รายงานข่าวจากพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาลว่า ล่าสุด แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ได้นัดพูดคุยกับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ภายหลังจากที่มีคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ทันที เพื่อเจรจาเกี่ยวกับการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีในเบื้องต้น โดยแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ได้รับข้อเสนอที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องการเข้ามาร่วมดูแลกระทรวงสำคัญ ทั้งด้านเศรษฐกิจและกระทรวงที่จะสร้างผลงาน สร้างคะแนนนิยมในการเลือกตั้งครั้งหน้า ได้แก่ กระทรวงการคลัง กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นไปตามโควต้าที่แบ่งให้กับพรรคร่วมรัฐบาล โดยพรรคพลังประชารัฐ 15 ตำแหน่ง พรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย พรรคละ 7 ตำแหน่ง พรรคชาติไทยพัฒนา 2 ตำแหน่ง นอกจากนี้ก็จะเกลี่ยให้กับพรรคที่ร่วมรัฐบาล
ล่าสุด ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ ยังคงยืนยันที่จะดูแลกระทรวงด้านเศรษฐกิจ กระทรวงด้านความมั่นคง แม้จะมีกระแสข่าวสกัดไม่เอา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เข้ามาคุมกระทรวงกลาโหม ก็ตาม แต่ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ยังไว้วางใจที่จะให้ พล.อ.ประวิตร ดูและกระทรวงกลาโหมอีกครั้งหนึ่ง ขณะเดียวก็วางตัว พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อยู่ที่กระทรวงมหาดไทย เช่นเดิม ส่วนให้ตำแหน่ง รมช.เป็นของพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
สำหรับกระทรวงเศรษฐกิจ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ยังยืนยันที่จะดูแลกระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ โดยเปิดให้พรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิไทย เข้ามาเป็น รมช. ส่วนกระทรวงเศรษฐกิจอื่นๆ ได้แก่ รมว.อุตสาหกรรม รมว.พลังงาน คาดว่าจะปล่อยให้กับพรรคร่วมรัฐบาลเข้ามาทำงาน
นอกจากนี้ก็ยังมีกระแสข่าวถึงการวางตัวบุคคลในกระทรวงต่างๆ ที่อาจให้พรรคร่วมรัฐบาล เข้ามารับผิดชอบ อาทิ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข
สำหรับกระทรวงที่เหลือจะมีการเกลี่ยในพรรคพลังประชารัฐ อาทิ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาตร์วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม เป็นต้น