เปิดทีมแบ็กอัพเก้าอี้ “ประยุทธ์” เครือข่าย 3 ป. เหนียว หมอ-เทคโนแครตแน่น

รายงานพิเศษ

มีไม่กี่คนที่ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไว้เนื้อ-เชื่อใจ “ขอคำปรึกษา” นอกเหนือพี่-น้อง 3 ป.บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี-บิ๊กป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

ไม่ใช่นักการเมือง-เสนาบดีพรรคร่วมรัฐบาล แต่เป็นข้าราชการ-เสนาธิการเศรษฐกิจ ขุนทหาร-เสธ.กองทัพในวงลับสุดยอด-ชั้นในสุดของตึกไทยคู่ฟ้า โดยมี ส.ว. 250 คน เป็น “สภาพี่เลี้ยง”

ท่ามกลางเสียงเรียกร้องให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว-โดดเดี่ยว พล.อ.ประยุทธ์ ภายหลังเสียงประชาชนนอกทำเนียบรัฐบาลได้ประเมิน-ให้คะแนนรัฐบาลอยู่ในภาวะ “ติดลบ” มากกว่า “บวก”

12 อรหันต์-องค์คณะพิเศษ

เมื่อ “พล.อ.ประยุทธ์” ต้องใช้ “ทีเด็ด ทีขาด” ออกมาตรการช่วยเหลือธุรกิจ-เยียวยาประชาชนผ่านสารพัดมาตรการบรรเทาผลกระทบจากพิษโควิด-19 “องค์คณะพิเศษ” จึงถูกเรียกใช้บริการ เพื่อระดมสมอง พิจารณาข้อดี-ข้อเสีย และผลกระทบก่อนคลอดมาตรการ-งบประมาณด้านเศรษฐกิจและสาธารณสุขด้วยการส่งเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แบบ “ด่วนที่สุด” ในแฟ้มที่ระบุว่า “วาระสำคัญของรัฐบาล” นอกเหนือจากวาระพิจารณาปกติ

องค์คณะพิเศษประกอบด้วย 12 อรหันต์ 1.นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน 2.พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 3.นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี

4.นายทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานคณะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี 5.นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และกรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี 6.นายปิติ ตันฑเกษม ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคาร ทีทีบี

7.นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย 8.นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 9.นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง 10.พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)

11.น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และ 12.เลขาฯอู-ดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์

เบื้องหลัง 40 ซีอีโอพลัส

12 อรหันต์จะถูกจัดสรรภารกิจตามความชำนาญ ยิ่งช่วงวิกฤตโควิด-19 กระแทกรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์จนกองหนุน-กองเชียร์ภาคประชาชนกระโดดลงเรือแป๊ะ แต่ “พลังบวก” ที่เห็น-เป็นอยู่ คือ ภาคธุรกิจ-เอกชนที่ยังคงเหนียวแน่น

เบื้องหลังหอการค้าแห่งประเทศไทย-40 ซีอีโอพลัส 80 ชีวิต “วิดีโอคอล” กับ “พล.อ.ประยุทธ์” หาทางออกจากวิกฤตโควิด 19 “ระลอก 4” มี “สุพัฒนพงษ์” มือขวาพล.อ.ประยุทธ์-ขุนคลัง-อาคม “เลขาฯสภาพัฒน์” เป็น “เจ้าภาพร่วม”

บรรทัดสุดท้ายของการหารือ คือ การยืนยันเปิดประเทศภายใน 120 วัน พ่วงด้วย 4 ข้อเสนอ 1.การควบคุมการแพร่ระบาด 2.การเยียวยาผู้ประกอบการและประชาชน 3.การกระตุ้นเศรษฐกิจ และการลงทุน 4.การตั้งคณะกรรมการร่วมรัฐเอกชน

ไม่ใช่ครั้งแรก แต่เป็น “ดอกผล” จากการแตกกิ่ง-ต่อยอดจากการประชุมอย่างน้อย 2 ครั้งก่อนหน้านี้

ครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2563 “พล.อ.ประยุทธ์” เปิดทำเนียบรัฐบาลต้อนรับ 70 ซีอีโอตัวเป็น ๆ เป็นการพบปะในรูปแบบ workshop ถึง 3 รอบ เพื่อรับฟังมุมมอง-ปัญหาโดยตรงจากภาคธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ-โลจิสติกส์ และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2564 รูปธรรมในวันนั้น คือ คำมั่น-สัญญาของ “พล.อ.ประยุทธ์” ในการจัดหาวัคซีนให้ครบ 100 ล้านโดส และฉีดวัคซีนให้คนไทยร้อยละ 70 หรือประชากร 50 ล้านคน ภายในสิ้นปี 2564

การตั้ง “ทีมไทยแลนด์” โดยมอบหมายให้นายสุพัฒนพงษ์เป็น “แม่งาน” ประสานกับภาคเอกชน และมอบหมายให้ “เลขาฯอู” และ “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล “เลขาฯสมช. ประสานงานในรายละเอียด

วงในไข่แดง-ลับเฉพาะ

สำหรับวงไข่แดง-ไข่ขาว มี “ทีม เสธ.ตึกไทยคู่ฟ้า” คอยเสิร์ฟ “แฟ้มลับสุดยอด” ให้กับ “พล.อ.ประยุทธ์” อาทิ “เสธ.มิตต์” พล.ต.นิมิตต์ สุวรรณรัฐ “เสธ.นิว” พล.ท.นิธิ จึงเจริญ ผู้ช่วยหัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

ในช่วง “หัวเลี้ยวหัวต่อ” สงครามโควิด-สงครามข่าวสาร ยังมี “ทีมปฏิบัติการ” ปฏิบัติหน้าที่ “เฉพาะกิจ” จากห้องปฏิบัติการชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า คอย “มอนิเตอร์” ข่าวเท็จ-ป้อนข่าวจริง

นอกจากนี้ ยังมี “เสธ.ก้อง” พล.ต.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ และ “ลิซ่า” พ.อ.หญิงทักษดา สังขจันทร์ ที่ถูกดึงมาช่วยงาน-ผู้ช่วยโฆษกรัฐบาลประยุทธ์ 1 ตั้งแต่ยุค คสช.มาช่วยงาน-คุ้นมือ

ส่วนแนวรบ-แนวร่วมกับสื่อ “ผอ.นัท” น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ อดีตผู้อำนวยการสำนักโฆษก คอยจัดแจงเวทีให้สัมภาษณ์นักข่าว ส่งข้อมูลด้านบวก-เติมคะแนนให้ พล.อ.ประยุทธ์-รัฐมนตรี ปัจจุบันได้รับตำแหน่ง “ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี” ฝ่ายข้าราชการประจำ

ทีมเฉพาะกิจ-วอร์รูมการเมือง

นอกจาก 12 อรหันต์ ทีมลับสุดยอดแล้ว “พล.อ.ประยุทธ์” ยังมี “ทีมเฉพาะกิจ” ที่คอยให้คำปรึกษา-รับคำบัญชาภารกิจสำคัญ “ระดับชาติ” สามารถเรียกใช้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

“พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ที่ย้ายข้ามฟากมาจากพรรคประชาธิปัตย์ เป็น “มือกฎหมาย” คอยอยู่เบื้องหลังภารกิจรื้อ-ล้างปัญหาที่ “ซุกอยู่ใต้พรม” เช่น ภารกิจ “ฟื้นฟู” บริษัทการบินไทย การ “พลิกคดี” เหมืองทองอัครา

“ประทีป กีรติเรขา” รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ในฐานะหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (ศบค.) ที่คอยจัด “วาระโควิด” เข้าที่ประชุม ศบค. ซึ่ง “ประทีป” ดีกรีไม่ธรรมดาเพราะเคยเป็นนักปกครองอยู่ในกระทรวงมหาดไทย สัมผัสงานบริหาร-มวลชน ได้เป็นผู้ว่าฯอธิบดีกรมที่ดิน และรองปลัดกระทรวงมหาดไทยมาแล้ว

