บทบาท “อุ๊งอิ๊ง” ในเพื่อไทย ภารกิจสร้างประชาธิปไตยที่กินได้

ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ศาสดาเอกของพรรคเพื่อไทย ตัดสินใจส่งลูกสาวคนสุดท้อง “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ลงสู่สนามการเมือง ในนามประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม

ในงานอีเวนต์ประชุมใหญ่พรรค บนธีม “พรุ่งนี้เพื่อไทย เพื่อชีวิตใหม่ประชาชน” ลูกสาวคนเล็กของครอบครัวชินวัตร เปิดตัวอลังการต่อจากการประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรคของ สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ 


“แพทองธาร” ไพ่ไบใหญ่ “ทักษิณ” เดิมพันเพื่อไทย ลุ้นชนะแลนด์สไลด์
แพทองธาร ชินวัตร ผงาดเพื่อไทย สมพงษ์ ลาออกหัวหน้า

เพื่อผลักดันคนรุ่นใหม่ขึ้นมาแทน เหมือนทิ้งไพ่ใบสุดท้าย ในสงครามครั้งสุดท้าย ไม่ต้องรอวันพรุ่งนี้

แม้ว่า “แพทองธาร” จะแตะเบรกดังเอี๊ยด ยืนยันว่ายังไม่ใช่ “นักการเมือง”   

“ตอนนี้ไม่ได้ทำงานการเมือง ไม่ใช่นักการเมือง แต่เป็นที่ปรึกษาพรรค จะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อผลักดันคนรุ่นใหม่ให้มีโอกาสมากขึ้นกว่านี้”

ส่วนเรื่องการเป็นแคนดิเดตนายกฯ หรือไม่ เธอตอบว่า “เมื่อถึงเวลาของอนาคตก็เป็นเรื่องของอนาคตไป ตอนนี้ขอทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด เต็มความตั้งใจ แค่นั้นก่อน”

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า สปอต์ไลท์ทางการเมืองต่างสาดส่องว่า เธอจะเป็น “แคนดิเดตนายกฯ” ของพรรคทักษิณคนต่อไป 

ในบรรดาเครือญาติ ที่ “ทักษิณ” เข็นลงสู่สนามการเมืองเป็น นายกรัฐมนตรีแล้ว 2 ราย คือ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ น้องเขย และ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 

อย่างไรก็ตาม ในสปีชแรกของ “อุ๊งอิ๊ง” เธอบอกภารกิจว่า อยากปฏิรูป 3 เรื่องหลักคือ 1.ปฏิรูปการศึกษา เพราะการเข้าถึงเทคโนโลยีน้อยมาก 2.ปฏิรูปเทคโนโลยีต้องเข้าถึงเทคโนโลยีให้มากกว่านี้ และ 3.เราจะต้องส่งเสริมซอฟต์เพาเวอร์อย่างจริงจังเหมือนเกาหลีบราซิล ญี่ปุ่น โดยเฉพาะเสรีภาพทางความคิด ดังนั้นผู้นำของประเทศจะต้องมีหัวใจประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

“จะต้องเป็นตัวแทนของคนทุกกลุ่ม ทุกวัย เทคโนโลยีผ่านไปอย่างมากมาย ขณะที่เรากำลังพูดกัน นักวิทยาศาสตร์ทั่วทุกมุมโลกกำลังคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อประโยชน์ของโลก ดิฉันมองเห็นว่าคนไทยพลาดกระบวนการพัฒนาเหล่านั้น เด็กรุ่นใหม่ยังคิดว่าพวกเขาพลาดขบวนเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ก้าวเข้ามา ขณะที่เทคโนโลยีก้าวผ่านไปเรื่อยๆ โดยที่พวกเขาไม่มีโอกาสคว้าเทคโนโลยีใหม่ๆ”

แม้การเปิดตัวของ “อุ๊งอิ๊ง” ไม่ถึง 72 ชั่วโมง ในโลกโซเชียลตามขุดเรื่องเก่าสมัยเอ็นทรานซ์เข้าเรียนในคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ตั้งข้อหาว่า “ใช้เส้น” จนทำให้เธอตอบกลับไปแบบเรียบๆ แต่ก็แสบเข้าเส้น  

“จุฬาฯ เส้นเข้าได้ด้วยเหรอคะ???  

