
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 3 มกราคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวในรายการ Government Weekly ถึงเรื่องการศึกษายุคใหม่พัฒนาเยาวชนไทย ตอนหนึ่งว่า ตนได้ไปเยี่ยมชมโรงเรียนบ้านภูดิน (มิตรผลอุปถัมภ์) อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ โรงเรียนร่วมพัฒนาต้นแบบ ศูนย์กลางบ่มเพาะการเรียนรู้ศตวรรษใหม่ด้วยตัวเองของชุมชน เป็นการศึกษาแบบประชารัฐ หรือโรงเรียนอ้อย ร่วมกับมิตรผล เป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการพัฒนาบุคลากรหลักสูตรการเรียนการสอนและงบประมาณ เพื่อขยายโอกาสโรงเรียนอ้อย หรือโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา ที่ขณะนี้มีอยู่ประมาณ 6 โรงเรียนที่ทำร่วมกับโรงงานน้ำตาลมิตรผล ทั้งนี้ ภาคเอกชนเมื่อทำธุรกิจอยู่ในชุมชนก็ต้องส่งเสริมประชาชนในพื้นที่ ทั้งให้ชาวไร่อ้อยและบุตรหลาน โดยสนับสนุนให้มีการเรียนการสอนทุกวิชาคณิตศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ เทคโนโลยียานยนต์ อุตสาหกรรม หัตถกรรม พลังงาน วิทยาศาสตร์ นวัตกรรม ศิลปศาสตร์
“โรงเรียนสอนให้ทุกคนเป็นคนดี เป็นเด็กดี เคารพผู้ใหญ่ กตัญญู สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ มารยาทในสังคมการใช้คำพูดคำจา การเชื่อฟังผู้ใหญ่ หากเขาใช้คำพูดในสิ่งที่ดีสิ่งที่ถูก ก็อย่าไปโต้เถียง อย่าคึกคะนอง และต่อไปขอให้เด็กๆ เขียนสมุดบันทึกความดี เช่น ช่วยงานบ้านพ่อแม่ หรือแม้แต่ทำความไม่ดีก็ต้องจดไว้ ต่อไปคราวหน้าจะได้ไม่ต้องทำ ขอให้รักคุณพ่อคุณแม่ให้มากๆ
- เปิดชื่อ 10 อันดับโรงเรียนดัง กทม. นักเรียนแห่สมัครสอบเข้า ม.1 สูงสุด
- โปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชการระดับสูงของ กทม. พ้นจากตำแหน่ง 2 ราย
- บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 12.5 ล้านคน ได้สิทธิลอตแรก รับเงินกี่บาท เช็กที่นี่
“ฝากบอกทุกคนว่าถ้าเราจะติติงกัน แล้วไม่ช่วยกันก็ไปไม่ได้ทุกวัน วันนี้ขอถือโอกาสที่ได้พบกับเด็กๆ ทุกคน ว่าทุกวันนี้กระทรวงศึกษาธิการกำลังทำเรื่องการเชื่อมต่อและการติดต่อโครงการอนาคตการศึกษา ต้องทำให้เรื่อง ‘คอนเน็กซ์ อีดี’ นี้เติบโตในวันหน้า ซึ่งขณะนี้มีในโรงเรียน 4,750 แห่งแล้วที่ได้ดำเนินการไป มีนักเรียนในโครงการเพิ่มเป็น 1.4 ล้านคน และที่เห็นได้ชัดคือโรงเรียนประชารัฐทุกวันนี้มีคะแนนโอเน็ตสูงขึ้น และวันหน้าจะมีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการนี้อีก 33 พันธมิตรองค์กร ซึ่งรัฐบาลจะจัดงบประมาณสนับสนุนกว่า 3,000 ล้านบาท หนังสือเรียนเข้าไปเถิด อย่าเพิ่งเบื่อ ต้องชอบและรักการเรียน ซึ่งรัฐบาลจะยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่างยั่งยืน เพื่อเดินหน้าไปสู่การศึกษาที่มีการพัฒนา ร่วมมือกับภาคเอกชน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นายกฯกล่าวว่า นายกฯขอฝากเด็กๆ อ่านหนังสือแล้วต้องรู้จักคิด วิเคราะห์ พ่อแม่ครูอาจารย์ต้องสนับสนุนการศึกษา เป็นครูแนวใหม่ เป็นนักเรียนแนวใหม่ เป็นผู้ปกครองแนวใหม่ ทุกคนต้องช่วยกัน การเรียนสมัยใหม่นี้มีความสำคัญ เมื่อเด็กทุกคนเกิดท่ามกลางโลกที่เจริญด้วยเทคโนโลยีก้าวเร็ว ก็ต้องก้าวให้ทัน และมีภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย และในโอกาสวันเด็กที่กำลังจะมาถึง ให้ทุกคนยึดคำขวัญที่นายกฯ ได้ให้ไว้ว่า “เด็กไทยยุคใหม่ รู้รัก สามัคคี รู้หน้าที่พลเมืองไทย” ซึ่งหน้าที่ของพลเมืองไทยคือต้องทำเพื่อคนอื่น เพื่อตัวเอง และเพื่อครอบครัว เพื่อแผ่นดิน เพื่อชาติ เราเป็นเด็กไทยยุคใหม่ ต้องรู้รักสามัคคีเป็นสิ่งสำคัญที่สุด