์ว่าจะตรงกับวันเลือกตั้งล่วงหน้าที่คนตัดสินใจ “กาบัตร” ไปแล้ว

“แม่ทัพสุดารัตน์” กล่าวถึง “หวยบำเหน็จ” ว่า เป็นการส่งเสริมการออม วิถีชีวิตคนไทยชอบสลากกินแบ่ง ได้ลุ้น มีความสุขเดือนละ 2 ครั้ง จึงพัฒนาดู โดยเอาความชอบ ความสุขเล็กๆ น้อยๆ ของชาวบ้านมาประกอบกับการออมด้วยการซื้อสลากบำเหน็จเดือนละ 1 ครั้ง

“สามารถซื้อได้ทุกเดือน และเงินไม่หายไปไหน ไม่เหมือนกับซื้อลอตเตอรี่ที่เงินหายไปเลย แต่หวยบำเหน็จเงินไม่หาย มีเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว เดือนละ 1 ครั้ง รางวัลคล้ายลอตเตอรี่ เพื่อชวนการออม เดือนนี้มีเงินเหลือเยอะอาจซื้อเยอะ เดือนหน้าซื้อน้อยไม่เป็นอะไร เหมือนตั้งใจออมเงิน ถือว่าเงินไม่สูญสักบาท คนไทยซื้อลอตเตอรี่ 2 แสนล้าน ถ้าแบ่งมาซื้อหวยบำเหน็จ 100,000 ล้าน ก็ไม่ใช่เงินของรัฐแต่เป็นเงินออมของชาวบ้าน ระหว่างทางได้รับรางวัน และได้รับดอกเบี้ย สมมติซื้อมาทั้งชีวิตต่อคน 5 หมื่นบาท พออายุครบ 60 ปี รับต้นคืนพร้อมดอกเบี้ยและมีปันผลให้”

ด้านประธานฝ่ายกฎหมายพรรค “ชูศักดิ์ ศิรินิล” ไขคำตอบวิธีการทำ “หวยบำเหน็จ” ว่า ปัจจุบันมีกองสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ออกลอตเตอรี่เป็นงวด อีกประเภทหนึ่งมีธนาคารกองสินที่ออกสลากออมสิน ซึ่งออกสลากเป็นงวดๆ เหมือนกัน ถ้างวดไหนถูกก็ไปรับสตางค์ โดยสลากนั้นยังมีอยู่ พอครบกำหนดก็มารับเงินคืนไปพร้อมทั้งดอกเบี้ย

หวยบำเหน็จที่เพื่อไทยคิด จะนอกเหนือจากนี้ นอกจากซื้อแบบลอตเตอรี่ที่ซื้อแบบเงินหมดแล้วหมดเลย ก็ซื้อแบบประชาชนคนหนึ่งซื้อไปโดยระบุว่าใครเป็นคนซื้อ ซื้อเมื่อไหร่ ซื้อเท่าไหร่ ออกเดือนละหนึ่งครั้งในการออกหวยประเภทนี้ ถ้าหากถูกรางวัลเงินก็รับเงิน และเงินก็จะอยู่ในกองทุน จะมีการตราเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยธนาคารออมสิน เพื่อออกสลากประเภทนี้

และยังมีกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ที่ประชาชนส่งเงิน 50 บาท และรัฐให้สมทบ แต่ กอช.นั้น ประชาชนจะต้องมีอายุไม่เกิน 60 ปี ไม่มีชื่ออยู่ในกองทุนบำเหน็จบำนาญ หรือ กองทุนสวัสดิการแห่งรัฐประเภทอื่นๆ เท่ากับ เงินนี้จาก “หวยบำเหน็จ” จะเข้าไปอยู่ กอช.ประเภทหนึ่ง แน่นอนว่าจะต้องแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายนั้นๆ เพื่ออนุญาตให้ทำสลากประเภทนี้ได้ แล้วรัฐก็เก็บเงินมาเปนกองทุนโดยมีหน่วยงานซึ่งอาจเป็นธนาคารออมสิน ร่วมกับ กอช.ร่วมกันบริหาร

