เพนกวิน ยัน ถูกบังคับขึ้นรถ “ไมค์” ถูกใช้กำลัง สลบกว่า 40 นาที

“เพนกวิน” พริษฐ์ ชิวารักษ์ โพสต์ข้อความเล่าเรื่อง สิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเราเมื่อวาน ยันนอกเครื่องแบบใช้กำลังบังคับขึ้นรถ “ไมค์” สลบ นานกว่า 40 นาที

วันที่ 31 ตุลาคม 2563 นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก เล่าเรื่องสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนและพวก เมื่อวานนี้ ความว่า

สิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเราเมื่อวาน

ช่วงบ่ายแก่ ๆ ของเมื่อวานนี้ ศาลอาญารัชดามีคำสั่งให้ปล่อยตัวชั่วคราวผมและเพื่อนผู้ต้องขังทางการเมืองอีกสามคน ได้แก่ รุ้ง ไมค์ และหมอลำแบงค์ เป็นเหตุให้เราได้รับการปลดปล่อยหลักจากสิ้นอิสรภาพไปสิบหกวัน พวกเราผู้ต้องขังชายที่ถูกจองจำด้วยกันก้าวเท้าข้ามจากประตูเรือนจำเพื่อคืนสู่ขบวนการต่อสู้ ทว่า ก้าวยังไม่ทันพ้นประตูเรือนจำพิเศษกรุงเทพ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจนครบาลประชาชื่นมาจอดรอเราเพื่อจะอายัดตัวเราตามหมายจับของ สภ.เมืองนนทบุรี และ สภ.เมืองพระนครศรีอยุธยา

เราขอตรวจสอบว่าหมายจับดังกล่าวนั้นคือหมายจับอะไรอย่างไร เมื่อเราได้อ่านแล้วจึงพบว่าเป็นหมายจับที่เคยใช้จับพวกผมไปแล้ว และที่สำคัญคือในคดีตามหมายจับนั้น พนักงานสอบสวนก็ได้แจ้งข้อหาและสอบปากคำพวกผมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หมายจับนั้นจึงสิ้นผลไปแล้ว ไม่สามารถใช้จับผมได้อีกเพราะหมายจับหนึ่งใบใช้จับได้ครั้งเดียว จะใช้จับซ้ำไม่ได้

เจ้าหน้าที่จาก สน.ประชาชื่น พยายามหว่านล้อมเราให้ขึ้นรถขนผู้ต้องหาไปกับเจ้าหน้าที่ แต่เราปฏิเสธและได้ชี้แจงตามหลักกฎหมายให้เจ้าหน้าที่ทราบว่าการจับกุมไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และเราใช้สิทธิเรียกทนายความของเรา เมื่อทนายความของเรามาถึง ก็ได้อธิบายชี้แจงหลักกฎหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังเหมือนที่เราอธิบาย ทว่า ก็หาได้นำพาไม่ เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจก็อ้างข้าง ๆ คู ๆ แม้จะยอมรับแล้วว่าหมายจับที่จับไปแล้วไม่สามารถใช้จับได้อีก แต่ก็ต้องจับเพราะ “ปฏิบัติตามหน้าที่ตำรวจท้องที่”

เมื่อการเจรจายืดยาว เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เชิญให้ทนายความผมพูดคุยนอกประตูเรือนจำ เมื่อทนายความผมเดินออกไปสักพักหนึ่ง เราเรียกหาทนายความอีกครั้ง แต่คนที่ก้าวเดินมากลับเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ พวกเขาใช้กำลังบังคับให้เราขึ้นไปบนรถด้วยทุกวิถีทาง พวกเขาล็อกคอเรา จับแขนจับขาลากพวกเราขึ้นรถ โดยไม่ยอมแสดงตัวว่าเป็นตำรวจด้วยซ้ำ พวกเขาไม่ยอมแสดงบัตรเพื่อยืนยันว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และไม่แม้แต่จะเปิดเผยใบหน้าที่ซ่อนหลังหน้ากากอนามัยให้เราได้รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร

พี่ไมค์ถูกล็อกคออย่างแรงและมีการใช้กำลังหลายครั้งระหว่างจับตัวเราไปในรถ ซึ่งก็เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บไปพี่ไมค์สลบไปกว่าสี่สิบนาทีและยังต้องใส่เครื่องวัดคลื่นหัวใจจนถึงทุกวันนี้

ขณะนี้ผม รุ้ง และพี่ไมค์ยังรับการรักษาอยู่ในโรงพยาบาลพระราม 9 และเมื่อใดที่แพทย์อนุญาตให้ผมออกไป ที่แรกที่จะไปก็คือที่ชุมนุมอย่างแน่นอน และในส่วนของการจับกุมนอกกฎหมายและการทำร้ายเรานั้น เราไม่อาจจะปล่อยผ่านได้ เพื่อมิให้มาตรฐานการบังคับใช้กฎหมายในสังคมไทยตกต่ำไปยิ่งกว่านี้

แล้วพบกันครับ