เลือกตั้งอีสาน 126 เขตฝุ่นตลบ “เพื่อไทย” รักษาที่มั่น “พปชร.-ภท.” รุกหนัก

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี แพ็กคู่ลงตีฐานที่มั่น (อดีต) เมืองหลวงคนเสื้อแดงอุดรธานี และยังเป็นหัวเมืองหลักของพรรคเพื่อไทยมาแต่ไหนแต่ไร

หยอดคำหวานว่า ไม่เคยทิ้งคนอีสาน “นายกฯในฐานะเป็นคนอีสานด้วยกัน ไม่เคยลืม ไม่เคยทิ้งอีสาน”

ภาพเบื้องหน้าการลงพื้นที่ของ “พล.อ.ประยุทธ์” ประกาศปั้น “อุดรธานี” ให้เป็นศูนย์กลางของอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (Hub of GMS) ได้อนุมัติงบประมาณ ปรับปรุงระบบโครงสร้างพื้นฐาน

1.รถไฟฟ้าความเร็วสูง กำลังเร่งก่อสร้าง จากกรุงเทพฯ-นครราชสีมา-ขอนแก่น ผ่านอุดรธานีสิ้นสุดที่หนองคาย และเชื่อมต่อกับระบบรถไฟลาว-จีน

2.ขยายท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี ซึ่งเป็นสนามบินภูมิภาคของกรมท่าอากาศยาน ให้รองรับผู้โดยสารให้ได้มากขึ้นเป็นจำนวน 7 ล้านคนต่อปี

3.ถนนมิตรภาพ อุดรธานี-หนองคาย กำลังขยายเป็น 6 เลนตลอดสาย ลงมือก่อสร้างแล้วในปีนี้ (2564) คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2567

4.ถนนสายใหม่ตัดตรง อุดรธานี-บึงกาฬ ปลายทางเชื่อมต่อสะพานข้ามแม่น้ำโขง แห่งที่ 5 บึงกาฬ-บอลิคำไซ มูลค่าประมาณ 5,500 ล้านบาท ให้กระทรวงคมนาคมตั้งงบประมาณก่อสร้างโดยเร็วต่อไป

เพื่อให้เชื่อมกับสะพานข้ามแม่น้ำโขง จ.บึงกาฬที่กำลังลงมือก่อสร้าง โดยชาวอุดรธานีและทุกจังหวัดในภูมิภาคนี้จะได้รับประโยชน์

หลังฉากการลงพื้นที่ของ “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” ที่หว่านเม็ดเงินผ่านโครงการต่าง ๆ หนีไม่พ้นการถูกตีความว่าเป็นยุทธวิธีเข้าตี-เข้าชิงพื้นที่อีสาน ในจังหวะที่การเลือกตั้งทั่วไปอาจขึ้นได้ทุกเมื่อ

ในการเลือกตั้งปี 2562 ภาคอีสานมีเขตเลือกตั้งตามกติการัฐธรรมนูญ 2560 (เลือกตั้งบัตรใบเดียว) 116 เขตเลือกตั้ง

เมื่อกติกาเปลี่ยนมาเป็นเลือกตั้งบัตร 2 ใบ ตามรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม การแบ่งเขตเลือกตั้งตามสูตรใหม่ อาจทำให้ภาคอีสานมีเขตเลือกตั้งทะลุไปถึง 126 เขต + – แปรผันตามจำนวนประชากรปีล่าสุดก่อนเลือกตั้ง

และเมื่อเขตเลือกตั้งภาคอีสานเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 เขตเลือกตั้ง ฐานอีสานกลายเป็นเป้าหมายสำคัญ และเป็นปัจจัยชี้ขาดชัยชนะที่หลายพรรคการเมือง ทุ่มทุนสร้าง เพื่อกระชากคะแนนจากพรรคเพื่อไทย ในฐานะถือกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของพื้นที่เลือกตั้งหลายสนาม

คล้อยหลังที่ พล.อ.ประยุทธ์-พล.อ.ประวิตร กลับเข้ากรุงเทพฯ “ไชยา พรหมา” ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทยในฐานะประธานโซนอีสานเหนือ จ.อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู เลย สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร วิเคราะห์ผลกระทบจากกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์-พล.อ.ประวิตร ลงพื้นที่อีสานว่า

ไม่น่ามีผลกระทบต่อฐานเสียงพรรคเพื่อไทยในอีสาน เพราะรัฐบาลแก้ไขปัญหาความลำบากของประชาชนในภาคอีสานไม่ได้ ทั้งเรื่องความเป็นอยู่ และราคาพืชผลทางการเกษตร

แม้แต่การนำคนมาต้อนรับประชาชนยังไม่เป็นไปตามธรรมชาติ มาจากการจัดตั้ง ซึ่งการแสดงออกตามธรรมชาติต้องมาจากตัวและหัวใจ ไม่ใช่เคอะ ๆ เขิน ๆ

