“ดำรงค์” ลั่น ประกาศเป็นฝ่ายค้านอิสระ หลังพปชร.ไม่ชัดเจนให้ช่วยงาน

เมื่อเวลา 10.00น.ที่พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย นายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย พร้อมด้วยนายสันติภาพ อินทรพัฒน์ เลขาธิการพรรคฯให้สัมภาษ์ถึงการทบทวนจุดยืนในการเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)

นายดำรงค์ กล่าวว่า จุดประสงค์ของการตั้งพรรค คือดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมและป่า เราเป็นพรรคที่มีนโยบายเฉพาะเรื่องสิ่งแวดล้อม เมื่อพรรคพลังพปชร.เชิญให้ไปร่วมรัฐบาลเพื่อช่วยกันทำงานจึงตอบรับ เพราะเข้าใจว่าพรรคพปชร.จะรับผิดชอบดูแลกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเอง แต่จนถึงวันนี้ยังไม่ได้รับคำตอบจากพรรคพปชร.ไม่มีการติดต่อว่าจะให้ทำอะไรหรือมาขอนโยบายของพรรคเราไปพิจารณา เหมือนเป็นพรรคตกสำรวจ และอย่างที่เคยบอกว่าพรรคตนเป็นพรรคเฉพาะกิจจะให้ไปทำอย่างอื่น ยกตัวอย่างจะให้ไปอยู่กระทรวงวัฒนธรรมหรือที่ไหนคงไม่ได้ และวันนี้ทราบจากสื่อต่างๆว่าจะให้พรรคร่วมรัฐบาลมาดูแลกระทรวงดังกล่าวแล้ว จึงขอให้พรรคพปชร.แสดงท่าทีให้ชัดว่าจะให้พรรคตนมีส่วนร่วมในเรื่องสิ่งแวดล้อมด้วยหรือไม่

นายดำรงค์ กล่าวว่า พรรครักษ์ผืนป่าจะรอดูไปจนถึงวันที่นำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯ หากรัฐมนตรีเป็นชื่อของพรรคร่วมรัฐบาลไม่เปลี่ยนแปลง พรรครักษ์ผืนป่าก็จะประกาศตัวเป็นฝ่ายค้านอิสระ เรื่องใดรัฐบาลทำดีก็พร้อมยกมือสนับสนุน เรื่องใดออกนอกลู่นอกทางก็ไม่สนับสนุน เพราะคิดว่าเมื่อพรรคร่วมรัฐบาลมารับผิดชอบแล้ว เขาคงไม่นำนโยบายของพรรคอื่นไปดำเนินการแน่นอน และหากพรรคพปชร.จะเสนอให้ไปทำงานในส่วนของกรรมาธิการในสภาฯ ไปนั่งจับผิดคนนั้นคนนี้ คงไม่ตอบรับเพราะไม่มีประโยชน์อะไร

“ผมแถลงผ่านสื่อไปถึงพรรคพปชร.เพราะเขาไม่ติดต่อมา การที่มาร่วมงานเพราะคิดว่าพรรคพปชร.จะรับผิดชอบกระทรวงดังกล่าวเอง แต่ถ้าไปอยู่กับพรรคร่วม ผมจะเข้าไปทำงานได้อย่างไร เพราะจุดยืนผมมี ไปเชิญให้มาร่วมงานแล้วมาทิ้งขว้าง ผมจะไปอย่างไร ที่ประกาศอย่างนี้ ไม่ได้เรียกร้องเป็นรัฐมนตรี เพราะเข้าใจว่า 2เสียงของพรรคเป็นรัฐมนตรีไม่ได้ แต่ต้องการทำงานในกระทรวงทรัพยากรฯ มีส่วนเข้าไปผลักดันเรื่องป่า แก้ปัญหาส่วนรวมให้ชาติบ้านเมืองเท่านั้น และเข้าใจพรรคร่วมดีโดยมารยาทคงไม่มีใครนำนโยบายพรรคอื่นไปทำหรอก ผมไม่ได้มีปัญหาอะไรกับพรรคชาติไทยพัฒนา แต่ต้องการทำงานเท่านั้น หากพรรคชาติไทยพัฒนาบอกว่ามาทำงานร่วมกันได้ ก็พูดคุยกันได้ ไม่ได้โกรธเคืองอะไร แต่ถ้าสมมติให้ไปช่วยแล้วนั่งเฉยๆแล้วไปตบยุงจะไปทำไม ”นายดำรงค์ กล่าว

ด้านนายสันติภาพ กล่าวว่า การตัดสินใจเข้าร่วมกับพรรคพปชร.เพราะเชื่อว่านโยบายของพรรคจะได้รับการผลักดันให้เป็นรูปธรรม แก้ไขปัญหาคนกับป่า แต่หลังจากเลือกนายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้รับตำตอบจากพรรคพปชร.ว่านโยบายของพรรครักษ์ผืนป่าที่หาเสียงไว้กับประชาชนจะถูกนำไปปฎิบัติหรือไม่ พรรคจึงประชุมต้องทบทวนการเข้าร่วมรัฐบาล และไม่ได้หมายความว่าต้องการอำนาจรัฐ แต่ต้องการคำตอบที่ชัดเจนจากพรรคพปชร.ว่าจะให้พรรคเราดูแลอย่างไร ถ้าเราไม่ได้รับผิดชอบตรงนี้ จะให้ไปทำอะไร เพราะงานถนัดของเราคือ เรื่องป่าไม้

 

 

ที่มา มติชนออนไลน์