“อุตตม” เทียบเชิญ ชาติไทยพัฒนา “สมศักดิ์” ทีเล่นทีจริง ยกเก้าอี้รองนายกฯให้ “ประภัตร” – “กาญจนา” ถ่อมตัว พรรคเล็กขอ 1 กระทรวงปากท้อง

แกนนำ พปชร.เข้าเทียบเชิญ ชทพ.ร่วมรัฐบาล ขณะ “กัญจนา” เรียกประชุม กก.บห.พรุ่งนี้ เคาะร่วมไม่ร่วม ระบุ เป็นพรรคเล็ก ขอดูแลหนึ่งกระทรวงลงลึกปากท้องรากหญ้า ด้าน “อุตตม” เตรียมหาโอกาสไปเชิญ ชนพ.ต่อ

นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ถือฤกษ์ 10.09 น. เดินทางมาเทียบเชิญ พรรคชาติไทยพัฒนา ร่วมจัดตั้งรัฐบาล ณ ที่ทำการพรรค โดยมีนายวราวุธ ศิลปอาชา ประธานยุทธศาสตร์พรรค นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรค ให้การต้อนรับ

ทันทีที่แกนนำพลังประชารัฐเดินทางมาถึง นายประภัตรได้จับมือทักทายกับทุกคน โดยนายสนธิรัตน์ พูดกับนายประภัตรว่า เดินทางมาตามสัญญาแล้วนะ ขณะที่นายประภัตร ได้ทักทายทุกคนที่เดินทางมา โดยเฉพาะเพื่อน ส.ส.เก่าอย่างนายสุริยะ และนายสมศักดิ์ ที่เดินเข้ามาโอบกอด ซึ่งผู้สื่อข่าวได้แอบแซวว่า ว่าที่ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะมาส่งเทียบเชิญนายประภัตรเป็นว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หรือไม่ นายสมศักดิ์ หันมาตอบผู้สื่อข่าวพร้อมอมยิ้ม และโอบไหล่นายประภัตรแล้ว พูดว่า คนนี้ต้องไปเป็นรองนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ได้รอต้อนรับแกนนำพรรคพลังประชารัฐอยู่ที่ห้องประชุมชั้น 4 ของที่ทำการพรรค โดยหลังจากทั้งสองฝ่ายหารือกันนาน 1 ชั่วโมง นายอุตตม ได้ร่วมแถลงข่าวกับ นางสาวกัญจนา

โดยนายอุตตม กล่าวว่า ตนและคณะมาเป็นผู้แทนของพรรคเพื่อมาเชิญพรรคชาติไทยพัฒนาร่วมจัดตั้งรัฐบาลอย่างเป็นทางการ พร้อมขอบคุณหัวหน้าและผู้บริหารพรรคให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ที่มาหารือถึงเรื่องสำคัญในแนวนโยบายของพรรคเพื่อนำไปขับเคลื่อนแก้ปัญหาให้กับประชาชนรวมถึงแนวทางการทำงานร่วมกันให้ไปสู่เป้าหมาย ซึ่งนับว่าวันนี้เป็นเวลาสำคัญของทั้งสองพรรคที่จะได้หารืออย่างเป็นทางการ

ขณะที่นางสาวกัญจนา กราบขอบคุณผู้ใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐที่ให้เกียรติเชิญเข้าร่วมการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งพรรคจะนัดประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคพรุ่งนี้ เพื่อนำคำเชิญเข้าหารือโดยนำนโยบายทั้งสองพรรคที่จะต้องทำงานร่วมกันไปพูดคุยอย่างสร้างสรรค์ มีจุดยืนร่วมกัน ให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ส่วนจะมีคำตอบตกลงเข้าร่วมหรือไม่ขอให้รอมติจากที่ประชุมในวันพรุ่งนี้