“เป็นเรื่องปกติที่รัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐเจาะฐานเสียงอีสานของพรรคเพื่อไทย แต่ถามว่ามีนโยบายอะไรที่เป็นรูปธรรมสำหรับชาวอีสานบ้าง มีแต่นโยบายลด แลก แจก แถม ไม่ได้แก้ปัญหาโครงสร้างอย่างถาวร”

“คนอีสานไม่ได้เป็นคนโง่อีกต่อไปแล้ว เข้าถึงโซเชียลมีเดีย รู้ว่าอันไหนเป็นของจริง อันไหนเป็นภาพลวงตา”

“และแม้จะมีอำนาจรัฐอยู่ในมือ แต่ก็ใช่ว่าอำนาจรัฐจะไปสั่งการให้ประชาชนไปสนับสนุนรัฐบาลได้ทุกเรื่อง ในพื้นที่ของเพื่อไทยที่ครองอยู่ เชื่อว่าประชาชนยังเชื่อมั่น ยังอยากได้รัฐบาลที่มีความพร้อมมากกว่านี้”

“โดยเฉพาะความเชื่อใจในผลงาน นโยบาย และผู้นำของพรรคเพื่อไทยในอนาคตที่จะมาแก้ไขปัญหา” ไชยา ในฐานะประธานโซนอีสานเหนือ ผู้ถูก 2 ป.เจาะพื้นที่กล่าว

อย่างไรก็ตาม พื้นที่อีสานมิได้มีแต่พรรคพลังประชารัฐที่เข้าไปตีตลาด หวังฉกคะแนนจากพรรคเพื่อไทย

แต่พรรคภูมิใจไทย ที่เป็นพรรคอันแข็งแกร่งด้วยต้นทุนการเมือง ทุนธุรกิจ และทุนท้องถิ่น ก็หมายมั่นแผ่อิทธิพลไปในอีสาน ไปนอกเขตอีสานใต้ จึงมีข่าวการเจาะหลังบ้านพรรคเพื่อไทยหลายจังหวัด

เมื่อนายใหญ่ “ทักษิณ ชินวัตร” ยังไม่ปล่อยท่อน้ำเลี้ยง แม้จะส่ง “แพทองธาร ชินวัตร” ลูกสาวมานั่งตำแหน่งสำคัญในพรรคเพื่อไทย เพื่อการันตีว่า เลือกตั้งเที่ยวนี้ “เอาจริง” แต่ ส.ส.บางรายก็ยังหยั่งเชิง เหยียบเรือสองแคม

นอกจากนี้ ในความพยายามของ เนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่ภูมิใจไทยไม่จบที่การยึด “บุรีรัมย์” แบบเบ็ดเสร็จ แต่หวังยึดพื้นที่ จ.สุรินทร์ หลังจากเลือกตั้งปี 2562 ได้มาแค่เก้าอี้เดียว

คู่แข่งในลู่สนามอีสานใต้ วิเคราะห์จังหวะรุกภูมิใจไทยว่า “บุรีรัมย์ไม่ต้องห่วงพี่เน (เนวิน) ได้ทุกเขตเลือกตั้ง แต่บ้านเกิดจริง ๆ เขาคือ จ.สุรินทร์ ภูมิใจไทยได้เขตเดียว ทั้งที่ปู่ชัย (ชัย ชิดชอบ อดีตประธานสภา) คล้องช้างมาจากสุรินทร์ ตอนนี้ภูมิใจไทยรุกหนักมาก สุรินทร์เพื่อไทยโดนเจาะแน่นอน”

เช่นเดียวกับนครราชสีมา แม้ภูมิใจไทยไม่อาจยึดได้ทั้งจังหวัด แต่ก็ส่ง เสี่ยแป้งมัน “วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล” รมช.คมนาคม คุมเชิงไว้อยู่ ท่ามกลางข่าวปล่อยว่า “วิรัช รัตนเศรษฐ” อดีตประธานวิปรัฐบาล จะขนครอบครัวซบภูมิใจไทย แต่ก็เป็นเพียง “ข่าวปล่อย” ไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์

ยังไม่นับ “ก้าวไกล” ที่ประกาศแคมเปญ “อีสาน 2 เท่า” อัพเกรดเมืองอีสาน หรือไทยสร้างไทย ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พรรคหน้าใหม่ แต่คนเก่า-เก๋าในสนาม ที่รวบ “สุรวุฒิ เชิดชัย” กระเป๋าเงินบ้านใหญ่ “เชิดชัย” มาเป็นรองประธานคัดสรรภาคอีสานตอนใต้ หรือพรรคใหม่ของแก๊ง 4 กุมาร ที่เตรียมประกาศเปิดตัวปี 2565

แต่งานนี้อีสานเดือด