รวมถึง “บรรสาน บุนนาค” รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง อดีตเอกอัครทูตไทย ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งคอยให้คำปรึกษาด้านต่างประเทศ

ขณะที่ “วอร์รูมการเมือง” ที่มี “กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี-เลขานุการรัฐมนตรี” 2 กุมารทองอย่าง “แรมโบ้อีสาน” เสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตมือบู๊บนเวทีเสื้อแดงเมื่อทศวรรษก่อน และย้ายฝั่งมาอยู่ขั้วอำนาจใหม่หลังการรัฐประหารปี 2557 เพียงไม่กี่วัน เมื่อนักการเมืองถูกเรียกตัวปรับทัศนคติด้วยเหตุผลที่คนในพรรคเพื่อไทยฟังแล้วเข้าใจได้

และ “ดร.แด็ก” ธนกร วังบุญคงชนะ คอยตอบโต้ทางการเมือง-องครักษ์พิทักษ์ พล.อ.ประยุทธ์ ที่แจ้งเกิดบนเวทีการเมืองในนามกลุ่มสามมิตรแห่งพลังประชารัฐ ก่อนจะขยับเข้าสู่ใจกลางอำนาจทำเนียบรัฐบาล

และ “ปลัดคนดัง” ที่รับ “ภารกิจร้อน” ตั้งพรรคสำรอง-พรรคอะไหล่ โดยรวบรวมสมัครพรรค-พวกต่างสี-อุดมการณ์ต่างขั้วให้มารวมตัว “เฉพาะกิจ” ภายใต้ยุทธศาสตร์ “แตกแบงก์ย่อย” ไว้เป็น “นั่งร้าน” ให้กับ “เครือข่ายอำนาจ 3 ป.”

14 อรหันต์ 3 ทีมที่ปรึกษาหมอ

ขาดไม่ได้คือ 14 อรหันต์ ทีมที่ปรึกษา “3 หมอ” ที่ “พล.อ.ประยุทธ์” ฟังมากที่สุด-มีส่วนในการตัดสินใจล็อกดาวน์-ไม่ล็อกดาวน์ทุกครั้ง ประกอบด้วย ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร ประธานคณะที่ปรึกษา ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นพ.อุดม คชินทร รองประธาน ศาสตราจารย์ นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

ศาสตราจารย์ นายแพทย์ สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ ศาสตราจารย์ นายแพทย์ปิยะมิตร ศรีธรา ศาสตราจารย์ นายแพทย์ อนันต์ ศรีเกียรติขจร ศาสตราจารย์ ดร.แพทย์หญิง จิรายุ เอื้อวรากุล รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ ไพโรจน์ จงบัญญัติเจริญ รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ดิลก ภิยโยทัย

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ จักราวุธ มณีฤทธิ์ ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์ สุรวิทย์ เตชธุวานันท์ ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์ สุวัฒน์ เบญจพลพิทักษ์ พลตรีสุรศักดิ์ ถนัดศีลธรรม กรรมการ พันเอก นายแพทย์ ภูษิต เฟื่องฟู กรรมการและเลขานุการ

ยังต้องนับรวม “ที่ปรึกษาหมอนอกทำเนียบ” อย่าง “หมอยง” ศาสตราจารย์ นพ.ยง ภู่วรวรรณ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขากุมารเวชศาสตร์ โรคทางเดินอาหาร โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล

เป็นทีมที่ปรึกษา-มดงานของ “พล.อ.ประยุทธ์” เป็น “แบ็กอัพ” ที่อยู่เบื้องหลังเสียงความมั่นใจของ “พล.อ.ประยุทธ์” กลางที่ประชุมครม. “จะทิ้งผมก็ไม่เป็นไร ผมก็จะทำงานต่อไป”