นางสาวกัญจนา ยังปฏิเสธว่า ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องเก้าอี้รัฐมนตรี เป็นเพียงการหารือแนวนโยบายของพรรค ส่วนหลักเกณฑ์ที่จะตอบร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาลด้วยนั้น ขึ้นอยู่กับโอกาสในการทำงานที่ได้เห็นปัญหาของประชาชนว่า พรรคชาติไทยพัฒนาจะมีโอกาสขับเคลื่อนได้มากน้อยแค่ไหน ทั้งนี้ ไม่จำเป็นต้องรอประชาธิปัตย์ว่าจะมีคำตอบอย่างไร เพราะวันนี้อยู่พรรคนี้พรรคไหนพรรคนั้นส่วนจะต้องได้คำตอบก่อนที่โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่ก็ต้องก็ต้องขอคุยในวันพรุ่งนี้ก่อน

สำหรับเงื่อนไขในการสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น นางสาวกัญจนา กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับโอกาสในการขับเคลื่อนนโยบาย ทั้งนี้ ไม่ตอบว่า โอกาสที่ว่าหมายถึงการดูแลทรัพยากรธรรมชาติรวมถึงพืชผลทางการเกษตรหรือไม่

ส่วนท่าทีของพรรคชาติไทยพัฒนาก่อนหน้านี้ที่ดูเหมือนจะน้อยใจหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า ทุกอย่างมีขั้นตอน พรรคพลังประชารัฐในฐานะแกนหลักก็ต้องหารือและนำมาเรียนซึ่งวันนี้ ที่ตนมาก็รู้สึกอบอุ่น ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยดีไม่ได้รู้สึกว่าพรรคชาติไทยพัฒนาน้อยใจเลย ก่อนที่นางสาวกัญจนาจะระบุว่า อายุปูนนี้ไม่มีน้อยใจ น้อยใจแต่พ่อบรรหารเท่านั้น

นางสาวกัญจนา กล่าวอีกว่า วันนี้ไม่มีเจ้าบ่าวเจ้าสาว เป็นการมาเชื้อเชิญเท่านั้น ซึ่งวันนี้ก็ได้เตรียมกล้วยปิ้งเป็นของว่างเพื่อที่จะทำอะไรสำเร็จแบบกล้วยๆ ส่วนเงื่อนไขการเลือกนายกรัฐมนตรี เสียงจะต้องเกิน 250 เสียงหรือไม่ นางสาวกัญจนา กล่าวว่า ตามหลักการก็ประมาณนั้น นางสาวกัญจนา กล่าวอีกว่า พรรคเราพรรคเล็ก โอกาสก็น่าจะได้แค่กระทรวงเป็นหลักแค่กระทรวงเดียว ซึ่งอยากได้กระทรวงที่มีขอบข่ายกว้างขวางที่ลงลึกถึงรากหญ้ามากที่สุด นี่คือสิ่งที่ปรารถนา

เมื่อผู้สื่อข่าวถาม นายอุตตมว่าจะเดินทางไปพรรคชาติพัฒนาเพื่อเทียบเชิญต่อหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า ก็ต้องหาโอกาสไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการพูดคุยและหารือกับแกนนำพรรคพลังประชารัฐ เสร็จสิ้นแล้ว นางสาวกัญจนาและนายวราวุธ ได้ขึ้นไปยังห้องทำงาน ที่ชั้นสองของพรรคชาติไทยพัฒนา เพื่อจุดธูปไหว้ รูปของนายบรรหาร

โดยนายวราวุธ กล่าวถึงความรู้สึกของตัวเอง ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและตาแดง ว่า รู้สึกตื้นตันใจที่วันนี้ นางสาวกัญจนา พี่สาวและตน ได้ขับเคลื่อนพรรค ตามแนวทางของพ่อ วันนี้เป็นจุดเริ่มต้นการสานต่องาน และสานต่อนโยบายการทำงานของต่างๆของพ่อได้สำเร็จ ซึ่งเชื่อว่าพ่อคงจะมองเห็น.