คดีจำนำข้าว : วิษณุ จ่ออุทธรณ์ศาลปกครองสูงสุด ยื้อยึดทรัพย์ “ยิ่งลักษณ์”

วิษณุ-เนติบริกร กางตำรากฎหมาย จ่อ ยื่นอุทธรณ์ศาลปกครองกลางภายใน 30 วัน หลังศาลปกครองกลาง เพิกถอนคำสั่งยึดทรัพย์ 3.5 หมื่นล้าน ดคีโกงจำนำข้าว

เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลปกครองกลางเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและประธานกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กบข.) ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน 3.5 หมื่นล้านบาท กรณีปล่อยให้มีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ว่า

ที่ผ่านมายึดไปแล้วไม่ถึง 100 ล้านบาท แต่ไม่แน่ใจว่าขายทอดตลาดไปแล้วหรือยัง และเตรียมที่จะยึดต่อ แต่เมื่อศาลปกครองมีคำสั่งให้หยุดก็ต้องหยุด ค้างเอาไว้ก่อน คืนไม่ได้ เพราะหากวันหน้าอุทธรณ์ชนะ มันไม่ได้ ดังนั้น คดียังไม่ถึงที่สุดก็ต้องอุทธรณ์ศาลปกครองสูงสุดภายใน 30 วัน โดยกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นเจ้าทุกข์ และมีอัยการดำเนินการช่วยดำเนินการให้ ทั้งนี้ ทรัพย์ที่ยึดไว้แล้ว เช่น ที่ดินในจังหวัดเชียงใหม่มูลค่าหลักสิบล้าน และบ้านพักในซอยโยธินพัฒนา 3

“วันก่อนศาลตัดสินเรื่องของคุณบุญทรง คุณภูมิ สาระผล ให้ยึดได้ เขาก็อุทธรณ์และศาลก็สั่งให้หยุด แต่คดียังไม่ถึงที่สุด รัฐก็ต้องอุทธรณ์อยู่ดี ภายใน 30 วัน”

นายวิษณุกล่าวว่า ชนะบ้าง แพ้คดีบ้าง ไม่มีปัญหาอะไร เป็นเรื่องธรรมดา แต่อย่าไปบอกแล้วกันว่า พอศาลตัดสินว่าชนะก็บอกว่า ศาลยุติธรรม พอแพ้ก็บอกว่า ไม่ยุติธรรม เอียง สองมาตรฐาน ปล่อยให้คดีเดินไปถึงที่สุด

เมือถามว่า คำสั่งของศาลปกครองกลางจะมีผลต่อคดีอาญาของศาลฎีกาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า คดีนี้เริ่มต้นจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองซึ่งพิพากษาว่ามีความผิดในฐานะละเว้นในฐานะประธานนบข. และต่อมาป.ป.ช.บอกให้ไปยึดทรัพย์ แต่เมื่อศาลปกครองมีคำสั่งให้หยุด ก็ต้องหยุด แต่ยังไม่สามารถกล่าวอ้างได้ว่าไม่มีความผิด เพราะคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองยังอยู่ แต่ขอให้ขีดเส้นใต้ว่า (ศาลปกครองกลาง) เป็นเพียงศาลชั้นต้นเห็นว่าไม่ผิด ก็อุทธรณ์ขึ้นไป ซึ่งมีประเด็นที่อุทธรณ์ได้