ธนาธร ขอโทษประชาชน “นายก อบจ.” แพ้เรียบ 42 จังหวัด

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ขอโทษประชาชน ผลเลือกตั้งนายกฯ อบจ. ไม่ได้ชัยชนะสักจังหวัด

วันที่ 21 ธันวาคม 2563 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า แถลงผลการเลือกตั้ง นายกฯ อบจ.ว่า ใน 42 จังหวัดที่ส่งตัวแทนเข้าแข่งขัน

“แต่เราไม่สามารถช่วงชิงตำแหน่ง นายก อบจ.ได้เลยสักจังหวัด พวกเราตั้งใจทำงาน และตระหนักเป็นอย่างยิ่งว่าแม้มีปัจจัยอื่นมากมาย แต่ปัจจัยสำคัญที่สุดคือการทำงานของพวกเราที่ยังทำงานไม่หนักพอ ไม่มีประสิทธิภาพมากพอ ขอโทษประชาชนที่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง แม้ว่าตำแหน่ง นายก อบจ.ไม่สามารถช่วงชิงมาได้ ซึ่งเราผิดหวังและเสียใจ แต่ไม่หมายความว่าเราไม่ประสบความสำเร็จใด ๆ เลย”

เราสามารถได้รับคะแนนทั้งหมด 2,670,798 คะแนน และนอกจากนี้ได้ช่วงชิงตำแหน่งสมาชิกสภาได้ อบจ. 57 คน ใน 20 จังหวัด และมีส่วนร่วมผลักดัน ขับเคลื่อนให้สังคมไทยได้รับรู้ความสำคัญ บทบาทหน้าที่ อบจ.

ธนาธร เปรียบเทียบ คะแนนเลือกตั้งปี 2562 ของพรรคอนาคตใหม่ ได้คะแนน 3,183,163 คะแนน จากผู้ใช้สิทธิ 19,629,451 คน กับ คะแนนเลือกตั้ง นายก อบจ.ของคณะก้าวหน้า 2,670,798 จากผู้ใช้สิทธิ 15,730,841 คน

“ดูจำนวนคะแนนเราได้รับคะแนนดิบน้อยลงจากการเลือกตั้งปี 2562 แต่เมื่อดูคะแนนเปอร์เซ็นต์ เราได้รับคะแนนนิยม 17% เทียบกับคะแนนนิยมของพรรคอนาคตใหม่ 16.2% คะแนนนิยม 1 ปีกว่าไม่ได้ลดลงเลย แต่เป็นที่รู้กันว่าคะแนนเลือกตั้ง นายก อบจ.ไม่มีการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร เลือกตั้งนอกเขต ผลคะแนนไม่ต่างกันเลย นอกจากคะแนนไม่ต่ำลงแล้ว ภายใต้ข้อจำกัดเช่นนี้  เรายังรักษาฐานคะแนนได้ถึง 17%”

นายธนาธร ตอบคำถามที่ว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ จะทำให้ส่งผลต่อคะแนนของพรรคก้าวไกล ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปหรือไม่ ว่า “ผลเลือกตั้ง คะแนนนิยมต่อพวกเราไม่ได้น้อยลงกว่าการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 คณะก้าวหน้าได้รับความนิยม 17% ส่วนจะส่งผลก้าวไกลหรือไม่ ปล่อยให้พรรคก้าวไกลคิดวิเคราะห์”

“แต่พวกเราจะสรุปบทเรียนจากการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะคะแนนต่าง ๆ ยังไม่เปิดเผยอย่างเป็นทางการชัดเจน และขอตั้งข้อสงสัยผู้จัดการเลือกตั้งในหลายหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งติดประกาศผลเลือกตั้งชั่วครู่ชั่วคราวและเอาออกไป ขอเรียกร้องเปิดผลการเลือกตั้งรายหน่วยทุกหน่วยทันที”

ส่วนคำถามที่ว่า ผลคะแนนออกมาแบบนี้เป็นเพราะ นายธนาธรและนายปิยบุตรพูดถึงปฏิรูปสถาบันหรือไม่ เขาตอบว่า…

“แน่นอนที่สุดปฏิเสธไม่ได้ที่สังคมไทย ยังมีคนที่รู้สึกเจ็บใจ ปวดใจ หากมีใครพูดถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ขณะเดียวกัน เราปฏิเสธข้อเท็จจริงที่มีคนจำนวนมากเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่ได้เช่นกัน ดังนั้น การพูดเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างตรงไปตรงมา โดยไม่มาดร้าย พยาบาท อธิบายถึงเหตุผลว่าการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์เท่านั้นที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันฯ กับประชาชน ผมเชื่อว่าการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ จะเป็นวิธีที่จะทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่คู่กับสังคมไทย อยู่คู่กับประชาธิปไตยได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน”

“ส่วนส่งผลกระทบต่อคะแนนพวกเราหรือไม่ ปฏิเสธไม่ได้อีกเช่นกัน มีผลกระทบแน่นอน แต่จะมากจะน้อยเท่าไหร่คงจะต้องประเมินกันในวันที่เราเห็นผลการเลือกตั้งรายหน่วยที่ชัดเจนมากกว่านี้ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ พวกเราถูกใส่ความ ถูกโจมตี อย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งภายใต้กฎหมายการเลือกตั้งเราไม่สามารถใช้สถาบันพระมหากษัตริย์มารณรงค์หาเสียงได้ ดังนั้น เราเหมือนถูกมัดมือชกอยู่ฝ่ายเดียวกับเรื่องนี้ในตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ไม่เป็นไรครับเราถือว่าเรายังอธิบายกับสังคมได้ไม่เพียงพอ เราขอโทษตัวเราเองที่เรายังอธิบายกับสังคมได้ไม่กระจ่างชัด หลังจากนี้จะทำงานเรื่องนี้ให้หนักขึ้น” นายธนาธรกล่าว