เรื่องนี้ไม่เป็น “จุดอ่อน” สำหรับพรรคเพื่อไทย ที่วางตัว “อุ๊งอิ๊ง” ในฐานะประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม

หลังจากพรรคเพื่อไทย ปรับเปลี่ยนหัวหน้าพรรค – เปลี่ยนโครงสร้างคณะกรรมการบริหารพรรค เอาคนรุ่นกลาง คนรุ่นใหม่ รุ่นลูกของนักการเมืองรุ่นใหญ่เข้ามาเป็นบอร์ดบริหาร 23 ชีวิต พรรคเพื่อไทย วาง Position ของคณะที่ปรึกษา ที่มี ลูกสาวคนเล็กนามสกุลชินวัตรเป็นหัวหอก

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย อธิบายถึงบทบาท “ประธานคณะที่ปรึกษา” ว่า “คุณอุ๊งอิ๊ง เป็นประธานคณะที่ปรึกษา ในคณะก็จะมีคนรุ่นใหม่เข้ามารวมกลุ่มกัน ตั้งแต่ร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมการกระทำ นำไปสู่การปฏิบัติผ่านองค์กรทางการเมือง คือพรรคเพื่อไทย 

เมื่อเขาได้แนวทางของกระบวนการการคิด กระบวนการนำสู่การปฏิบัติแล้ว ตัวคณะที่ปรึกษาผลักด้วยตัวเองไม่ได้ ไม่มีอำนาจทางกฎหมายรองรับ ก็จะส่งมาให้พรรคการเมือง ซึ่งผมรับผิดชอบอยู่

จะมีสองทางจากคนรุ่นก่อน และ รุ่นใหม่เข้ามาประมวลรวมกัน แล้วดูว่าจะขับเคลื่อนนโยบายอย่างไร  เพื่อจะนำสิ่งที่คณะที่ปรึกษาได้เห็นภาพ ได้นำเสนอมุม เข้ามาที่พรรคการเมือง นำไปสู่แรงผลักของพรรคการเมือง สู่กลุ่มเป้าหมายคือคนรุ่นใหม่ เป็นการดึงอนาคตมาทำในปัจจุบัน 

การกำหนดนโยบายพรรคการเมืองที่เราบอกว่า ที่ชีวิตใหม่ที่ดีกว่ามาทำในปัจจุบัน ให้ประชาชนเห็นภาพและผลักเป็นนโยบาย นำมาสู่การปฏิบัติให้เกิดขึ้นในอนาคต การเมืองรุ่นใหม่จะเป็นอย่างนั้น

สิ่งที่เห็นจับต้องได้เป็นรูปธรรมที่สุดคือ ที่คุณแพทองธาร พูดคือ soft power เรื่องเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือ innovative economy สำคัญมาก เพราะมีผลต่อการใช้ชีวิตของเขา และจะเป็นอาชีพของคนรุ่นใหม่เป็นส่วนใหญ่ จะอาศัยให้คนเข้ามาจับต้องได้แบบจริงๆ มีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย มีส่วนร่วมในการรับประโยชน์จากสิ่งที่เขาคิดเขาอ่าน เรามั่นใจมากที่จะเจาะคนรุ่นใหม่ได้

“ขายอุดมการณ์อย่างเดียวลำบาก พอคนรุ่นใหม่เห็นอย่างนี้ คำว่าประชาธิปไตยที่กินได้จะเกิด ที่เราพยายามขายมาตลอดคือ ประชาธิปไตยที่กินได้ นำมาเป็นนโยบาย และผลักให้เขาจับต้องได้ รับประโยชน์ได้”

โดยสรุป บทบาทของ “อุ๊งอิ๊ง – แพรทองธาร” จะเข้ามาทำให้คำว่า “ประชาธิปไตย (ของพรรคเพื่อไทย) กินได้”