เบื้องหลัง ทักษิณ ประกาศข้ามหัว ประยุทธ์ เจรจาซื้อวัคซีนรัสเซีย

ทักษิณ-ประยุทธ์-วัคซีน

แม้อยู่คนละประเทศ แต่อิทธิฤทธิ์ของ “พี่โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังข้ามฟ้า ข้ามแผ่นดินวิพากษ์แผนการจัดหาวัคซีนของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เมื่อ “ทักษิณ” พูดใน Club house : Tony Woodsome อีกครั้ง โดยมีการสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ฟังในการก้าวข้ามผ่านวิกฤตโควิด-19 ในระลอกของเดือนเมษายน

ตอนหนึ่ง “ทักษิณ” สอนเรื่องการจัดการปัญหาวัคซีนในไทย แจกงานไปยังเจ้าสัวระดับประเทศให้ช่วยเจรจากับพันธมิตร ทั้งจีน สิงคโปร์

“สำหรับกรณีวัคซีน ผมว่าต้องไปร่วมกับหลายประเทศ นักธุรกิจหลายคนมีขีดความสามารถที่จะไปเจรจากับบริษัทผลิตวัคซีน เช่น จีน สิงคโปร์ รัสเซีย อย่างตะวันออกกลางใช้ซิโนฟาร์มเยอะมาก นักธุรกิจชั้นนำของไทยมีคอนเนกชั่นมากมาย ขอให้แต่ละคนช่วยกันเจรจาสิครับ”

“เช่น เจ้าสัวธนินท์ ขอให้ท่านไปช่วยเจรจากับประเทศจีน เจ้าสัวเจริญ ไปเจรจากับสิงคโปร์”

ก่อนวกกลับมาที่ตนเอง “หรือจะให้ผมไปช่วยคุยกับ ปูติน รัสเซียก็ได้ สรุป คือ รัฐบาลเองจะต้องตื่นตัวมากกว่านี้ พอได้มา ก็รีบกระจายวัคซีน ไม่ใช่กระจุกอยู่ที่เดียว โดยเฉพาะอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและร้านอาหารต้องฉีดก่อน”

กลายเป็นพาดหัวข่าวของสื่อหลายสำนักเป็นทำนองเดียวกันว่า “ทักษิณ” เสนอตัวเจรจา “ปูติน”

ทั้งนี้ หากสะกดรอยความสัมพันธ์ “ทักษิณ- วลาดิเมียร์ ปูติน” พบว่า ทั้งสองเชื่อมโยงกันมานานเป็นทศวรรษ ตั้งแต่ “ทักษิณ” เป็นนายกรัฐมนตรี

ในเว็บไซต์ “สถานทูตรัสเซียประจำประเทศไทย” บันทึกสายสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างไทย – รัสเซียในยุคที่ “ทักษิณ” เป็นนายกฯ ไว้ตอนหนึ่งว่า

“เหตุการณ์สำคัญในการพัฒนาการเจรจาทางการเมืองระหว่างรัสเซีย-ไทยได้แก่การเยือนประเทศไทยเป็นครั้งแรกของผู้นำรัสเซีย นั่นคือการเยือนของนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซียเมื่อเดือนตุลาคม 2546 รวมถึงการเดินทางกลับมาอีกครั้งเพื่อเข้าร่วมในสัปดาห์ผู้นำเวทีความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ที่กรุงเทพฯ”

อีกตอนหนึ่ง ระบุถึง 2 นายกฯ ชินวัตร “ทักษิณ – ยิ่งลักษณ์” ว่า “ฯพณฯ นายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทยเดินทางเยือนรัสเซียเมื่อปี 2545 และ 2549 และน้องสาวของท่านคือ ฯพณฯ นางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทยยังได้พบปะกับ ฯพณฯ นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซียในการประชุมในสัปดาห์ผู้นำเอเปกที่เมืองวลาดิวอสต็อก (รัสเซีย) เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2555”

อีกทั้งในยุครัฐบาลทักษิณ ยังมีพิธีกรรมทางการทูตที่สำคัญคือ “ทักษิณ – ปูติน” ร่วมเป็นสักขีพยานในการ “ยกเลิกวีซ่า” ของ 2 ประเทศ ในชื่อทางการว่า “ลงนามความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการใช้วีซ่าผ่านทางระหว่าง 2 ประเทศ” โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของ 2 ชาติ เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2548