“โดยสรุป คิดมาแล้ว รอบคอบแล้ว เพื่อไทยทำได้ และทำได้แน่ แต่ประชาชนต้องคิดให้ได้ว่านี่คือการออมไว้ใช้ตอนแก่ เงินซื้อลอตเตอรี่แต่ละงวดซื้อไปแล้วสูญเปล่า แต่หวยบำเหน็จซื้อแล้วไม่สูญ รอซื้อตอนพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล” ชูศักดิ์ ระบุ

ต่อไปนี้คือ “ผลลัพธ์-เงื่อนไข” ของหวยบำเหน็จ แคมเปญโค้งสุดท้ายของเพื่อไทย

1.ขายสลากการออมแห่งชาติ ซึ่งจูงใจให้เกิดการออมด้วยรางวัลเหมือนสลากกินแบ่งรัฐบาล แต่จะเอาใบสลากไปฝากเข้าบัญชีฝากระยะยาวได้ จะได้เงินต้นค่าสลากกลับคืนครบทุกบาทพร้อมดอกเบี้ยเมื่ออายุครบ 60 ปี / สำหรับผู้ที่อายุมากกว่า 60 ปี ถ้าซื้อแล้วจะได้เงินสะสมเป็นเงินช่วยฌาปนกิจศพ ได้เงินคืนทุกบาทเมื่อเสียชีวิต

2.เงินซื้อหวยของคนไทยถึงปีละ 2.5 แสนล้านบาท นโยบายนี้จะทำให้เงินจำนวนนี้ส่วนหนึ่ง กลับเป็นเงินออมใช้ในวัยชราของผู้สูงอายุ

3.คาดการณ์เงินออมจากสลากเงินออมแห่งชาติ แบบคาดการณ์น้อยที่สุดไว้ ต่อปี 12,000 ล้านบาท

4.รัฐบาลจะแยกเงินนี้ไว้เป็นเงินออมของประชาชนนำใส่เข้าไปในกองทุนการออมแห่งชาติ

5.เงินรางวัลและค่าดำเนินการต่างๆ เช่นค่าพิมพ์สลากได้จาก ผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนการออมแห่งชาติ ประมาณการที่ 4% โดยเงินรางวัลคิดจาก 50% ของกำไรกองทุน ส่วนที่เหลือเป็นค่าดำเนินการ และส่วนที่ใส่เงินหนุนเข้าไปในกองทุนการออมแห่งชาติ

6.ราคาสลากสามารถซื้อได้ที่ใบละ 50 บาท รางวัลต่องวดใกล้เคียงกับสลากออมสิน

7. ถ้าไม่ถูกรางวัล สามารถไปฝากได้ที่ธนาคารออมสินและ/หรือธนาคารกรุงไทย จะมีตัวเลขเงินที่ฝากไว้ขึ้นในสมุดบัญชี เชื่อมกับระบบ myID หรือพร้อมเพย์ ที่จะบันทึกไว้ในเลขประจำตัวประชาชนของทุกคน นับจำนวนสลากเป็นหนึ่งหน่วยลงทุน

8. จะมีสลากขายเหมือนสลากกินแบ่งรัฐบาลทั่วไป ถ้าถูกรางวัลขึ้นเงินได้ทันทีเหมือนสลากกินแบ่งรัฐบาลทั่วไป

9.เมื่ออายุ 60 ปี ให้นำสมุดบัญชี และบัตรประชาชนไปถอนเงินออกมาได้ที่ธนาคารออมสินและ/หรือธนาคารกรุงไทย

10.เมื่ออายุ 60 จะถอนเงินได้เท่าราคาสลากที่ซื้อไว้ทั้งหมด โดยจะมีผลตอบแทนตามมูลค่าผลตอบแทนของกองทุน คูณจำนวนหน่วยสลากการออมที่ซื้อไว้

11.คนอายุเกิน 60 สามารถซื้อได้โดยสลากที่นำมาฝากธนาคาร จะกลายเป็นเงินช่วยฌาปนกิจแทน จะเบิกได้เมื่อเสียชีวิต เพื่อให้นำมาใช้เป็นค่าฌาปนกิจ หรือเป็นมรดกแก่ลูกหลาน


ด้าน “ภูมิธรรม เวชยชัย” เลขาธิการพรรค บอกสรุปว่า แคมเปญนี้แสดงให้เห็นว่า “เพื่อไทย” บริหารจัดการเป็น….และเป็นนักบริหารจัดการมืออาชีพ