“เพนกวิน” อาการทรุด ราชทัณฑ์ส่งเข้าโรงพยาบาลรามาธิบดี

เพนกวินอดข้าวประท้วงวันที่ 3
แฟ้มภาพ

เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ส่งตัว “เพนกวิน” เข้ารักษาโรงพยาบาลรามาธิบดี ให้อาหารทางหลอดเลือด หลังอาการทรุด

วันที่ 30 เมษายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ทวิตเตอร์ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นำตัวนายพริษฐ์ ชีวารักษ์ หรือ “เพนกวิน” ส่งโรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อรับการรักษาพร้อมให้สารอาหารทางหลอดเลือดแดง และส่องกล้องตรวจกระเพาะอาหาร เนื่องจากมีการขับถ่ายออกมาเป็นเลือด

ขณะที่ นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีและโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่ “เพนกวิน” ได้สมัครใจอดอาหารตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2564 จนถึงปัจจุบัน จนทำให้น้ำหนักตัวลดลงจาก 107 กิโลกรัม เหลือ 94.5 กิโลกรัมนั้น

แม้ที่ผ่านมา จะยังไม่มีอาการบ่งชี้ว่า อยู่ในภาวะวิกฤตตามที่กรมราชทัณฑ์ได้มีการชี้แจงไปแล้ว แต่เนื่องจาก “เพนกวิน” ได้อดอาหารเป็นเวลานาน จนร่างกายไม่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ อีกทั้งในวันนี้ (30 เม.ย.) “เพนกวิน” เริ่มดื่มน้ำเกลือแร่ได้น้อยลง และมีอาการปวดบริเวณที่ให้สายน้ำทางหลอดเลือดดำจึงต้องถอดสายน้ำเกลือไว้ก่อน

แพทย์และพยาบาลมีความกังวลว่า อาจเกิดภาวะช็อคได้ จึงมีความเห็นว่า ควรส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนอกเรือนจำ เพื่อรับการรักษาจากแพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ ซึ่งได้ส่งตัว “เพนกวิน” เข้ารักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดี

โดยมี รศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี รับมอบผู้ป่วยเข้าทำการรักษา ภายใต้การควบคุมดูแลของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์อย่างเคร่งครัด หาก “เพนกวิน” ได้รับการรักษาจนอาการดีขึ้นแล้ว จะดำเนินการส่งตัวกลับเข้ารับการรักษาในที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ต่อไป

กรมราชทัณฑ์-เพนกวิน

ด้าน นางสาวสุรีย์รัตน์ ชีวารักษ์ หรือ “แม่ของเพนกวิน” ได้ประกาศตนเรียกร้องความยุติธรรมด้วยการโกนหัวที่บริเวณหน้าศาลอาญา ถนนรัชดา ขณะรอฟังผลการยื่นประกันตัวลูกชายครั้งที่ 10

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (29 เม.ย.) กรมราชทัณฑ์ ได้ออกมาชี้แจงกรณีที่มีข่าวว่า “เพนกวิน” อาการน่าเป็นห่วง ร่างกายเริ่มย่อยกระเพาะตัวเอง โดยระบุว่า “เพนกวิน” ไม่ได้อาการทรุดตามที่เป็นข่าว สภาพทั่วไป ยังรู้สึกตัวดี พูดคุยรู้เรื่อง มีอาการอ่อนเพลียเล็กน้อย ริมฝีปากแห้ง ไม่มีอาการเวียนศีรษะ ไม่มีอาการวูบ สามารถลุกเดินและทำกิจวัตรประจำวันได้ ยังคงปฏิเสธการรับประทานอาหาร

นอกจากนี้ ยังไม่มีอาการถ่ายดำหรือถ่ายเป็นเลือด มีอาการปวดท้องเล็กน้อยรอบข้างสะดือค่อนมาทางซ้าย ปัสสาวะปกติ รับประทานยาเคลือบกระเพาะ ตามแผนการรักษาของแพทย์

ด้านนางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ “รุ้ง” ที่ปฏิเสธการรับประทานอาหารเช่นกัน เลือกรับประทานเพียงน้ำดื่ม เกลือแร่ น้ำผลไม้ และนมเท่านั้น ซึ่งจากการตรวจอาการเมื่อวันที่ 28 เม.ย. 64 พบว่า รู้สึกตัวดี มีสีหน้าปกติ พูดคุยรู้เรื่อง ช่วยเหลือตัวเองได้ปกติ น้ำหนัก 100 กิโลกรัม ไม่มีอาการอ่อนเพลีย และไม่มีอาการเวียนศีรษะ สภาพร่างกายโดยทั่วไปปกติดี