แต่แล้ว หลังรัฐบาลทักษิณ ถูกรัฐประหารในเดือนกันยายน 2549 “ทักษิณ” กลายเป็น “นายกพเนจร” ทว่ารัสเซียกลายเป็นเป้าหมายหนึ่งที่ “ทักษิณ” โคจรแวะเวียน เข้า – ออก รัสเซียทั้งที่เป็นข่าว – ไม่เป็นข่าว

เช่น ตามรายงานของ นสพ.เดอะ มอสโคว์ ไทม์ส ในเดือนกันยายน 2553 (ซึ่ง ณ วันนั้น ไทยมีนายกฯ ชื่อ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ขณะที่พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคฝ่ายค้าน) ว่า

“ทักษิณ” พบแกนนำฝ่ายค้านไทย 7 คน ที่กรุงมอสโคว์ รัสเซีย ขณะที่ทางการรัสเซียปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเรื่องการเดินทางมายังกรุงมอสโคว์ของพ.ต.ท.ทักษิณ (ยศขณะนั้น) ซึ่งเป็นเพื่อนกับนายวลาดิเมียร์ ปูติน นายกฯรัสเซีย

อย่างไรก็ตาม ข่าวชิ้นนี้ดันไปสอดคล้องกับข้อมูลของ “เว็บไซต์วิกิลีกส์” ที่ตีแผ่ข้อมูลลับของรัฐบาล – ผู้ทรงอิทธิพลของโลก ช่วงเดือนธันวาคม 2553 โดยปรากฏข่าวบนเว็บไซต์ดังกล่าวว่า หลังการยึดอำนาจ “ทักษิณ” ยังเดินทางเข้าประเทศรัสเซียหลายครั้ง และมีความสัมพันธ์อันดีกับ “ปูติน”

“นพดล ปัทมะ” ซึ่งทำหน้าที่ที่ปรึกษากฎหมายทักษิณในขณะนั้น ชี้แจงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับนายวลาดิเมียร์ ปูติน เพราะเคยทำงานร่วมกันสมัยเป็นนายกรัฐมนตรี มีความนับถือซึ่งกันและกัน แต่เป็นในส่วนเฉพาะการทำงานเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม “ทักษิณ” เองก็เคยโพสต์รูปภาพหวนความหลังตอนเยือนรัสเซีย เมื่อ 15 กันยายน 2561 พร้อมข้อความว่า

“มีโอกาสได้มาเยี่ยมเพื่อนและทำธุระที่กรุงมอสโกครับ นึกขึ้นได้ว่ามีรูปที่เคยถ่ายไว้เมื่อ 8 ปีที่แล้ว เลยส่งมาให้ทายกันดูครับว่า รูปไหนเป็นรูปผมตอนปัจจุบัน?”

แต่ในฐานะ “คนภายนอก” ใครจะรู้ถึงความสัมพันธ์ลึกระหว่าง “ทักษิณ – ปูติน” ได้เท่ากับ “นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช” หรือ “หมอมิ้ง” หัวหอกกลุ่มแคร์ ผู้ทำงานใกล้ชิด “ทักษิณ” ตั้งแต่ทำธุรกิจโทรคมนาคม จนถึงมีอำนาจเป็นผู้บริหารประเทศ

“หมอมิ้ง” อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เล่าสิ่งที่พบเห็น ในความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่าง “ทักษิณ” และ “ปูติน” ในมุมที่นอกเหนือจากข่าวทั่วไป ว่า ท่านนายกฯ ทักษิณ กับ ปูตินเคยจัดเจอกันที่บ้านพักเพื่อกินข้าวกัน ก่อนที่ปูตินจะให้คณะบอดี้การ์ดนั่งรอในบ้าน แล้วปูตินก็ขับรถมารับท่านทักษิณแบบตัวต่อตัว

อาจจะด้วยความสัมพันธ์ ที่ยาวนานดังกล่าว ทำให้ “ทักษิณ” กล้าประกาศในคลับเฮาส์การเมืองว่า จะเปิดหน้าแทนรัฐบาล “ประยุทธ์” เพื่อดีลเจรจาซื้อวัคซีนจากรัสเซีย

ทว่า พล.อ.ประยุทธ์ ตอบโต้กลับไปว่า  “ผมไม่ตอบ อย่าเอาคำถามคนที่ไม่ได้อยู่ในประเทศไทยมาถามผม ผมไม่รู้จัก ผมไม่รู้เรื่องเขา”