สุชาติ-คู่สมรส โอนหุ้น บมจ.อรินสิริ เข้า บลจ.3 แห่ง-ขอรับประโยชน์เกิน 5%

เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยสำเนาของสัญญาจัดการหุ้นส่วนหรือหุ้นของรัฐมนตรี ในรายของนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กรณีรัฐมนตรีประสงค์จะได้รับประโยชน์จากการเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทในส่วนที่เกินกว่า 5 %

โดยนายสุชาติได้โอนหุ้นบริษัท อรินสิริ แลนด์ จำกัด (มหาชน) จำนวนทั้งสิ้น 171,950,000 หุ้น ให้กับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จำนวน 2 บริษัท ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบัวหลวง จำกัด จำนวน 91,987,500 หุ้น และบริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) จำนวน 79,962,500 หุ้น

สำหรับสัญญาจัดการหุ้นส่วนหรือหุ้นของรัฐมนตรี ระหว่างนายสุชาติ ชมกลิ่น กับ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบัวหลวง จำกัด ทำขึ้นเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2563 โดยตกลงจะโอนกรรมสิทธิ์ในหุ้นส่วน และ/หรือ หุ้น รวม 91,987,500 หุ้น ประกอบด้วย 1.บริษัท อรินสิริ แลนด์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 42,987,500 หุ้น 2.บริษัท อรินสิริ แลนด์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 15,000,000 หุ้น และ 3.บริษัท อรินสิริ แลนด์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 34,000,000 หุ้น

ทั้งนี้ มูลค่าเงินลงทุนจะใช้ราคา ณ สิ้นวันทำการก่อนหน้าวันที่โอนหลักทรัพย์ และบริษัทจัดการจะทำการคำนวณมูลค่ายุติธรรมของหลักทรัพย์ทุกวันทำการ

สัญญาจัดการหุ้นส่วนหรือหุ้นของรัฐมนตรี ระหว่าง นายสุชาติ ชมกลิ่น และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) จัดทำขึ้นเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2563

หนังสือสัญญาโอนหุ้น นายสุชาติ-ผู้โอน ได้โอนหุ้น จำนวน 79,962,500 หุ้น ของบริษัท อรินสิริ แลนด์ จำกัด (มหาชน) แบ่งออกเป็น เลขที่ใบหุ้น 91330100000031 จำนวน 60,000,000 หุ้น และเลขที่ใบหุ้น 91330100000032 จำนวน 19,962,500 หุ้น ให้แก่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน)-ผู้รับโอน ในฐานะบริษัทจัดการหุ้นส่วนและหุ้นรัฐมนตรี

ขณะที่นางสาววิมลจิต อรินทมะพงษ์ คู่สมรส ทำสัญญาจัดการหุ้นส่วนหรือหุ้นของคู่สมรสรัฐมนตรี กับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เกียรตินาคินภัทร จำกัด เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2563 ตกลงโอนกรรมสิทธิ์ในหุ้นส่วน และ/หรือ หุ้น ประกอบด้วย 1.บริษัท อรินสิริ แลนด์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 130,000,000 หุ้น

2.บริษัท 99 กะรัต โฮเทล จำกัด จำนวน 8,000 หุ้น 3.บริษัท ร้านทอง 99 กะรัต จำกัด 46,500 หุ้น 4.บริษัท อรินสิริ ทาวน์ จำกัด 99,725 หุ้น 5.บริษัท ทริปเปิ้ล เอ็ม พลาซ่า จำกัด จำนวน 118,000 หุ้น

6.บริษัท เดอะ แคมปัส บางแสน จำกัด จำนวน 94,000 หุ้น 7.บริษัท บางแสน คอนโด จำกัด จำนวน 99,000 หุ้น 8.บริษัท 99 กะรัต ลิฟวิ่ง จำกัด จำนวน 98,000 หุ้น 9.บริษัท 99 กะรัต แลนด์ ทาวน์โฮม จำกัด จำนวน 90,000 หุ้น

10.บริษัท 99 กะรัต แลนด์ รีสอร์ท จำกัด จำนวน 284,999 หุ้น 11.บริษัท 99 กะรัต แลนด์ มาร์ค จำกัด จำนวน 398,900 หุ้น 12.บริษัท 99 กะรัต กรุ๊ป จำกัด จำนวน 135,000 หุ้น และ 13.บริษัท 99 กะรัต แลนด์ จำกัด จำนวน 166,000 หุ้น

