ถอนตัวจากรัฐบาล ส.ส.อันวาร์ ประชาธิปัตย์ กังขา คดีธรรมนัส

ส.ส.ประชาธิปัตย์ ส่งหนังสือถึงสมาชิกพรรค จวก นายกฯ ดูแคลนประชาชน ตั้ง “ธรรมนัส” เป็นรัฐมนตรี ไม่ยอมปรับตัวแก้ปัญหาโควิด -19 ชงถอนตัวร่วมรัฐบาล

เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2564 นายอันวาร์ สาและ ส.ส. ปัตตานี และรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้ทำหนังสือถึงประธานคณะกรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทั่วประเทศ เสนอขอให้พรรคถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล เพื่อแก้ไขปัญหาของชาติ จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และ ส.ส.พะเยา ไม่พ้นสภาพ ส.ส. เพราะเป็นการกระทําผิดในต่างประเทศ

และถูกจําคุกด้วยคําวินิจฉัยของศาลต่างประเทศ ซึ่งไม่เกี่ยวกับศาลไทย จึงทําให้เกิดวิกฤตศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรมเพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยมีศาลรัฐธรรมนูญตกเป็นจําเลยของสังคม แม้ในคําวินิจฉัยศาลจะพยายามอ้างเหตุผลพร้อมทั้งตัวบทกฎหมายอย่างไรก็ตาม แต่ดูเสมือนสังคมไม่ยอมรับ

ทั้งนี้ นายอันวาร์ได้ ยกความเห็นของสุณัย ผาสุก ที่ปรึกษาฮิวแมนไรท์ วอทช์ ประจำประเทศไทยว่า “คําวินิจฉัยที่น่าตกใจยิ่งของศาลรัฐธรรมนูญนี้จะทําให้บรรดาอาชญากรทั้งหลายที่ถูกพิพากษาคดีในศาลประเทศอื่น สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้ในประเทศไทยอย่างไร้กังวล อาชญากรรมที่คนเหล่านี้ ก่อไว้ในต่างแดน ไม่ว่าจะร้ายแรงแค่ไหน ไม่มีความหมายในกระบวนการยุติธรรมของไทย”

นอกจากนี้สื่อออสเตรเลียยังรายงาน เรื่องคําตัดสินของศาลไทยพร้อมทั้งมีคําวิจารณ์ต่อด้วยว่าโจรที่ไหนก็เข้ามาทํางานการเมืองไทยได้ ถ้าไม่ได้ทําผิดในประเทศไทย ซึ่งข่าวนี้เป็นกระแสดังไปทั่วโลกเพราะทุกประเทศก็ทราบกันดีว่าองค์การสหประชาชาติตระหนักถึงความสําคัญของปัญหายาเสพติด

ที่จะต้องมีความจําเป็นในการร่วมมือระหว่างประเทศในการควบคุมจึงได้มีการจัดทําอนุสัญญาด้านยาเสพติดเพื่อให้สามารถนํามาใช้ เป็นเครื่องมือ (Legal instruments) ในการควบคุมยาเสพติด ทําให้มีอนุสัญญาที่สําคัญเกิดขึ้นจํานวน 3 ฉบับ ซึ่ง มีประเทศต่างๆได้ให้การยอมรับและเข้าเป็นภาคีแล้ว โดยการให้สัตยาบันเป็นจํานวนมาก และสําหรับประเทศไทยนั้น ในฐานะที่เป็น สมาชิกขององค์กรสหประชาชาติจึงได้ร่วมเป็นภาคีในอนุสัญญา 3 ฉบับข้างต้นแล้ว

นายอันวาร์ กล่าวว่า ตนไม่โทษศาลรัฐธรรมนูญ และก็จะไม่โทษ ร.อ.ธรรมนัส แต่จะโทษ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เพราะปัญหาทั้งหมดเกิดจากท่านนายกฯไม่ใช่หรือ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าเบื้องหลัง ร.อ.ธรรมนัส เป็นอย่างไร แต่ไม่สนใจ กลับแต่งตั้งมาเป็นรัฐมนตรี

