พรรคเพื่อไทย ตัดคะแนนก้าวไกล แพ้พลังประชารัฐ เลือกตั้งซ่อม 4 สนามรวด

กรุงศรีวิไล พปชร. ชนะเลือกตั้งซ่อม ก้าวไกล – เพื่อไทย แพ้รวด 4 สนาม

ในที่สุดการเลือกตั้งซ่อมเขต 5 สมุทรปราการ ก็ไม่พลิกความคาดหมาย หลังคะแนนอย่างไม่เป็นทางการนำคู่แข่งจากพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล

“พลังประชารัฐ” เข็น “กรุงศรีวิไล สุทินเผือก” ลงป้องกันแชมป์ เพราะเลือกตั้งในรอบแรกถูก กกต.แจกใบเหลืองข้อหา คนใกล้ชิดไปมอบพวงหรีดและเงินใส่ซองช่วยงานศพ 1,000 บาท

ด้วยแรงหนุนของ “บ้านใหญ่อัศวเหม” จึงทำให้ “กรุง” สามารถเก็บชัยชนะ – ป้องกันแชมป์เอาไว้ได้

คะแนนล่าสุด “สลิลทิพย์ สุขวัฒน์” จากเพื่อไทยมาเป็นอันดับสอง ส่วนอันดับสามที่เบียดกันมาอย่างสูสีคือ “อิศราวุธ ณ น่าน” จากก้าวไกล

เท่ากับว่าการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้เป็นการประกาศชัยชนะของบ้านใหญ่อัศวเหม ครอบครองสมุทรปราการ หลังจากต้องถอยการเมืองระดับชาติให้กับพรรคเพื่อไทย คือกลุ่มของ “สงคราม กิจเลิศไพโรจน์ วรชัย เหมาะ และประชา ประสพดี” ตั้งแต่พรรคพลังประชาชน มาถึงพรรคเพื่อไทย

สมุทรปราการมีเขตเลือกตั้งทั้งหมด 7 เขตเลือกตั้ง แต่ 5 ใน 7 เขต เป็นตัวแทนของ “บ้านใหญ่อัศวเหม” เขต 1 นายอัครวัฒน์ อัศวเหม ส.ส.เขต 2 นายยงยุทธ สุวรรณบุตร เขต 3 นางสาวภริม พูลเจริญ, เขต 5 นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก เขต 6 นายฐาปกรณ์ กุลเจริญ

ยกเว้น เขตเลือกตั้งที่ 7 “ไพลิน เทียนสุวรรณ” ผันไปอยู่กลุ่มวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล

ขณะที่เขตที่ “พลาดท่า” ในการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 คือเขตเลือกตั้งที่ 4 คือ “จาตุรนต์ นกขมิ้น” ที่แพ้ให้กับ “วุฒินันท์ บุญชู” ของอนาคตใหม่ อันเป็นพื้นที่เขตโรงงานของไทยซัมมิท ซึ่งเป็นเขตตระกูล “จึงรุ่งเรืองกิจ” ของ “ธนาธร” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ในขณะนั้น

“สลิลทิพย์” ที่เคยเป็นอดีต ส.ส.พื้นที่มาถึง 3 สมัย แต่ก็ไม่สามารถเบียดพรรคแกนนำรัฐบาลได้ กลายเป็นว่า พรรคเพื่อไทย แพ้เลือกตั้งซ่อมถึง 3 สนามติดต่อกัน ตั้งแต่เลือกตั้งซ่อม ขอนแก่น และเพชรบูรณ์ มาถึงสมุทรปราการ

ขณะที่พรรค “ก้าวไกล” ที่มี “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ถือธงนำ ประเดิมศึกเลือกตั้งครั้งแรกก็พลาดท่า

ส่วนพลังประชารัฐ แกนนำรัฐบาล เก็บชัยชนะเลือกตั้งซ่อม 4 นัดรวด ตั้งแต่ ขอนแก่น เพชรบูรณ์ ลำปาง และสมุทรปราการ

ย้อนกลับไปในการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 “กรุงศรีวิไล” ได้คะแนนมาเป็นอันดับหนึ่งด้วยคะแนน 41,745 คะแนน ทิ้งอันดับสองจากเพื่อไทย คือ “สลิลทิพย์ สุขวัฒน์” ด้วยคะแนน 33,007 คะแนน และอันดับที่ 3 คือ “ตรัยวรรธน์ อิ่มใจ” จากพรรคอนาคตใหม่ ได้ 31,430 คะแนน คะแนนห่างระหว่างอันดับแค่ 1 พันคะแนนเศษเท่านั้น

ก่อนหน้านี้ สนามเลือกตั้งซ่อมสมุทรปราการเขต 5 ถูกผู้สันทัดกรณีทางการเมือง วิเคราะห์ว่า หาก เพื่อไทย – ก้าวไกล จับมือกันเทคะแนนให้กัน หลีกทางกัน

ไม่หลีก – หลบทางให้กัน ต่างจากเลือกตั้งซ่อม 4 ครั้ง ทั้ง นครปฐม ขอนแก่น เพชรบูรณ์ ลำปาง ต่างหลีกทางให้กัน “กรุงศรีวิไล” แห่งพลังประชารัฐอาจหืดจับ

แต่เมื่อแกนนำ 2 พรรคฝ่ายค้าน ไม่ลดราวาศอก ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งซ่อมด้วยกันทั้ง 2 พรรค ภาพที่ออกมาจึงคะแนนตัดกันเอง

72 ชั่วโมงก่อนการเปิดหีบเลือกตั้งซ่อม “ภูมิธรรม เวชยชัย” นักการเมืองสายเหยี่ยวแห่งกลุ่มแคร์ และที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย วิเคราะห์สนามเลือกตั้งซ่อมเขต 5 ไว้ง่าย ๆ แต่ได้ใจความว่า

พลังประชารัฐ – เป็นศึกที่ “บ้านใหญ่อัศวเหม” แพ้ไม่ได้

เพื่อไทย – ต้องสู้สุดใจ เพราะไม่เช่นนั้นจะเป็นการแพ้ 3 สนามติด

ก้าวไกล – แพ้ไม่ได้ เพราะเป็นสนามแรก และต้องเดินหน้าทางการเมือง

ทั้ง 3 พรรค 2 ขั้ว จึงต้องฟัดกันแหลก

ทว่าผู้คว้าชนะชัยชนะหลังปิดหีบประจักษ์ต่อทุกสายตาแล้ว

ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยผลการเลือกตั้ง ส.ส.สมุทรปราการ เขตเลือกตั้งที่ 5 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 ส.ค. 2563 หลังปิดหีบเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ผลปรากฏว่า กรุงศรีวิไล สุทินเผือก ผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ ได้รับเลือกตั้ง 46,767 คะแนน

อันดับ 2 สลิลทิพย์ สุขวัฒน์ จากพรรคเพื่อไทย 21,540 คะแนน อันดับ 3 อิศราวุธ ณ น่าน พรรคก้าวไกล 19,977 คะแนน อันดับ 4 มานะ บุญนาค พรรคเสรีรวมไทย 8,905 คะแนน และ วราวุฒิ ทิมเมือง พรรคภราดรภาพ 513 คะแนน

ขณะที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีจำนวน 177,308 คน มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 103,194 คน หรือ 58.2% บัตรดี 97,682 ใบ หรือ 94.66% บัตรเสีย 2,203 ใบ หรือ 2.13% บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด จำนวน 3,309 ใบ หรือ 3.21%