ทั้งนี้ ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุภาพรวมข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 23 มีนาคม 2563 นายสุชาติ เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่บริษัท อรินสิริ แลนด์ จำกัด (มหาชน) ลำดับที่ 1 จำนวน 171,950,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 28.66 % ขณะที่น.ส.วิมลจิต อรินทมะพงษ์ เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ลำดับที่ 2 จำนวน 130,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 21.67 %

ดังนั้น นายสุชาติและน.ส.วิมลจิต-คู่สมรส จึงเป็นการโอนหุ้นทั้งหมดของบริษัท อรินสิริ แลนด์ จำกัด (มหาชน) ทั้งหมดให้กับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจำนวน 3 แห่งเป็นผู้ดูแล

อย่างไรก็ตาม ยังมีคนในสกุลชมกลิ่นปรากฎรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท อรินสิริ แลนด์ จำกัด (มหาชน) คือ ด.ช. พลัฎฐ์ ชมกลิ่น ผู้ถือหุ้นลำดับที่ 4 จำนวน 29,850,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 4.98 % และ นาย วิเชียร ชมกลิ่น ผู้ถือหุ้นลำดับที่ 7 จำนวน 15,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 2.50 %

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เนื่องจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 หมวด 9 ว่าด้วยการขัดกันแห่งผลประโยชน์ มาตรา 187 กำหนดให้รัฐมนตรีต้องไม่เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท หรือไม่คงไว้ซึ่งความเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วน หรือ บริษัทต่อไปตามจำนวนที่กฎหมายบัญญัติและต้องไม่เป็นลูกจ้างของบุคคลใด

ในกรณีที่รัฐมนตรีประสงค์จะได้รับผลประโยชน์จากกรณีตามวรรคหนึ่งต่อไป ให้แจ้งประธานป.ป.ช.ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้ง และให้โอนหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทดังกล่าวให้แก่นิติบุคคลซึ่งจัดการทรัพย์สินเพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ

รัฐมนตรีจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้นหรือกิจการของห้างหุ้นส่วน หรือ บริษัทตามวรรคสองไม่ว่าทางใด ๆ มิได้

มาตรานี้เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้น ให้ใช้บังคับแก่คู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของรัฐมนตรี และการถือหุ้นของรัฐมนตรีที่อยู่ในความครอบครองหรือดูแลของบุคคลอื่นไม่ว่าโดยทางใด ๆ ด้วย

ประกอบกับพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ.2543 มาตรา 4 รัฐมนตรีต้องไม่เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท หรือไม่คงไว้ซึ่งความเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท เว้นแต่ในกรณีดังต่อไปนี้

(1) ในห้างหุ้นส่วนจำกัด รัฐมนตรีเป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดได้ไม่เกินร้อยละห้าของทุนทั้งหมดของห้างหุ้นส่วนจำกัดนั้น

(2) ในบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด รัฐมนตรีเป็นผู้ถือหุ้นได้ไม่เกินร้อยละห้าของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่จำหน่ายได้ในบริษัทนั้น
มาตรา 5 ในกรณีที่รัฐมนตรีประสงค์จะได้รับประโยชน์จากการเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทในส่วนที่เกินกว่าจำนวนที่กำหนดไว้ในมาตรา 4 ให้รัฐมนตรีดำเนินการดังต่อไปนี้

(1) แจ้งเป็นหนังสือให้ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติทราบภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี และ

(2) โอนหุ้นส่วนหรือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้นให้นิติบุคคลภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ได้แจ้งให้ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติทราบ และเมื่อได้ดำเนินการโอนหุ้นส่วนหรือหุ้นให้กับนิติบุคคลใดแล้ว ให้รัฐมนตรีแจ้งเป็นหนังสือให้ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติทราบภายในสิบวันนับแต่วันที่ได้โอนหุ้นส่วนหรือหุ้นนั้น

ทั้งนี้ เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ.2543 มาตรา 10 กำหนดว่าเมื่อรัฐมนตรีได้ดำเนินการโอนหุ้นส่วนหรือหุ้นให้กับนิติบุคคลแล้ว ให้นิติบุคคลนั้นรายงานการรับโอนหุ้นส่วนหรือหุ้น พร้อมทั้งส่งสำเนาของสัญญาจัดการหุ้นส่วนหรือหุ้นของรัฐมนตรีกับคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในสิบวันนับแต่วันที่ได้ลงนามในสัญญา ในการนี้ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.จัดให้มีการเปิดเผยสำเนาของสัญญานั้นให้ประชาชนทราบตามวิธีการที่เห็นสมควรโดยไม่ชักช้า