“ภวัต เจริญปุระ” น้องชาย “ทราย เจริญปุระ” โพสต์ข้อความให้กำลังใจพี่สาว ก่อนพบตำรวจ สน.บางเขน วันนี้
วันที่ 21 ธันวาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานกรณี นางสาวอินทิรา เจริญปุระ หรือ “ทราย เจริญปุระ” นักแสดงสาวเจ้าของฉายา “แม่ยกแห่งชาติ” ได้รับหมายเรียกคดี 112 ให้ไป สน.บางเขน ในวันนี้ เวลา 10.00 น. ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
- สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ซีอีโอ “เอไอเอส” สละโสดในวัย 62 ปี
- กองทุนประกันวินาศภัยถังแตก แจ้งชะลอจ่ายคืนหนี้ตั้งแต่ มี.ค.2567
- เรือชนสะพานถล่มในสหรัฐ กระทบเศรษฐกิจ การขนส่งสินค้าเป็นอัมพาต
เมื่อคืนที่ผ่านมา น้องชายของ “ทราย” คือ นายภวัต เจริญปุระ หรือ ท็อฟฟี่ ได้โพสต์ข้อความให้กำลังใจพี่สาวผ่านทางเฟซบุ๊ก ดังนี้
นี่ถือว่าเป็นคนที่เกิดมาในบ้านที่มีดาราเยอะคนนึงในประเทศเลยนะ สัมผัสได้ถึงแสงไฟหน้าเซ็ทตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ เลยไม่ค่อยจะชอบวงการนี้ ไม่อยากเข้า ไม่อยากเป็นส่วนหนึ่ง แต่มันก็เลี่ยงไม่ได้เลยเพราะเลือดทุกหยด ไขมันทุกอนูในร่างกว่าจะโตมาได้ก็มาจากอาชีพของพ่อและพี่สาว
นี่รักพ่อมากนะ แต่ตอนเด็กๆไม่เคยชอบที่พ่อเป็นดาราเบอร์ต้น เป็นผู้กำกับมือฉมัง เพราะทุกครั้งที่จะไปกินข้าว ไปเที่ยว หรือใดๆก็ตาม จะต้องมีคนมาขอลายเซ็น มีสายตาคอยจับจ้องพร้อมปากที่มุบมิบๆประมาณว่า เฮ๊ย รุจน์ๆ ซึ่งก็เหมือนที่สมัยนี้เวลาเราเจอดาราหรือใครที่เราชื่นชอบ เราก็จะมีปฏิกิริยาไม่ต่าง
แต่ในโมเม๊นท์นั้น ตอนที่เป็นเด็ก คือมันไม่ใช่อ่ะ นี่คือพ่อกูไง คือทำไมต้องมาจ้องกันแบบนี้ด้วย ทำไมต้องมุบมิบๆ ปล่อยพวกกูเถอะ และทุกครั้งที่เวลาไปไหนด้วยกันก็มักจะเดินห่างๆพ่อ ยิ่งโตขึ้น ระยะห่างในเกินเดินด้วยกันก็จะยิ่งห่างมากขึ้น แต่ไม่เคยไม่รักพ่อเลย แค่อยากให้พ่อเป็นคนธรรมดาเวลาไปด้วยกันแค่นั้นแหละ…
ส่วนพี่ทราย สนิทมาก…
นี่คือคิดเองว่ากูสนิทนะ ไม่เคยถามเหมือนกันว่านางสนิทด้วยมั้ย 555 สนิทมากจนคิดว่ารู้ใจและรู้เท่าทันนางประมาณ 70%(ซึ่งการรู้เท่าทันคนบ้าอย่างนาง 70% คือเหมือนรู้ใจคนปกติ 150%) หลายๆอย่างไม่ต้องพูดก็รู้เลย ทำให้ได้หมดแค่เอ่ย…