“การกระทําเช่นนั้นเท่ากับเป็นการดูแคลนประชาชนคนไทยทั้งประเทศ และเมื่อเกิดกระแสสังคมต่อต้านทําให้ ร.อ.ธรรมนัสมีความจําเป็นต้องออกมาประกาศให้สังคมทราบผ่านสื่อเมื่อวันที่ 11 ก.ค. 62 ว่า “ผมคือเส้นเลือดใหญ่ เลี้ยงหัวใจรัฐบาล ผมกุมความลับ ดีลต่อรองหากล้มผมได้รัฐบาลก็สั่นคลอน” นี่น่าจะเป็นเหตุผลที่ท่านนายกฯต้องแต่งตั้งหรือไม่ ทั้งๆ ที่เคยประกาศว่าจะต่อต้านนักการเมืองเลวๆในทุกรูปแบบ ซึ่งท่านไม่ได้ให้คําจํากัดความว่านักการเมืองเลวๆ ในความหมายของท่านคืออย่างไร แล้วในพรรคร่วมรัฐบาลมีหรือไม่” นายอันวาร์ กล่าว

นายอันวาร์ กล่าวว่า สรุปแล้วปัญหาทั้งหมดเกิดจากใคร เกิดจากนายกฯหรือไม่ และเมื่อมีปัญหาที่ต้องแก้ไข ท่านก็โยนให้องคก์รอิสระที่มีอยู่ มาจัดการแทน ทำให้สังคมแตกแยกกันในเรื่องความคิด ซึ่งจะนําไปสู่วิกฤตศรัทธา คงจํากันได้ ที่ตนเสนอว่า ต้องร่วมรัฐบาล ด้วยความจริงใจ ทําในสิ่งถูกให้เป็นถูกผิดให้เป็นผิด

ปัญหาจะแก้ไขได้อย่าเห็นแก่การร่วมรัฐบาล ต้องเห็นแก่ประชาชนและประเทศชาติ วันนี้รัฐบาลมีปัญหามาก สังคมวิตก ภาคเอกชนก็แสดงความจริงใจที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาเรื่องวัคซีนแต่รัฐบาลก็ปฏิเสธ ปัญหาต่างๆรุมเร้า และยังไม่มีแนวทางชัดเจนที่จะแก้ไข

การที่ฝ่ายค้านเรียกร้องให้ท่านนายกฯลาออก คงเป็นไปไม่ได้ เพราะท่านคิดว่า ท่านไม่ผิด คิดว่าวิกฤติทั้งหมดเกิดจากวิกฤติโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องโควิด แต่คงไม่มีใครกล้า เตือน ว่าปัญหาทั้งหมดเกิดจากตัวผู้นํา ทั้งๆ ที่ตัวอย่างก็มีให้เห็นแล้วที่สหรัฐอเมริกาผู้นําเปลี่ยน วิกฤติเปลี่ยน

“ดังนั้น เมื่อฝ่ายค้านเรียกร้องให้ท่านนายกฯลาออกซึ่งท่านคงไม่ออก ท่านก็คงอยู่อย่างนี้ทุกอย่างก็คงเหมือนเดิมเพราะพรรคร่วมรัฐบาลก็เป็นพรรคเดิม ก็คงคิดแบบเดิม ๆ แนวทางที่จะแก้ไขปัญหาก็ไม่ชัดเจน ผมจึงขอเสนอสิ่งที่ผมเคยเสนอเอาไว้หลายคร้ัง ว่า พรรคประชาธิปัตย์ควรใช้โอกาสนี้แก้ไขปัญหาของประเทศชาติ ด้วยการถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาลเพื่อเปิดโอกาสให้มีการเปลี่ยนแปลงตามกลไกของระบอบประชาธิปไตย” นายอันวาร์ กล่าว