ปรับใหญ่ ครม. 15 กระทรวง “ประยุทธ์” ป่วน-จองโควตาทีมเศรษฐกิจ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.63 ถึงกระแสข่าวการปรับครม.ประยุทธ์ 2/2 ว่า “รัฐบาลยืนยันจะทำให้ดีที่สุด ให้สมกับที่ประชาชนไว้วางใจมาปีนี้ทั้งปีแล้ว เป็นรัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตยที่เราว่ากันเนี่ยนะ รัฐมนตรีที่มาจาก ส.ส. รัฐมนตรีที่เหมาะสม ที่นายกฯ ก็จำเป็นต้องมีในตรงนี้ด้วย อันนี้เป็นการพูดกันของการเมืองไป ผมไม่อยากให้การเมืองพันกันไปทั้งหมด แล้วบ้านเมืองเสียหาย ใครรับผิดชอบ ใครจะแก้ไหว ถ้าต่างประเทศเขาเชื่อไปด้วยยิ่งไปกันใหญ่”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปรับ ครม.ประยุทธ์ 2/2 คาดว่าจะมีการปรับหลังจากพรรคการเมืองหลายพรรคปรับโครงสร้างและผู้บริหารพรรคในเดือนกรกฎาคม ซึ่งกระทรวงที่อยู่ในการข่ายต้องปรับ-เปลี่ยน สลับตำแหน่ง ประกอบด้วย

1.รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) 2.กระทรวงการคลัง 3.กระทรวงพลังงาน 4.กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) 5.กระทรวงอุตสาหกรรม

6.กระทรวงต่างประเทศ 7.กระทรวงกลาโหม 8.กระทรวงแรงงาน 9.กระทรวงศึกษาธิการ 10.กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

11.กระทรวงมหาดไทย 12.กระทรวงคมนาคม 13.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 14.กระทรวงยุติธรรม และ 15.รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

สำหรับ ตำแหน่งรมว.พลังงาน ก่อนหน้านี้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ต้องการเข้ามาดำรงตำแหน่งรมว.พลังงานแทนนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ที่จะไม่ได้นั่งเป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ หลังการประชุมใหญ่วันที่ 27 มิ.ย.63

แต่ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ ได้ยึดคืนและเก็บไว้เป็นโควตากลางของนายกรัฐมนตรี โดยมีชื่อของนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร อดีตรมช.คมนาคมในยุครัฐบาลคสช.และ 1 ใน 6 คณะที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อยู่ในโผแคนดิเดต

เช่นเดียวกับ ตำแหน่งรมว.คลังและรองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด) มีชื่อคณะที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีอยู่ในโผ อาทิ นายปรีดี ดาวฉาย เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ และปิติ ตัณฑเกษม

รวมถึง ตำแหน่งรมว.ต่างประเทศ ของนายดอน ปรมัตถ์วินัย ที่เป็นตำแหน่งโควตาของนายกรัฐมนตรี แม้นายดอนจะถอดใจ เพราะไม่คุ้นชินกับแรงกดดัน-เกมการเมือง และตำแหน่งรมช.กลาโหม ของพล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล

ทั้งหมดเป็นอีกตำแหน่งที่พล.อ.ประยุทธ์จะเก็บไว้เป็นโควตานายกรัฐมนตรี-นายพลนอกราชการ ที่จะเกษียณอายุในเดือนกันยายนนี้

ส่วน ตำแหน่งรมช.คลัง ที่มีแคนดิเดต 2 คน คือ นายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท หลังการเปลี่ยนผู้บริหารพรรคจะนั่งเป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่ และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ขณะที่ ตำแหน่งรมว.แรงงาน หลังจาก ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน ลาออกจากหัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) และสมาชิกพรรคจึงขาลอย โดยรปช.ได้ส่งชื่อนายอเนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นรมว.แรงงานแทน-ทันทีที่มีการปรับครม.ประยุทธ์2/2

อย่างไรก็ตาม พรรคพลังประชารัฐ ได้ส่งชื่อนายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี-ประธานส.ส.พรรคในโควตาพรรคเป็นรมว.แรงงานอีกชื่อหนึ่ง โดยให้สลับเก้าอี้กับนายอเนกให้ไปดำรงตำแหน่งรมว.อว.แทน

ฝั่ง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ซึ่งขณะนี้มีความเคลื่อนไหวของ ส.ส.ภาคใต้และภาคเหนือเพื่อต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีในพรรค โดยเฉพาะกลุ่มภาคใต้-ภาคเหนือ และกลุ่มอดีต กปปส. ที่เคยสนับสนุนนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นหัวหน้าพรรค

โดยเฉพาะโควตาภาคเหนือ “แม่เลี้ยงติ๊ก” นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้ากลุ่มภาคเหนือ ที่ยกขบวนพบนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ถึงทำเนียบรัฐบาล

ทั้งนี้ ตำแหน่งที่อยู่ในโผถูกเขย่า คือ นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โควตาภาคเหนือ และคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ ผู้บริจาครายสำคัญของพรรค

ขณะที่โควตาภาคใต้ นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคและประธานยุทธศาสตร์ภาคใต้ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นัดส.ส.และอดีตส.ส.ภาคใต้กว่า 30 คน นัดหารือกันที่โรงแรมอนันตรา สาธร คืนนี้

โดยมีตำแหน่งโควตาภาคใต้ที่ต้องสลับสับเปลี่ยน คือ รมช.มหาดไทย ของนายนิพนธ์ บุญญามณี และรมช.คมนาคม ของนายถาวร เสนเนียม

นอกจากนี้ยังมีตำแหน่งรมว.เกษตรและสหกรณ์ ของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่อยู่ในดีลต่อรอง-แลกเปลี่ยนตำแหน่งกับพรรคพลังประชารัฐ กับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม

ส่วน ตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ของนายเทวัญ ลิปตพัลลภ โควตาจากพรรคชาติพัฒนา มีโอกาสถูกปรับออกเช่นกัน เพราะขณะนี้พรรคชาติพัฒนากลายเป็นพรรคที่มี ส.ส.จำนวนน้อยที่สุดเพียง 3 ที่นั่ง


มี พรรคพลังท้องถิ่นไท ของนายชัชวาลล์ คงอุดม หรือ “ชัชเตาปูน” เป็นตัวเลือกอันดับ 1 เพราะมี ส.ส.ในมือ 5 คน โดยจะส่ง “ลูกชาย” ชื่นชอบ คงอุดม เข้าประกวด