รู้ว่านางเป็นคนแบบนี้(แบบที่ทุกคนเห็นในทุกวันนี้) มาตั้งแต่เริ่มเข้ามหาลัย คือเริ่มรู้ว่านางเป็นตัวของตัวเอง มีวินัย ตรงต่อเวลา(ซีเรียสมาก) และไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เป็นหรือความคิดของนางได้ถ้ามันไม่ส่งผลเป็นรูปธรรม เช่น ถ้าจะกินเบียก็จะกินให้เละ เตือนไปเถอะไม่ฟังหรอก แต่พอมันมีผลกระทบกับชีวิตจริงๆก็ยอมรับได้เองว่าแม่งไม่ไหวหว่ะ พังทุกภาคส่วน
ที่บ้านเวลามีอะไรจะพูดกันเลย เพราะไม่มีอะไรจะจริงไปกว่าความจริง การเอาความจริงมาคุยกันมันทำให้เรารู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไร รู้สึกยังไง แล้วเราควรไปต่อยังไง ช่วยกันแก้ไข และในท้ายสุดเราจะไม่ทะเลาะกันอีกด้วยเรื่องเดิมๆซ้ำซาก
วันที่พี่ทรายตัดสินใจเดินหน้าเรื่องการเรียกร้องต่างๆในสังคม กูว่าพี่กูโคตรเท่ห์เลย ทำเพื่อส่วนรวม ทำเพื่อคนที่เสียงเค้าไม่ดังพอ
แต่กูแม่งก็ขมขื่นทุกทีที่นึกย้อนกลับไปในวันที่พี่ทรายแม่งยืนตัวคนเดียวแล้วโดนคนด่า คนเกลียด ด้วยเหตุผลควายๆ ไร้ซึ่งการไตร่ตรองข้อมูล ข้อเท็จจริงต่างๆ ในวันนั้นใครที่จะยื่นมือมาปลอบมาช่วยพี่กูยังต้องโดนร่างแหไปด้วย เหมือนพี่กูเป็นตัวซวยก็ไม่ปาน
แต่พี่ทรายแม่งเฉยหว่ะ เฉยแบบ มึงนิ่งจังวะ แต่ก็นั่นแหละ เพราะนางเป็นของนางแบบนั้นอ่ะ คำว่าช่างแม่งจึงเป็นคำที่เราสองคนใช้กันบ่อยๆ
จนถึงช่วงปัจจุบันก็จะถามไถ่แทบทุกวัน ว่าเป็นไง ไหวมั้ย คำตอบก็เหมือนเดิม ชิว สบ๊าย อันไหนหนักหน่อยก็ ช่างแม่งไป
ทุกวันนี้พี่ทรายแม่งเหมือนหน่วยกามิกาเซ่ที่พร้อมจะบินไปเอาชีวิตเข้าแลกกับความเชื่อของตัวนาง
พี่ทรายบอกเสมอว่า นางไม่มีพ่อ แม่แล้ว ลูก ผัวไม่มี น้องๆก็มีชีวิตของตัวเองแล้ว มีแค่แมวตัวเดียวในชีวิตที่นางห่วง นอกเหนือจากนั้นนางไม่ยึดติดอะไรทั้งสิ้น
เคารพทุกการตัดสินใจของพี่ทราย เพราะบ้านเราสอนกันมาแบบนี้ว่าอยากได้อะไรก็ลงมือทำ ผลจะเป็นยังไงก็ต้องรับให้ได้เพราะเลือกเอง และคนในบ้านมีหน้าที่ช่วยกันดึง ช่วยกันประคองเวลาที่ผลมันออกมาไม่ดีอย่างที่คิดและสุดท้ายมันก็เป็นบทเรียนและทำให้เราแกร่ง
พรุ่งนี้เจอกันมึง…
นี่ถือว่าเป็นคนที่เกิดมาในบ้านที่มีดาราเยอะคนนึงในประเทศเลยนะ สัมผัสได้ถึงแสงไฟหน้าเซ็ทตั้งแต่อยู่ในท้องแม่…
โพสต์โดย Feezilla Coffee Tree เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม 2020
ขณะที่เจ้าตัวทวีตข้อความสั้น ๆ ว่า “อากาศดีจัด เหมาะแก่การไป สน.”